นายไพศาล เหมวัฒนานันท์ รองผู้อำนวยการสำนักการคลัง (สนค.) รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักการคลัง กทม.กล่าวกรณีประชาชนร้องเรียนสำนักงานเขตหลักสี่ส่งเอกสารแจ้งค้างชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไม่ถูกต้องว่า การส่งหนังสือแจ้งเตือนการค้างชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2566 เจ้าหน้าที่เขตหลักสี่จะเป็นผู้แจ้งการประเมิน โดยประเมินจากฐานข้อมูลที่ได้รับจากกรมที่ดิน ระบุผู้ร้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ โดยส่งจดหมายแจ้งการประเมินตามภูมิลำเนาที่ได้รับจากกรมการปกครอง อย่างไรก็ตาม สนค.ได้ประสานแจ้งสำนักงานเขตหลักสี่ ตรวจสอบข้อมูลการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์จากสำนักงานที่ดินอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม จากกรณีดังกล่าว ฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตหลักสี่ แจ้งการประเมินภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฯ รวมถึงการแจ้งบัญชีรายการทรัพย์สินและการแจ้งหนังสือเตือนให้ผู้ค้างภาษีนำเงินค่าภาษีค้างมาชำระ ตามมาตรา ๑๓ แห่ง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฯ บัญญัติให้การส่งคำสั่งเป็นหนังสือแจ้งการประเมิน หรือหนังสืออื่น ให้เจ้าหน้าที่ส่งแก่ผู้เสียภาษีโดยตรง หรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ โดยให้ส่ง ณ ภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่ หรือสถานที่ทำการของบุคคลนั้น ในระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก หรือในเวลาทำการของบุคคลนั้น ถ้าไม่พบผู้เสียภาษี ณ ภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่ หรือสถานที่ทำการของผู้เสียภาษีจะส่งให้แก่บุคคลใดซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว และอยู่ ณ ภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่ หรือสถานที่ทำการที่ปรากฏว่าเป็นของผู้เสียภาษีนั้นก็ได้
ดังนั้น การที่ฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตหลักสี่ ได้แจ้งหนังสือเตือนให้ผู้ค้างภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างค้างชำระมาชำระที่ฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตฯ โดยการสืบค้นที่อยู่ตามฐานทะเบียนราษฎร์ กรมการปกครอง เพื่อให้ได้ทราบถิ่นที่อยู่ในปัจจุบันของผู้ค้างภาษี และส่งหนังสือดังกล่าวไปยังภูมิลำเนาที่ปรากฏ จึงเป็นการดำเนินการตามกฎหมายที่ชอบแล้ว หากผู้ค้างภาษีเห็นว่า การแจ้งหนังสือดังกล่าวไม่ชอบ ผู้ค้างภาษีสามารถใช้สิทธิตามมาตรา ๗๓ วรรคสอง ที่ให้ผู้เสียภาษีใช้สิทธิคัดค้านและให้ผู้บริหารท้องถิ่นพิจารณาทบทวนการประเมิน หรือการเรียกเก็บภาษีได้ โดยให้ยื่นคำร้องต่อผู้บริหารท้องถิ่น ตามแบบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศกำหนด ทั้งนี้ ภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับการเรียกเก็บภาษีค้าง
ส่วนกรณีที่ผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนแจ้งว่า ตนได้มีถิ่นที่อยู่ ณ อำเภอเมือง จ.นนทบุรี ซึ่งได้พักอาศัยมานานแล้ว และไม่เคยมีทรัพย์สินอยู่ที่สำนักงานเขตฯ จากการตรวจสอบความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง หรืออาคารชุด ซึ่งระบุโดยกรมที่ดินส่งมาให้ กทม.เป็นรายชื่อของบุคคลนั้น ๆ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตฯตรวจสอบที่อยู่ตามฐานทะเบียนราษฎร์ กรมการปกครอง เพื่อจัดส่งหนังสือต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติ เพื่อให้ถึงประชาชนที่มีชื่อดังกล่าว ดังนั้น หากผู้ร้องมิได้เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง อาคารชุดดังกล่าวตั้งแต่ต้น หรือมีการโอนเปลี่ยนความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ณ วันที่เท่าใด ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตฯ เพื่อให้เปลี่ยนแปลงฐานข้อมูลและแจ้งไปยังสำนักงานที่ดินฯ เพื่อให้ตรวจสอบความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ดังกล่าวให้ถูกต้อง ป้องกันการดำเนินการผิดพลาดในปีภาษีถัดไป
ทั้งนี้ กทม.ได้อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการตรวจสอบติดต่อสอบถามข้อมูล ตลอดจนช่องทางการแก้ไขข้อมูล กรณีได้รับหนังสือแจ้งเตือนการชำระภาษีประเภทต่าง ๆ รวมทั้งภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไม่ถูกต้อง แยกเป็น ๒ กรณี ดังนี้ (1) หากประชาชนที่ทรัพย์สิน ประเภทที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และอาคารชุดในเขต กทม.สามารถตรวจสอบข้อมูลทรัพย์สิน การประเมิน การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ รวมถึงการเปลี่ยนการถือครองทรัพย์สินดังกล่าวได้ผ่านแอปพลิเคชัน BMA TAX MAP ซึ่งสามารถดาว์โหลดได้ทางโทรศัพท์ระบบ ios และระบบ Android เพื่อแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตได้ตรวจสอบและแจ้งผลการตรวจสอบคืนผ่านช่องทางดังกล่าวได้ และ (2) หากประชาชนไม่มีทรัพย์สินในเขต กทม.สามารถแจ้งผ่านช่องทางอื่น ๆ ได้แก่ ประสานแจ้งฝ่ายรายได้ สำนักงานเขต หรือแจ้งผ่านระบบ Traffy Fondue หรือ 1555 สายด่วน กทม. เพื่อฝากข้อความปัญหาดังกล่าว เพื่อให้ตรวจสอบและแจ้งกลับไปยังประชาชนได้โดยสะดวกต่อไป