นายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม.กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมแผนฉุกเฉินรองรับสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเหนือที่อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า กรุงเทพมหานคร โดย สนน.ได้ประสานความร่วมมือกับกรมชลประทาน กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมอุตุนิยมวิทยา กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กรมทรัพยากรน้ำ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยจัดประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อวิเคราะห์และติดตามคาดการณ์สภาพอากาศ ปริมาณฝน ปริมาณน้ำ รวมถึงการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำอื่น ๆ
ขณะเดียวกันได้เตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเหนือที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพฯ โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำและตรวจสอบแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย คลองมหาสวัสดิ์ และคลองพระโขนง พร้อมทั้งจัดเรียงกระสอบทราย เพื่อเสริมความสูงของแนวคันกั้นน้ำกับเสริมความมั่งคงแข็งแรง เพื่อให้สามารถป้องกันน้ำเหนือหลากและน้ำทะเลหนุนสูงให้เกิดความปลอดภัยไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ข้างเคียง โดยเฉพาะบริเวณบ้านเรือนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ รวมถึงแนวเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือแนวฟันหลอ และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำตามแนวริมแม่น้ำ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จประมาณกลางเดือน ต.ค.66
นอกจากนั้น ยังได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ ติดตาม และเฝ้าระวังช่วงก่อนเวลาที่น้ำจะขึ้นทุกวันโดยเฉพาะจุดที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ตรวจสอบเครื่องสูบน้ำที่ติดตั้งตามบ่อสูบน้ำต่าง ๆ ตามแนวริมแม่น้ำทุกจุดให้พร้อมใช้งานได้ทันที กำหนดให้สถานีสูบน้ำตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาปฏิบัติการลดระดับน้ำในคลองต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับต่ำ เร่งสูบระบาย หากเกิดปัญหาน้ำรั่วซึมเข้ามาในพื้นที่ รวมถึงตรวจสอบประตูระบายน้ำและเครื่องสูบน้ำที่สถานีสูบน้ำตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้มีความพร้อมใช้งาน รวมทั้งจัดเตรียมกระสอบทรายเปล่าที่พร้อมใช้งานและมีแผนการจัดซื้อกระสอบทรายเปล่าเพิ่มเติม รวมกระสอบทรายเปล่าที่คาดว่าจะใช้งานทั้งหมด 1,555,000 ใบ อย่างไรก็ตาม ชุมชนที่อยู่นอกแนวป้องกันน้ำท่วมต้องติดตามสถานการณ์น้ำเหนือ เวลาน้ำขึ้นเต็มที่ในแต่ละวันอย่างใกล้ชิด สำหรับชุมชนที่อยู่นอกแนวป้องกันน้ำท่วมที่อาจได้รับผลกระทบจากปัญหาแรงคลื่นกระทบกับพื้นบ้านที่เกิดจากเรือวิ่งผ่าน กทม.ได้ประสานกรมเจ้าท่าตรวจสอบ กำชับ และใช้มาตรการเรื่องการเดินเรือ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับชุมชนเหล่านี้ ทั้งนี้ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาสามารถติดตามสถานการณ์น้ำ รวมถึงช่องทางการแจ้งเหตุเดือดร้อนและขอรับความช่วยเหลือจาก กทม.ได้ที่เว็บไซต์ http://dds.bangkok.go.th/, www.prbangkok.com, Facebook : @BKK.BEST, X(Twitter) : @BKK_BEST รวมถึงรับแจ้งเหตุปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ที่ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม กทม.โทร.02 248 5115 หรือแจ้งปัญหาทางระบบ Traffy Fondue ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม.กล่าวว่า สปภ.ได้เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย ยานพาหนะ อุปกรณ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ในการดับเพลิงและกู้ภัยเฝ้าระวังสถานการณ์ระดับน้ำทะเลหนุนสูงอย่างใกล้ชิด ตามแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาภัยจากอุทกภัยของ กทม.ขณะเดียวกันได้จัดเตรียมถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัย ส่วนการฟื้นฟูเยียวยาสงเคราะห์ผู้ประสบภัยภายหลังจากอุทกภัยสิ้นสุดแล้วจะได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามข้อบัญญัติ กทม.เรื่อง การสงเคราะห์ผู้ประสบสาธารณภัย พ.ศ.๒๕๓๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งระเบียบว่าด้วยการสงเคราะห์ผู้ประสบสาธารณภัย พ.ศ.๒๕๓๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม อย่างรวดเร็วและทั่วถึงต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบเหตุอุทกภัยสามารถขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วน 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง