กรุงเทพฯ--2 พ.ค.--ตลท.
บมจ. เอสโซ่ (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการธุรกิจปิโตรเลียมและปิโตรเคมีครบวงจรของไทย พร้อมเข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 6 พ.ค.นี้ นับเป็นการรับหุ้นขนาดใหญ่เข้าจดทะเบียน โดย ESSO มีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอประมาณ 34,000 ล้านบาท หลังประสบความสำเร็จจากการเปิดจองหุ้นไอพีโอให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเมื่อ 21-28 เม.ย. 2551
นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการสายงานการตลาดศูนย์ระดมทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุมัติรับบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทจดทะเบียนและซื้อขายในกลุ่มทรัพยากร หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค ตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม 2551 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า “ESSO” นับเป็นการรับหุ้นขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอประมาณ 34,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีส่วนในการเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกประมาณร้อยละ 0.5 และกลุ่มทรัพยากรมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 1.5
ESSO มีทุนชำระแล้ว 16,693 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญ 3,383,333,300หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 4.9338 บาท โดยระหว่างวันที่ 21-22 เมษายน ที่ผ่านมาได้ขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) และระหว่างวันที่ 23-25 และ 28 เมษายน 2551 เสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน 773,333,300 หุ้น หุ้นสามัญเดิมที่ถือโดยกระทรวงการคลัง 72,500,000 หุ้น และหุ้นจัดสรรส่วนเกิน 84,583,300 หุ้น รวมหุ้นที่เสนอขายทั้งสิ้น 930,416,600 หุ้น ในราคาหุ้นละ 10 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ทั้งนี้ ณ ระดับราคาหุ้นไอพีโอ ESSO คิดเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) เท่ากับ 4.8 เท่า จากผลการดำเนินงานปี 2550 ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิภายหลังจัดสรรทุนสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทและการพิจารณาแผนลงทุนตามความจำเป็น โดยเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2551 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 1 บาทต่อหุ้น แก่ผู้ถือหุ้นที่มีชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น
ESSO ประกอบกิจการโรงกลั่นปิโตรเลียม และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมแบบครบวงจร (Integrated) รวมทั้ง ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์และเคมีภัณฑ์อื่น ๆ ซึ่ง ESSO และบริษัทในเครือที่เกี่ยวข้องได้ประกอบธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 100 ปี ESSO ขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมแก่ลูกค้ารายย่อยผ่านทางเครือข่ายที่กว้างขวางของสถานีบริการน้ำมันค้าปลีกภายใต้ชื่อการค้าเอสโซ่ กว่า 580 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้ง ขายโดยตรงให้แก่ลูกค้าในภาคอุตสาหกรรม ค้าส่ง การบินและการเดินเรือ
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ ESSO ได้แก่ กลุ่มเอ็กซอน ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 67.5 และกระทรวงการคลัง ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 7.5 ของทุนชำระแล้ว
ผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) โปรดดูรายละเอียดได้จากหนังสือชี้ชวนของบริษัทได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.co.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัท ที่ www.esso.co.th เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ www.set.or.th และเว็บไซต์บ.เซ็ทเทรด ดอท คอมที่ www.settrade.com
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร.0-2229-2036 / ศรินทร์ลักษณ์ จิตกะวงศ์ โทร. 0-2229—2037
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229-2049 / วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797