สยามพารากอน ตอกย้ำความเป็น 'World Class Fashion Destination' ศูนย์กลางแฟชั่นระดับโลก ผนึกกำลัง สยามเซ็นเตอร์ และ สยามดิสคัฟเวอรี่ พร้อมร่วมผสานศักยภาพของทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงเหล่าพันธมิตรจากหลากหลายอุตสาหกรรม สร้างที่สุดแห่งปรากฏการณ์แฟชั่นระดับโลก "Siam Paragon Bangkok International Fashion Week 2023" (BIFW2023) ประกาศศักยภาพแฟชั่นไทยอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมเดินหน้าส่งเสริม Soft Power อันทรงพลังของไทยสู่สายตาโลก โดยในปีนี้ นำเสนอภายใต้แนวคิด "The Future of Fashion" ร่วมสร้างคุณค่าอันยั่งยืนสู่โลกแฟชั่นแห่งอนาคต นำเสนอพลังความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยที่เชื่อมโยงแนวคิดเรื่อง Sustainability ในหลากหลายมิติ ซึ่งความยั่งยืนเป็นสิ่งที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญอย่างมาก และจะเป็นรากฐานแห่งความเปลี่ยนแปลงสำคัญของกระแสโลกทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ดีไซเนอร์ไทยระดับแนวหน้าประกาศศักยภาพแฟชั่นไทยในแนวคิดความยั่งยืนบนแกรนด์รันเวย์ ณ สยามพารากอน
โดยแกรนด์รันเวย์ "Siam Paragon Bangkok International Fashion Week 2023" ณ สยามพารากอน ตอกย้ำความสำคัญของแนวคิด Sustainability ซึ่งเป็นเทรนด์และเป้าหมายที่วงการแฟชั่นทั่วโลกรวมถึงดีไซเนอร์ไทยต่างให้คุณค่าและความสำคัญ โดยในปีนี้เหล่าดีไซเนอร์ไทยระดับแนวหน้าต่างก็ร่วมสร้างสรรค์ผลงานแฟชั่นยั่งยืนผ่านการตีความแบบเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป อย่าง Absolute Siam X HOLY NUMBER 7 X 789 โดย Absolute Siam (แอบโซลูท สยาม) มัลติแบรนด์สโตร์ที่รวบรวมสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างเป็นเอกลักษณ์ ที่สร้างสรรค์โดยสยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียล้ำเทรนด์ จับมือแบรนด์สตรีทแฟชั่นสัญชาติเกาหลี HOLY NUMBER 7 ออกแบบคอลเลคชั่นพิเศษ ร่วมกับหนุ่มๆศิลปิน 789 Trainee โดยนำคอลเลคชั่นนี้ใช้เทคนิค direct digital textile printing (DTP) ซึ่งเป็นการพิมพ์แบบดิจิทัลลงบนผ้า ถือว่าเป็นวิธีการพิมพ์ผ้าที่ยั่งยืนที่สุด ใช้น้ำและพลังงานน้อยลง และไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีที่รุนแรง ส่วน FRI27NOV. presented by SCG โดย ชนะชัย จรียะธนา นำถุงปูนซีเมนต์ที่รอการทำลาย ของ SCG มา Upcycle สร้างมูลค่าใหม่กลายเป็นคอลเลคชั่นเสื้อผ้าและแอ็คเซสซอรี่สุดคูลอย่างการนำถุงปูนมาตัดเย็บกับเสื้อยีนส์เก่า ที่สามารถใช้จริงได้ในชีวิตประจำวัน ส่วน Greyhound Original x Tiktok เลือกใช้ผ้ารีไซเคิลมาสร้างสรรค์ผลงานให้เป็น "Green Label"
นอกจากนี้ ภูภวิศ กฤตพลนารา ดีไซเนอร์แห่ง ISSUE presented by Purra นำวัสดุเหลือใช้จากงานอุตสาหกรรมแฟชั่นมาเป็นส่วนหนึ่งในการรังสรรค์ผลงาน โดยเฉพาะการใช้เศษไหมมาทำงานปักซิกเนเจอร์ "ISSUE Thailand" อันเป็นเอกลักษณ์ Painkiller Atelier presented by Seiko 5 Sports เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของ Sustainability มาอย่างต่อเนื่อง โดยเลือกใช้วัตถุดิบคงค้างในสต๊อก นำมาออกแบบให้เป็นสินค้าชิ้นใหม่ ซึ่งเป็นการนำวัสดุเหลือใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงเลือกใช้ผ้าไนล่อนที่ผลิตจากขวดน้ำพลาสติกรีไซเคิล อีกทั้งสินค้าทุกชิ้นของคอลเลคชั่นนี้ และคอลเลคชั่นต่อๆไป จะบรรจุในถุงเสื้อผ้าที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ที่ผลิตขึ้นมาสำหรับแบรนด์โดยเฉพาะด้วยเช่นกัน ด้าน Tube Gallery presented by TAT ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวคิด "The Future of Fashion" ในมุมมองของแบรนด์ไว้ว่า แฟชั่นจะเป็นการตอบสนองความต้องการนำเสนอ Identity ของผู้คนที่หลากหลายและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ทำให้แฟชั่นในรูปแบบ Mass Production ที่ผลิตในจำนวนมาก ๆ จะลดลง เพราะความต้องการของผู้สวมใส่แตกต่างกันมากขึ้น เสื้อผ้าในลักษณะ Tailor Made น่าจะกลับมามีความสำคัญในอุตสาหกรรมแฟชั่นในอนาคตอีกครั้ง
นอกจากการอวดโฉมคอลเลคชั่นของเหล่าดีไซเนอร์แถวหน้าของประเทศไทยแล้ว BIFW2023 ยังจัดเสวนาในหัวข้อเกี่ยวกับแฟชั่นและความยั่งยืน โดยตัวแทนจากภาครัฐ และนักออกแบบระดับแนวหน้าของเมืองไทย โดยได้รับเกียรติจาก ผอ.นิศาบุษป์ วีรบุตร จาก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ, เอก ทองประเสริฐ เจ้าของแบรนด์ EK Thongorasert, กันย์ญเนศ พรมะธานชัย เจ้าของแบรนด์ญาเนศร์ และ ปรเมศร์ สายอุปราช เจ้าของแบรนด์ Mr. Leaf มาร่วมพูดคุยในหัวข้อ "Make ~IM~Possible : OTOP & MSMEs Fashion Go Global ต่อยอดแฟชั่นท้องถิ่น สู่เวทีโลก... เราทำได้?" นอกจากนี้ยังมีการเสวนาจากนักออกแบบไทยในโครงการ Designer room & talent Thai (DSR & TT ) ในอดีตที่มีประสบการณ์ในการเข้าร่วมแฟชั่นโชว์ระดับโลก อย่าง Q Design & Play, Wishulada, Renim Project และ ศิโรจน์ ไชยสาม ในหัวข้อ "Innovation + Design for Sustainable lifestyles products" ณ SCBX NEXT STAGE ชั้น 4 สยามพารากอน
สยามเซ็นเตอร์อวดโฉมผลงานแฟชั่นยั่งยืนของนิสิตนักศึกษาจากสถาบันชั้นนำทั่วประเทศ
สำหรับเวที VISIONARY STAGE ที่ สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ มุ่งเน้นการสนับสนุนเหล่าดีไซเนอร์รุ่นใหม่จากสถาบันชั้นนำทั่วประเทศ ให้ได้โชว์ไอเดียสร้างสรรค์สู่สายตาผู้ชมทั่วโลก พร้อมนำเสนอแนวคิดเรื่อง Sustainability ผ่านมุมมองของคนรุ่นใหม่ โดยสยามเซ็นเตอร์เป็นเวทีที่นักศึกษาด้านแฟชั่นมาร่วมนำเสนอผลงานมากที่สุดของการจัดงานแฟชั่นโชว์ในประเทศไทย กับผลงานของนิสิต นักศึกษา นักออกแบบรุ่นใหม่กว่า150 คน จาก 12 สถาบัน และผลงานการออกแบบกว่า 400 ลุค โดยเน้นการใช้ผ้าพื้นเมืองที่มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือใช้วัสดุธรรมชาติ ย้อมสีธรรมชาติ และการประยุกต์ใช้วัสดุเหลือใช้อย่างสร้างสรรค์
โดย มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำเสนอความเป็นท้องถิ่นอีสานไทยและความใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้วัสดุรีไซเคิลและเลือกวัสดุจากผ้าทอท้องถิ่นอีสานที่ย้อมสีธรรมชาติและผ่านกระบวนการทอมือ เช่น ผ้าไหมอีรี่ ผ้าไหมหางกระรอก, มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ใช้ผ้าทอพื้นถิ่นอีสานผลิตจากวัสดุธรรมชาติเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างผ้าขาวม้าและผ้าพื้นเมืองชนิดอื่นๆ, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย สงขลา สร้างสรรค์ผลงานจากเรื่องราววิถีชีวิต วัฒนธรรมและภูมิปัญญาด้วยเครื่องแต่งกายจากผ้าพื้นเมืองชายแดนใต้ เช่น ผ้าบาติก ผ้าปาเต๊ะ ผ้าทอ ที่มีสีสันอันเป็นอัตลักษณ์เชิงพื้นที่แดนใต้ ซึ่งมีกระบวนการผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ นำวัสดุมาประยุกต์ใช้ บนรากฐานแนวคิดแฟชั่นเพื่อความยั่งยืน
สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรี่ยม ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำทางด้านความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัย เป็น Lifestyle Lab ที่ทุกตารางเมตรเต็มไปด้วยแฟชั่นที่น่าจับตามอง มอบประสบการณ์ค้นหาสไตล์ในแบบที่เป็นคุณ จัดงาน "The Future of Fashion" นำเสนอเทรนด์แฟชั่นที่มาแรงและคงอยู่ตลอดกาลกับคอนเซ็ปต์ "แฟชั่นที่ยั่งยืน" (Sustainable Fashion)
โดยสยามดิสคัฟเวอรี่นำเสนอแบรนด์แฟชั่นยั่งยืนหลากหลาย เช่น "MAD MATTER" มีแนวทางเรื่องความยั่งยืนมาตั้งแต่เริ่มต้น กับคอนเซ็ปท์ Creative Lifestyle Brand who made from "Waste to Worth" นอกจากนี้ยังมีโซน Discovery Selection รวมแบรนด์นำเข้าที่มีเฉพาะที่สยามดิสคัฟเวอรี่ มีทั้ง GANNI โดยกว่า 50% เป็นผ้าทำมาจากวัสดุรีไซเคิล, oval square ที่มีการเลือกเส้นใย โดยพิจารณาจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ต่อด้วย CLOSED ในคอนเซ็ปต์ A BETTER BLUE เดนิมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, BAUM UND PFERDGARTEN (โบมอุนด์เฟดกาเท่น) ที่เสื้อผ้าแต่ละตัวจะมีการระบุรายละเอียดสัดส่วนการใช้วัสดุรักษ์โลกเป็นเปอร์เซ็นต์ที่เว็บไซต์ และยังมีอีกหลากหลายแบรนด์ที่ให้ได้ค้นหา
ร่วมขับเคลื่อนความยั่งยืนผ่านโลกแฟชั่น ไปกับ Siam Paragon Bangkok International Fashion Week 2023 หรือติดตามความเคลื่อนไหวกิจกรรมดีๆ ได้ทาง www.siamparagon.co.th หรือ เฟซบุ๊ก Siam Paragon