ก.ล.ต. ประชุมร่วมกับ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) เพื่อหารือแนวนโยบายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาและกำกับดูแลการประกอบธุรกิจ พร้อมสนับสนุนการปฏิบัติงานและลดอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบธุรกิจ รวมทั้งสานต่อความร่วมมือด้านต่าง ๆ และยกระดับการทำงานร่วมกันในเชิงรุก โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาตลาดทุนให้ยั่งยืน มีความเชื่อมั่น และเกิดประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2566 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยนางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ พร้อมคณะผู้บริหาร ประชุมร่วมกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) นำโดยนายพิเชษฐ สิทธิอำนวย นายกสมาคม และผู้บริหารระดับสูงของบริษัทหลักทรัพย์และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประมาณ 40 องค์กร เพื่อหารือแนวทางการมีส่วนร่วมของผู้ประกอบธุรกิจตัวกลางในตลาดทุน รวมทั้งยกระดับการทำงานร่วมกันในเชิงรุก ในการพัฒนาตลาดทุนโดยรวม ณ สำนักงาน ก.ล.ต.
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า "ก.ล.ต. ให้ความสำคัญในการทำงานร่วมกันกับผู้ประกอบธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อนตลาดทุนให้ก้าวหน้าต่อไปอย่างยั่งยืน และมีความน่าเชื่อถือต่อผู้ลงทุน โดยที่ผ่านมา ก.ล.ต. และ ASCO ได้ทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเชิงการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแล และการพัฒนากฎเกณฑ์ต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน เพื่อลดอุปสรรคและเพิ่มความคล่องตัวของภาคธุรกิจ การประชุมร่วมกันในวันนี้จึงเป็นการรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมถึงหารือแนวนโยบายในอนาคตที่จะสนับสนุนการพัฒนาและส่งเสริมการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
โดยได้มีข้อสรุปที่สำคัญคือ เปิดช่องทางการรับฟังจากสมาชิก ASCO กับ ก.ล.ต. ในลักษณะนี้ ปีละ 2 ครั้ง เพิ่มเติมจากการหารือในระดับการปฏิบัติงานที่มีอยู่แล้ว และเห็นพ้องในสิ่งที่อยากเห็นไปในแนวทางเดียวกัน คือ การมีตลาดทุนที่แข่งขันได้ ตลาดทุนที่มีความยั่งยืนส่งต่อไปยังผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
ทั้งนี้ ขอขอบคุณสมาชิก ASCO ทุกท่านที่เข้าร่วมประชุมในโอกาสของการเปลี่ยนผ่านในครั้งนี้ เพื่อสานต่อความร่วมมือและยกระดับการทำงานร่วมกันในเชิงรุก โดยมุ่งหมายให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาตลาดทุนโดยรวมเป็นตลาดทุนที่มีความเชื่อมั่นและทุกคนเข้าถึงได้ (Capital Market for All)"