ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพสัตว์เลี้ยงที่นำเสนอนวัตกรรมสุดล้ำถูกนำมาวางจำหน่ายเพิ่มขึ้นมากมาย ตั้งแต่ปลอกคออัจฉริยะที่คอยติดตามเจ้าสัตว์เลี้ยงตัวโปรด ไปจนถึงแอปพลิเคชันที่ให้ข้อมูลเชิงลึกด้านสุขภาพแบบเรียลไทม์ ทำให้หลายคนติดตามสุขภาพน้องแมวน้องหมาได้ง่ายดายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาไปไกลแค่ไหน แต่ปัญหาสุขภาพของน้องแมวน้องหมาก็ยังคงเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงวัยหากเราละเลยการดูแลเอาใจใส่ด้านโภชนาการตั้งแต่ 'จุดเริ่มต้นของชีวิต' ในวัยที่ยังเป็นลูกแมวและลูกหมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญในการเสริมสร้างรากฐานสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงให้พวกเขาในภายภาคหน้า
Royal Canin ผู้นำด้านโภชนาการเพื่อสุขภาพที่ดีของน้องแมวและน้องหมาระดับโลก ที่เข้าใจความสำคัญด้านโภชนาการอย่างลึกซึ้ง อยากชวนบรรดาพ่อแม่น้องแมวน้องหมามาเรียนรู้กันว่าเราจะดูแลโภชนาการสำหรับลูกแมวลูกสุนัขตัวน้อยให้มีสุขภาพดี เติบโตสมวัย อยู่กับเราไปนาน ๆ เพื่อตอบแทนที่พวกเขาทำให้ทุกวันของเราเต็มไปด้วยรอบยิ้มและมีความหมายกว่าที่เคยได้อย่างไรบ้าง ผ่าน 6 เคล็ดลับดี ๆ ต่อไปนี้
เชื่อว่า เจ้าของหลายคนเคยเจอปัญหาน้องแมวน้องหมาแสนรักมีอาการเจ็บป่วยหรือมีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาสุขภาพตามมาเมื่อโตเต็มวัย บางครั้งอาจเป็นเรื่องยากสำหรับเจ้าของที่จะเจออาการบ่งชี้ตั้งแต่เนิ่น ๆ การปรึกษาสอบถามข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจความต้องการที่เฉพาะของสายพันธุ์จากฟาร์มผู้เพาะเลี้ยง ช่วยนำไปสู่การดูแลที่ถูกต้อง ทั้งในเรื่องโภชนาการและปริมาณสารอาหารที่เจ้าตัวน้อยควรได้รับ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เลี้ยงไม่ควรละเลย นอกจากนี้การพาไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์ภายในสองสัปดาห์แรกที่รับพวกเขามาเป็นสมาชิกใหม่ ยังช่วยป้องกันความเสี่ยงด้านสุขภาพหรือความผิดปกติก่อนที่จะลุกลามในอนาคตได้ ซึ่งอาการบางอย่าง เช่น ภูมิแพ้ผิวหนัง อาจป้องกันและแก้ไขได้แต่เนิ่น ๆ ด้วยการเลือกหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นตัวกระตุ้นอาการ แล้วเสริมโภชนาการด้วยสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อสร้างเกราะป้องกันให้พวกเขาแข็งแรงทั้งภายในและภายนอก
นอกจากความแตกต่างด้านสายพันธุ์ รวมถึงความต้องการด้านพลังงาน และการใช้พลังงานเฉพาะตัว หรือระดับกิจกรรมทางกายของน้องแมวน้องหมาแต่ละตัว ที่เป็นตัวกำหนดความต้องการสารอาหารที่แตกต่างกันแล้ว น้องแมวน้องหมาในแต่ละช่วงวัยยังต้องการโภชนาการที่ต่างกันด้วย การเลือกประเภทอาหารให้เหมาะสมกับวัยจึงเป็นสิ่งที่เจ้าของต้องใส่ใจ ข้อมูลผลสำรวจของ Neilson ระบุว่า ลูกแมวและลูกหมาจำนวนถึง 70% ได้รับอาหารสำหรับแมวและสุนัขวัยผู้ใหญ่ และยังพบว่า ผู้เลี้ยงยังเปลี่ยนอาหารลูกแมวและลูกสุนัขเร็วเกินไป ซึ่งการละเลยข้อมูลโภชนาการบนบรรจุภัณฑ์อาจนำไปสู่ผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพหลายรูปแบบ เนื่องจากน้อง ๆ ไม่ได้รับสารอาหารที่ถูกต้องและเพียงพอ ซึ่งอาจขัดขวางพัฒนาการ ทำให้เกิดความผิดปกติของข้อต่อ กระดูกเปราะบาง ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร อาจรวมไปถึงขนาดร่างกายที่ผิดปกติ เพื่อป้องกันความผิดพลาดเหล่านี้ เจ้าของอย่างเราจึงควรหมั่นอ่านข้อมูลบนบรรจุภัณฑ์และเลือกอาหารให้เหมาะสมกับกับช่วงวัยของพวกเขา
นอกจากการอ่านฉลากโภชนาการแล้ว เจ้าของสัตว์เลี้ยงอาจหาข้อมูลเกี่ยวกับโภชนาการที่เหมาะสมจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ของหน่วยงานวิจัยที่ควบคุมดูแลและกำหนดมาตรฐานทั้งในประเทศและระดับสากล อาทิ สมาคมควบคุมอาหารสัตว์เลี้ยงแห่งอเมริกา (Association of American Feed Control Officials: AAFCO), สถาบันกำหนดมาตรฐานคุณภาพอาหารสัตว์เลี้ยงแห่งสหภาพยุโรป (The European Pet Food Industry Federation: FEDIAF) รวมถึงสมาคมการค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย นอกจากนี้ ยังควรใช้วิจารณญาณในการตรวจสอบและรับข้อมูลอย่างระมัดระวัง ไม่หลงเชื่อข้อมูลที่น่าสงสัยหรือไม่มีที่มาชัดเจน
ขณะเดียวกัน ผู้เลี้ยงควรปรึกษาสัตวแพทย์หรือติดต่อบริษัทด้านโภชนาอาหารสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการรับรองโดยตรง ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ ช่วยให้เรามีข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้อย่างรอบด้าน
ปัจจุบัน เริ่มมีเทรนด์การปรุงอาหารให้น้องแมวและน้องหมาด้วยวัตถุดิบที่หลากหลาย โดยหวังให้ลูกแมวและลูกสุนัขได้รับสารอาหารหลักครบทั้ง 5 หมู่เช่นเดียวกับที่มนุษย์ต้องการ ซึ่งความเข้าใจเหล่านี้ล้วนเกิดจากความรักที่เจ้าของมีให้นั่นเอง ถึงแม้น้องแมวน้องหมาจะต้องการสารอาหารหลัก ๆ คล้ายคลึงกับมนุษย์ ทั้งโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต แร่ธาตุและวิตามิน หรือน้ำ แต่ความต้องการปริมาณสารอาหารบางอย่างอาจต่างกันออกไป เช่น สุนัขต้องการแคลเซียมอยู่ที่ 1,280 มก./วัน ซึ่งมากกว่าความต้องการแคลเซียมของมนุษย์ ซึ่งอยู่ที่ 1,000 มก./วัน เพื่อรักษาความแข็งแรงของกระดูก ขณะที่อาหารปรุงเองนั้น มักมีเนื้อแดงเป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งมีแคลเซียมในปริมาณต่ำ แต่กลับมีฟอสฟอรัสในปริมาณที่สูง ขณะที่ลูกแมวจะเจริญเติบโตอย่างมีสุขภาพดีได้ต้องอาศัยอาหารที่เหมาะสมกับวัย ไลฟ์สไตล์ และสารอาหารที่จำเป็นอย่างเจาะจง ลูกแมวต้องการทั้งโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และเกลือแร่ในสมดุลที่เหมาะสม อาหารที่มีสมดุลโภชนาการที่เหมาะสมเท่านั้นจึงจะให้กรดอะมิโนที่จำเป็นอย่างเช่น ทอรีน ซึ่งร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ได้เอง ดังนั้น หากอยากให้น้อง ๆ ได้รับโภชนาการที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ก่อนที่จะเริ่มปรับเปลี่ยนอาหารของพวกเขา เจ้าของจำเป็นต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการอาหารสัตว์ เพื่อช่วยพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่สำคัญสำหรับลูกแมวและลูกสุนัข
แม้ว่าน้องแมวและน้องหมาตัวกลมน่าบีบแก้ม อาจดูน่ารักสำหรับใครหลายคน แต่น้ำหนักที่มากเกินไปนั้นก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีในระยะยาว ยิ่งโรคอ้วนเกิดขึ้นเร็วเท่าไรก็ยิ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมของน้องแมวน้องหมามากขึ้นเท่านั้น และอาจก่อตัวเป็นภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพหลายอย่างเมื่อเวลาผ่านไป งานวิจัยจำนวนมากแสดงให้เห็นว่าเจ้าของสัตว์เลี้ยง ร้อยละ 44 - 72 ไม่สามารถรับรู้สัญญาณของโรคอ้วนของน้องแมวน้องหมาได้ การให้อาหารลูกสุนัขและลูกแมวมากเกินไปหรือไม่ควบคุมปริมาณอาหารอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ เนื่องจากน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ลูกแมวและลูกสุนัขมีเซลล์ไขมันเพิ่มขึ้นเมื่อโตเต็มวัย และมักมีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักเกินเนื่องจากเซลล์ไขมันจำนวนมากจะขยายตัวและไม่หายไป ทำให้เราเห็นลูกแมวและลูกสุนัขตัวอ้วนจำนวนมากมีปัญหาเรื่องน้ำหนักในภายหลัง การดูแลโภชนาการตั้งแต่ระยะเริ่มต้นของชีวิตในขณะที่เป็นลูกแมวและลูกหมาจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันปัญหาเรื่องน้ำหนัก
ปกติในโภชนาการอาหารของน้องแมวน้องหมาจะมีสารอาหารที่ค่อนข้างครบถ้วนอยู่แล้ว การให้ทานอาหารเสริมเพิ่มเติมจะเป็นการช่วยบำรุงร่างกายและสุขภาพของน้องให้แข็งแรง ช่วยเติมสารอาหารที่ขาดหายไป โดยเฉพาะน้องหมาน้องแมวที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น สุนัขหรือแมวที่ป่วย หรือมีโรคประจำตัว เพราะสุขภาพอ่อนแอกว่าน้องแมวน้องหมาทั่วไปจึงทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมสารอาหารบางชนิดได้อย่างเต็มที่ แต่เชื่อว่าหลายๆ คนต่างก็อยากให้น้อง ๆ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง จึงพยายามเลือกหาอาหารเสริมมาช่วยบำรุงตั้งแต่ยังเล็กๆ แต่ความเป็นจริงแล้วในลูกสุนัขหรือลูกแมวยังไม่จำเป็นที่จะต้องให้อาหารเสริม เพราะการให้สุนัขทานอาหารอาหารเสริมเร็วเกินไปก็สามารถก่อให้เกิดอันตราย หากทานต่อเนื่องเป็นเวลานาน ย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าได้ประโยชน์ เช่น ปริมาณแคลเซียมที่มากเกินไปสามารถทำให้เกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูกและข้อที่ผิดปกติในสุนัขวัยกำลังโต (Developmental orthopedic disease: DOD) ไม่ว่าจะเป็นโรคข้อสะโพกเจริญผิดปกติ หรือโรคข้อศอกเจริญ การเพิ่มโยเกิร์ต คอตเทจชีส หรือแคลเซียมอัดเม็ดลงในอาหารของลูกสุนัขนั้นจะทำให้เสียสมดุลของแร่ธาตุในร่างกาย ดังนั้น การให้อาหารเสริมที่ถูกต้องให้กับน้องหมาในช่วงวัยต่าง ๆ ควรให้ก็ต่อเมื่อร่างกายต้องการหรือขาดสารอาหารและแร่ธาตุเท่านั้น
ด้วยความเข้าใจเกี่ยวกับความต้องการด้านโภชนาการที่แตกต่าง Royal Canin ได้มุ่งมั่นคิดค้นและพัฒนาโภชนาการที่เหมาะสมกับน้องแมวน้องหมา ให้ครอบคลุมทุกช่วงวัย และความต้องการเฉพาะ โดยคัดสรรแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง ที่มีสารอาหารครบถ้วน รวมไปถึงออกแบบเม็ดอาหารพิเศษที่มีรูปร่าง ขนาด และเนื้อสัมผัสเหมาะสมกับทุกความต้องการของแมวและสุนัขแต่ละสายพันธุ์ รวมไปถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับลูกแมวและลูกสุนัข ROYAL CANIN(R) Kitten and Puppy Growth ซึ่งพัฒนาร่วมกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญด้านโภชนาการอาหารน้องแมวและน้องหมาโดยตรง เพราะเราเชื่อว่าโภชนาการที่ดีเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่อาจคุกคามความสุขและโลกที่สดใสของเจ้าตัวน้อย ดังนั้น บรรดาเจ้าของจึงควรเลือกสรรสิ่งดีๆ ให้พวกเขาตั้งแต่ 'จุดเริ่มต้นของชีวิต' ตั้งแต่ยังเป็นลูกหมาลูกแมว เพื่อวางรากฐานให้แก่น้อง ๆ ที่เรารัก ได้เติบโตสมวัย มีสุขภาพที่แข็งแรง พร้อมสนุกในทุกการผจญภัย และอยู่เคียงข้างเราในทุกโมเมนต์ของชีวิตไปอีกยาวนาน และอย่าลืมพาน้องหมาน้องแมวไปตรวจสุขภาพเป็นประจำปีอย่างน้อยปีละหนึ่งหรือสองครั้งต่อปีด้วยนะคะ
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับน้องแมวและน้องหมาสายพันธุ์ต่าง ๆ รวมถึงความต้องการด้านโภชนาการที่แตกต่างเพื่อมอบการดูและด้านสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับน้องแมวและน้องหมาที่คุณรัก และติดตามความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของพวกเขาอย่างเหมาะสม ได้ที่ www.royalcanin.com หรือhttps://www.facebook.com/RoyalCaninThailand