บมจ.บูทิค คอร์ปอเรชั่น (BC) กางรายได้รวม 9 เดือน โต 91% ที่ 276 ล้านบาท ผลประกอบการฟื้นตัวต่อเนื่องแม้อยู่ในสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ไฮไลท์กลุ่มธุรกิจโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์โตพีคจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวทั้งในกรุงเทพฯ และโดยเฉพาะต่างจังหวัด โต 132% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ด้านธุรกิจกัญชาเพื่อการแพทย์ยันเดินหน้าเปิดสาขาตามแผนที่วางไว้ โดยปัจจุบันมี 8 สาขา พร้อมนำธุรกิจใหม่เสริมทัพ ควบคู่ปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ย้ำงบการเงินเฉพาะกิจการกำไรแข็งแกร่ง มีกำไรสะสมเป็นบวก
นายปรับ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้โมเดลธุรกิจ "สร้าง-ดำเนินการ-ขาย" (Build-Operate-Sale : BOS) เผยการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 ว่าแม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ผันผวน และมีการปรับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น แต่ผลประกอบการของบริษัทยังคงฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทยังคงระมัดระวังในการติดตามสภาวะตลาดและเศรษฐกิจ และจะใช้กลยุทธ์ที่รอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่ามีการเติบโตและความสำเร็จอย่างยั่งยืน
โดย กลุ่มธุรกิจโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ของบริษัทฯ มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทย โดยปัจจุบันเปิดให้บริการทั้งสิ้น 9 โครงการ แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มพื้นที่ คือ กรุงเทพฯ ซึ่งมีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 82.0% โดยรายได้รวมจากโครงการในกรุงเทพฯ อยู่ที่ 66.1 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้น 31.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และโครงการในต่างจังหวัด รายได้รวมอยู่ที่ 34.7 ล้านบาทในไตรมาส 3/2566 เพิ่มขึ้น 132.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 14.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นจากผลของการฟื้นตัวต่อเนื่องของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ฤดูกาลท่องเที่ยวและเทศกาลปีใหม่
สำหรับโครงการรีเทลของบริษัทฯ โครงการซัมเมอร์พ้อยท์ สร้างการเติบโตอย่างโดดเด่น มีอัตราการเช่าพื้นที่สูงถึง 89% ในช่วงไตรมาส 3/2566 โดยได้แรงหนุนหลักจากทีมบริหารอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ระดับการเช่าพื้นที่ที่สูงขึ้นนี้เป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนให้สนใจซื้อโครงการนี้
โดย ผลประกอบการของไตรมาส 3/2566 บริษัทมีผลประกอบการเฉพาะกิจการของบริษัท ในพัฒนาการที่ดีขึ้น โดยมีกำไรหลักก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (core EBITDA) เป็นบวกที่ 1.1 ล้านบาท เทียบกับการติดลบระดับ 14.9 ล้านบาท ในไตรมาส 2/2566 ที่ผ่านมา และมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรวม 42.8 ล้านบาท ลดลง 8.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 7.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งการเพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นผลมาจากการให้บริการที่เพิ่มขึ้นตามรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ Boutique International Holdings Limited (BIH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในต่างประเทศที่ BC ถือหุ้นทั้งหมดในสัดส่วน 100% ได้ประกาศและจ่ายเงินปันผลจำนวน 200 ล้านบาท ในเดือนมกราคม 2566 และได้ส่วนชดเชยค่าตอบแทนเพิ่มเติม เพิ่มอีก 11 ล้านบาท ในเดือนกรกฎาคม 2566 จากการขายโครงการโอ๊ควู้ด สตูดิโอส์ สนับสนุนภาพรวม 9 เดือนแรกของปีนี้ BC มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
สำหรับผลประกอบการตามงบการเงินรวมของบริษัท งวดไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 91.6 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นตัวอย่างโดดเด่นที่ 74.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการเปิดโรงแรมของบริษัทอีกครั้ง สนับสนุนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 2566 BC มีรายได้รวมอยู่ที่ 276.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และสะท้อนถึงภาพรวมของตลาดในเชิงบวก อย่างไรก็ดี กลุ่มบริษัทรายงานผลกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ที่ดีขึ้น โดยเป็นลบลดลงอยู่ที่ 5.3 ล้านบาท จากเดิมเป็นลบ 20.7 ล้านบาทในไตรมาส 2/2566 ในขณะที่งวดเก้าเดือนปี 2566 EBITDA ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน เป็นข้อบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของกลุ่มธุรกิจกัญชาทางการแพทย์ ของ BC ที่ดำเนินงานภายใต้ บริษัท บีสโปค ไลฟ์ ไซเอนซ์ จำกัด ประสบความสำเร็จในการเปิดสาขาใหม่ 3 สาขา ในพัทยา เชียงใหม่ และ สยามดิสคัฟเวอรี่ ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายกัญชาทางการแพทย์แห่งแรกในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในประเทศไทย สนับสนุนให้ปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้นรวม 8 สาขา โดยมีอีก 3 สาขาที่เตรียมเปิดในเดือน พฤศจิกายน ที่ย่านพระโขนง, ซอยสุขุมวิท 24 และ Hard Rock Cafe เชียงใหม่ คาดจะได้รับผลตอบรับที่ดีเช่นกัน และยังมุ่งเดินหน้าตามแผนที่ขยายสาขาในสิ้นปี 2566 นี้ โดยมีแผนเพิ่มช่องทางการขายใหม่ โดยมีรายได้ผ่าน wholesalers อีกด้วย
อีกทั้ง ล่าสุด บริษัทได้รับใบอนุญาตสถานพยาบาล เพิ่มเติม สำหรับคลินิกแพทย์แผนไทย สาขาพัทยา และสาขาซอยคาวบอย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบริษัทยังคงดำเนินธุรกิจในระยะยาว เพื่อสอดคล้องกับแนวนโยบายของภาครัฐที่ยังสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์
ด้านธุรกิจขนส่งและจัดเก็บสินค้าของส่วนตัว ภายใต้แบรนด์ "GO Storage" เติบโตขึ้นในอัตราการใช้บริการระดับ 33% ในเดือนมีนาคม 2566 เป็นระดับ 82.3% ในเดือนกันยายน 2566 นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนในการปล่อยเช่าพื้นที่จัดเก็บไวน์ ให้แก่ผู้สนใจภายนอกเพิ่มเติมอีกด้วย
นายปรับ กล่าวทิ้งท้ายว่า "ในปี 2566 BC เราปรับกลยุทธ์การบริหารงานอย่างเข้มข้น โดยเน้นที่การบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ สร้างการเติบโตได้อย่างโดดเด่นและยั่งยืนในทุกกลุ่มธุรกิจ เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ "