นายพรชลิต พลอยกระจ่าง รองกรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) เตรียมนำเงินสดจากการดำเนินงาน สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 จ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในรูปการคืนเงินทุนจดทะเบียนหน่วยละ 0.208 บาท ด้วยการลดมูลค่าที่ตราไว้ จากหน่วยละ 8.728 บาท เหลือหน่วยละ 8.520 บาท โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับคืนเงินทุนในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 และจะจ่ายคืนเงินทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 12 ธันวาคม 2566
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 ถึงกันยายน 2566 (ไตรมาสที่ 2 ปี 2566/2567) กองทุน BTSGIF มีรายได้รวมจำนวน 1,222.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสูง 41.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 16.9% จากไตรมาสก่อน โดยสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากเงินลงทุนในสัญญาซื้อและโอนสิทธิรายได้สุทธิ จากการดำเนินงานระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพสายหลักตามสัญญาสัมปทาน เพิ่มขึ้น 41.4% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 17.0% จากไตรมาสก่อนเป็น 1,216.6 ล้านบาท โดยในไตรมาสนี้ รายได้ค่าโดยสารจำนวน 1,696.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.4% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ที่คลี่คลาย และการปรับอัตราค่าโดยสาร เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน รายได้ค่าโดยสารเพิ่มขึ้น 10.6% จากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากจำนวนวันทำการที่มากขึ้นในไตรมาสนี้
ทั้งนี้ รอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 (ไตรมาสที่ 2 ปี 2566/2567) กองทุน BTSGIF มีขาดทุนสะสม ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 จำนวน 12,116.8 ล้านบาท ดังนั้น กองทุนจึงไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนสำหรับไตรมาสนี้ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์และนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่ระบุในหนังสือชี้ชวนของกองทุน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต