'บมจ. เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล' หรือ HENG หนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายใหญ่ของประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ 'เฮงลิสซิ่ง' พร้อมลุยขยายธุรกิจสินเชื่อในประเทศเวียดนาม โดยเข้าลงทุนซื้อกิจการ S68 Capital Investment LLC ผู้ดำเนินธุรกิจโรงรับจำนำ และได้รับใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจในประเทศเวียดนาม คาดธุรกรรมแล้วเสร็จเร็ว ๆ นี้ รองรับความต้องการใช้บริการสินเชื่อพุ่งตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
นายวิชัย ศุภสาธิตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ HENG หนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายใหญ่ของประเทศไทยภายใต้แบรนด์ 'เฮงลิสซิ่ง' เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้อนุมัติแผนเข้าซื้อกิจการ S68 Capital Investment LLC ผู้ดำเนินธุรกิจโรงรับจำนำในประเทศเวียดนามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทาง HENG จะเข้าไปซื้อเงินลงทุนจากผู้ถือหุ้นเดิมคิดเป็นร้อยละ 75 หรือ ประมาณ 4,312.50 ล้านดอง คิดเป็น 6.22 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 31 ส.ค. 2566) ส่วนที่เหลือจะเป็นนักลงทุนชาวไทยที่ทำธุรกิจอยู่ในเวียดนามที่มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี ร่วมถือหุ้นอีกร้อยละ 25 ของจำนวนทุนจดทะเบียนทั้งหมด เพื่อร่วมกันจัดตั้งบริษัทย่อยของ HENG ต่อไป
การเข้าทำธุรกรรมคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเร็ว ๆ นี้ เพื่อรองรับแผนสร้างการเติบโตระยะยาวของ HENG ในการรุกขยายการให้บริการสินเชื่อไปยังภูมิภาคอาเซียน โดยเริ่มต้นจากเวียดนามเป็นประเทศแรก ที่ให้ความสนใจเข้าไปลงทุน เนื่องจากมองเห็นศักยภาพการเติบโตของการให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ จากปัจจัยการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนามที่สูงกว่าประเทศไทย และจำนวนประชากรวัยแรงงานที่เป็นคนหนุ่มสาวคิดเป็น 50% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศที่เป็นแรงขับเคลื่อนการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงปริมาณรถจักรยานยนต์ และรถยนต์จำนวนมาก
ทั้งนี้ จึงเป็นโอกาสของ HENG ที่ได้นำประสบการณ์การดำเนินธุรกิจการให้บริการสินเชื่อจากประเทศไทยอย่างมืออาชีพกว่า 30 ปี เพื่อรองรับการขยายตัวในประชาคมอาเซียนโดยเริ่มต้นจากประเทศเวียดนามที่มีการขยายตัวเศรษฐกิจ การเข้าลงทุนของบริษัทข้ามชาติจำนวนมาก การเติบโตของ GDP สูงอย่างต่อเนื่อง รองรับความต้องการใช้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถผ่านช่องทางโรงรับจำนำที่เพิ่มขึ้น วางแผนการขยายสาขาโรงรับจำนำอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นพื้นที่สาขาในเขตเวียดนามกลางและเวียดนามใต้ เพื่อวางรากฐานการดำเนินธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งและสามารถตอบสนองความต้องการแหล่งเงินทุนให้แก่ประชาชนในเวียดนามได้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ดีธุรกิจโรงรับจำนำในประเทศเวียดนาม ถือเป็นน่านน้ำใหม่ที่มีโอกาสและผลตอบแทนทางธุรกิจสูงกว่าประเทศไทยหลายเท่า และการแข่งขันที่ไม่สูงมากนัก HENG จึงมีความเชื่อมั่น ในการขยายธุรกิจในระยะยาวอย่างยั่งยืน