บมจ.พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ หรือ PSP เปิดผลประกอบการไตรมาส 3/2566 โชว์ผลงานกำไรต่อเนื่อง มีกำไรสุทธิ 139.5 ล้านบาท เติบโตขึ้น 23.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากกำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการลดลง และบริษัทย่อยมีผลประกอบการที่ดีขึ้น พร้อมมองแนวโน้มธุรกิจปีหน้าสดใส จากฐานลูกค้าในตลาดใหม่และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง เชื่อปีหน้าโตตามเป้าหมายที่วางไว้
นายเสกสรร ครองพาณิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ หรือ "PSP") เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ในงวดไตรมาส 3 ปี 2566 (กรกฎาคม-กันยายน) มีกำไรสุทธิจำนวน 139.5 ล้านบาท เติบโตขึ้น 23.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 9 เดือนแรกปีนี้ (มกราคม-กันยายน) มีกำไรสุทธิ 324.7 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีกำไรแข็งแกร่งต่อเนื่อง จากการขยายตัวของฐานลูกค้า การบริหารจัดการวัตถุดิบและการควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงบริษัทย่อยทำผลงานได้ดีขึ้น
"บริษัทฯ เป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบบครบวงจร ด้วยโมเดลการดำเนินธุรกิจด้านการผลิตและการให้บริการที่ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์หล่อลื่น มีความได้เปรียบเหนือคู่แข่งด้วยกำลังการผลิตที่สูงที่สุดในประเทศไทยและมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุด โดยมีฐานลูกค้ามากกว่า 200 ราย ซึ่งเป็นผู้นำในภาคอุตสาหกรรมที่หลากหลายทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้บริษัทฯ มีฐานรายได้ที่แข็งแกร่งและมั่นคง โดยในไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,146.2 ล้านบาท เติบโตขึ้น 5.9% จากไตรมาสก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิจำนวน 139.5 ล้านบาท เติบโตขึ้น 23.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยหลักมีผลมาจากการปรับตัวสูงขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น จากการบริหารจัดการวัตถุดิบที่มีประสิทธิภาพ การควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ และรวมไปถึงบริษัทย่อยทำผลงานได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น บริษัท U.C. Marketing รวมไปถึงบริษัทกลุ่มโลจิสติกส์ทั้งบริษัท P.S.P. Logistics และบริษัท Special Interfreight" นายเสกสรร กล่าว
สำหรับแนวโน้มการเติบโตปี 2567 บริษัทฯ จะยังคงเน้นการขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์หล่อลื่นในตลาดต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์หล่อลื่นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า น้ำมันหล่อลื่นและจาระบี Food Grade สำหรับภาคอุตสาหกรรมอาหาร รวมไปถึงน้ำมันผสมยางและน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าชีวภาพอีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับดอกเบี้ยลดลงอย่างมีนัยสำคัญและมั่นใจว่า ปี 2567 จะมีผลประกอบการณ์ที่ดีและเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้