กรุงเทพฯ--30 เม.ย.--ฟ้า เอเจนซี่
การสร้างสังคมดิจิทัล (Digital Society) เป็นสิ่งที่ภาครัฐและหน่วยงานกำกับดูแลได้ให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นการสร้างประโยชน์ทั้งในแง่ทางสังคมและเศรษฐกิจจากการเชื่อมต่อบรอดแบนด์
บรอดแบนด์ได้สร้างผลดีต่อหลายๆ ด้านของชีวิต ทั้งการศึกษา การดูแลสุขภาพ ความมั่นคง ความมีประสิทธิภาพในการสื่อสาร การเติบโตของอุตสาหกรรม ความเจริญก้าวหน้าทางการวิจัยและพัฒนา ซึ่งส่งผลให้สังคมเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย
อย่างไรตาม ผลประโยชน์เหล่านี้จะเกิดขึ้นได้อย่างเต็มที่ผ่าน e-government, e-learning, และ e-health เมื่อทุกคนสามารถเชื่อมต่อบรอดแบนด์ได้ในทุกๆ ที่
บรอดแบนด์สร้างประโยชน์ต่อทุกๆ คน ในทุกๆ ที่
แม้จะมีจำนวนผู้ใช้บรอดแบนด์เกือบ 300 ล้านรายทั่วโลก แต่ประชากรส่วนใหญ่ในโลกยังไม่สามารถเชื่อมต่อบรอดแบนด์ได้ แม้ในภูมิภาคที่พัฒนาแล้ว อาทิเช่น ยุโรปและสหรัฐฯ น้อยกว่าครึ่งของครัวเรือนทั้งหมดที่เชื่อมต่อบรอดแบนด์ โดยจำนวนครัวเรือนเหล่านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตเมือง ส่วนพื้นที่ในชนบทนั้นถูกทิ้งให้ล้าหลัง
จะทำอย่างไรเพื่อพัฒนาการให้บริการบรอดแบนด์แก่ทุกๆ คน เพื่อเป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม (digital divide) ระหว่างเมืองและชนบท
คำตอบก็คือ การเชื่อมต่อระบบบรอดแบนด์พื้นฐานในปัจจุบันกับเทคโนโลยีบรอดแบนด์ไร้สายยุคใหม่ ซึ่งเทคโนโลยีล่าสุดของ 3G ทำให้ผู้ใช้ได้รับบริการบรอดแบนด์ที่มีความเร็วสูงเทียบเท่ากับ ADSL ผู้ให้บริการสามารถเปิดให้บริการได้อย่างรวดเร็วและด้วยเงินลงทุนที่น้อยลง
ตัวอย่างที่ดีคือ เทลสตาร์ (Telstra) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการในประเทศออสเตรเลีย เทลสตาร์สามารถเปิดให้บริการการเชื่อมต่อบรอดแบนด์ด้วยเทคโนโลยี WCDMA/HSPA แก่ประชากรกว่า 98% ภายในระยะเวลาเพียง 10 เดือนเท่านั้น
ด้วยการเชื่อมต่อได้อย่างทันทีในทุกๆ ที่จะส่งผลให้เกิดแอพพลิเคชั่นต่างๆ มากมาย โซลูชั่นส์บรอดแบนด์ไร้สายจะเติบโตขึ้นมากทั้งในด้าน mobile health, mobile email, mobile enterprise และ mobile entertainment
ดังนั้น การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไม่จำกัดเพียงแต่บ้านในเขตเมืองและสำนักงานอีกต่อไป แต่จะสามารถเปิดให้บริการแก่ทุกๆ คนในทุกๆ ที่
การใช้แถบคลื่นความถี่อย่างชาญฉลาด
เช่นเดียวกับที่เราเรียนรู้จาก GSM/WCDMA ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกว่าการเลือกเทคโนโลยีที่เป็นไปในมาตรฐานเดียวกันนั้นมีข้อได้เปรียบในด้านการผลิตในจำนวนมาก (economy of scale) ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดต่อผู้ใช้ ความสำเร็จของ GSM/WCDMA คือมีผู้ใช้เทคโนโลยีตระกูลนี้กว่า 2,400 ล้านรายในปัจจุบัน ในขณะที่ผู้ใช้เทคโนโลยีตระกูลอื่นมีอัตราการเติบโตที่คงที่หรือลดลง
มีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2012 การใช้งานบรอดแบนด์ในโครงข่ายไร้สายจะเติบโตอย่างน้อย 30 เท่า โดยภายในปี 2010 การใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นการใช้บริการทางด้านข้อมูลมากกว่าการใช้บริการทางเสียงบนเครือข่ายบรอดแบนด์ไร้สาย
ภายในปี 2012 เราคาดการณ์ว่าจะมีผู้ใช้บริการบรอดแบนด์มากกว่า 1,800 ล้านราย ประมาณกว่าครึ่งจะเป็นผู้เลือกใช้บริการบรอดแบนด์ไร้สายและกว่า 70% ของผู้ใช้บรอดแบนด์ไร้สายจะเลือกใช้บริการเครือข่าย WCDMA/ HSPA และประมาณ 20% จะเลือกใช้ CDMA 2000 EV-DO
ซึ่งหมายความว่าการจัดสรรแถบคลื่นความถี่อย่างพอเพียงจะทำให้สามารถให้บริการของบรอดแบนด์ไร้สายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สาย WCDMA จะมีการพัฒนาเพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้ที่เพิ่มมากขึ้น แต่การพัฒนายังคงมีอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นความเร็วที่เพิ่มขึ้นและบริการที่ดีขึ้น รวมทั้งอุปกรณ์และแอพพลิเคชั่นส์ได้พัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก กระบวนการประมวลผลที่ดีขึ้นในราคาที่ถูกลง
สิ่งที่ท้าทายคือจะใช้แถบความถี่สำหรับบรอดแบนด์ไร้สายอย่างไรให้มีประสิทธิภาพที่สุดและมีการเชื่อมต่อที่มากที่สุด ประชาคมโลกจึงต้องจัดสรรแถบความถี่ที่ใช้งานร่วมกันได้ เลือกเทคโนโลยีที่มีมาตรฐานเพื่อก่อให้เกิดข้อได้เปรียบในด้าน economy of scale และบริการที่ดียิ่งขึ้น
กล่าวอย่างง่ายๆ คือ แถบความถี่ที่ไม่ได้สอดคล้องตามมาตรฐานสากลทั่วโลก จะก่อให้เกิดประโยชน์ได้น้อยมาก
สรุปว่า การสร้างบริการบรอดแบนด์ไร้สายสำหรับตลาดโลก ไม่ได้ขึ้นแค่เพียงการใช้เทคโนโลยีที่ดีเท่านั้น แต่ขึ้นกับการเลือกเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับทั่วโลก สัดส่วนทางการผลิต รูปแบบทางธุรกิจและการให้บริการ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างระหว่างเทคโนโลยีอื่นๆ
ดังนั้น เมื่อถึงเวลาการจัดสรรแถบความถี่และเทคโนโลยีมาตรฐาน ผู้กำกับดูแลจำเป็นต้องเลือกสรรเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการบริการบรอดแบนด์แก่ทุกๆ คนในทุกๆ สถานที่
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
คุณวรพรรณ เอื้ออาภรณ์ (โก้)
ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ฟ้า เอเจนซี่ จำกัด
โทร. 0 2616 0991-2 มือถือ 08 9144 4014
อีเมล์ : voraparn@febi.co.th