นายไทภัทร ธนสมบัติกุล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม.กล่าวถึงมาตรการเพิ่มความเข้มงวดการควบคุม กำกับดูแล และแก้ไขปัญหาแหล่งกำเนิดฝุ่น PM2.5 จากยานพาหนะว่า กรุงเทพมหานคร โดย สจส. ตระหนักถึงความสำคัญในการลดปัญหาฝุ่น PM2.5 มาโดยตลอด ด้วยการแก้ไขปัญหาจราจรติดขัด การลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล และการส่งเสริมการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชน โดยจัดให้มีการเดินรถ BMA Feeder โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ปัจจุบันมีให้บริการเดินรถเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้า ได้แก่ เส้นทาง B2 จาก กทม.2 (ดินแดง) - BTS สนามเป้า และเส้นทาง B3 จากเคหะร่มเกล้า - ARL สถานีลาดกระบัง ในช่วงเช้าและเย็นวิ่งรับส่งเด็กนักเรียนเดินทางข้ามสะพานกรุงธน ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ได้จัดรถวิ่งให้บริการประชาชนจากสถานีบางขุนนนท์ไปเที่ยวตลาดน้ำในพื้นที่เขตตลิ่งชัน รวมถึงจัดให้มีการเดินเรือในคลองผดุงกรุงเกษม เพื่อให้เดินทางเชื่อมต่อ ไปยังสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีหัวลำโพงได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
นอกจากนั้น ยังจัดให้มีจักรยาน Bike sharing ซึ่งในปีนี้ได้เริ่มนำร่อง 2,000 คัน เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางจากระบบขนส่งมวลชนต่าง ๆ โดยได้ปรับปรุงเส้นทางเดินเท้าและทางจักรยานจากชุมชนมายังระบบขนส่งมวลชน รวมทั้งที่จอดรถจักรยานให้มีความสะดวกและปลอดภัย พัฒนาระบบ ITMS (Intelligent Transportation Management System) โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศจัดการกับการขนส่งและการจราจร เพื่อให้ส่วนต่าง ๆ มีการประสานงานที่ดีขึ้น เช่น การตั้งค่าสัญญาณไฟจราจร (Adaptive Signaling) การประมาณเวลาที่ใช้ในการเดินทาง (Travel Time Estimation) การตรวจจับความผิดปกติบนท้องถนน (Anomaly Detection) เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับความสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย และมีข้อมูลประกอบการวางแผนการเดินทางได้อย่างแม่นยำ ตลอดจนส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิด Ecosystem สำหรับรถพลังงานไฟฟ้า โดยออกประกาศเกณฑ์การอนุญาตให้ติดตั้งและบริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ขณะเดียวกันได้ร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กำหนดพื้นที่เก็บเงินค่าจราจรหนาแน่น (Congestion Charge Zone) ให้เหมาะสม โดยมีจุดมุ่งหมายการจัดเก็บ เพื่อลดความแออัดของรถและเพิ่มรายได้ให้ กทม.นำไปใช้พัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้ดีขึ้น รวมทั้งยังช่วยลดปัญหามลพิษและป้องกันสิ่งแวดล้อมของเมืองได้อีกด้วย
นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ (สนท.) กทม. กล่าวว่า สนท.ได้จัดชุดสายตรวจและประสานฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขตออกตรวจตราดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมทั้งบูรณาการความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบ กวดขัน และห้ามใช้รถยนต์ควันดำในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 จากยานพาหนะ รวมถึงสนับสนุนการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบและบำรุงรักษารถยนต์/เครื่องยนต์ให้มีสภาพพร้อมใช้ ขณะเดียวได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ เพื่อร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง ไม่ให้มีการเผาขยะในที่โล่ง
ทั้งนี้ ได้กำชับพนักงานขับรถบรรทุกและบุคลากรในสังกัดให้หมั่นดูแลรักษาสภาพเครื่องยนต์ หรือกรณีที่ต้องบรรทุกวัสดุที่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง ต้องระมัดระวังและจัดให้มีวัสดุป้องกันสิ่งที่บรรทุกมิให้ตกหล่น รั่วไหล ปลิว ฟุ้งกระจาย บนถนนในระหว่างที่ใช้รถ โดยจะต้องนำรถส่วนกลางเข้าตรวจควันดำทุกปี ๆ ละ 2 ครั้ง เพื่อไม่ให้รถส่วนกลางก่อให้เกิดควันดำ สร้างปัญหาฝุ่น PM2.5 นอกจากนี้ สนท.ยังได้ตั้งจุดตรวจกวดขันรถบรรทุกดิน หรือวัสดุอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดปัญหาฝุ่นละอองและรถบรรทุกที่เข้า-ออกบริเวณสถานที่ก่อสร้างให้ป้องกันมิให้วัสดุที่บรรทุกตกหล่น รั่วไหล ปลิว ฟุ้งกระจาย และล้างทำความสะอาดล้อรถบรรทุกก่อนออกจากสถานที่ก่อสร้างทุกครั้ง