"บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล" หรือ GPI ผลงาน 9 เดือนแรกปีนี้แข็งแกร่ง ทำกำไรสุทธิ 115.47 ล้านบาท เติบโต 40.74% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มั่นใจผลการดำเนินงานทั้งปีเติบโตโดดเด่นทั้งรายได้และกำไร ลุ้นรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจโรงไฟฟ้าในไตรมาสสุดท้าย พร้อมร่วมมือพาร์ทเนอร์จัดตั้งบริษัทร่วมทุนรุกจัดสปอร์ตอีเวนต์ ขยายพอร์ตรายได้ธุรกิจใหม่
ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2566 (ตามงบการเงินรวม) มีรายได้จากการขายและบริการ 583.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและบริการ 552.64 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 115.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.74% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 82.05 ล้านบาท โดยการเติบโตมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2023 ที่จัดขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 1 ถึงต้นไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการยานยนต์และผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมาก ส่วนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและงานพิมพ์มีรายได้อยู่ในระดับที่ดี
จากผลการดำเนินงานดังกล่าวมั่นใจว่าผลการดำเนินงานปี 2566 จะมีอัตราเติบโตโดดเด่นทั้งรายได้และกำไร ถึงแม้ผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังมีแนวโน้มชะลอตัวจากครึ่งปีแรก เนื่องจากไม่มีการรับรู้รายได้จากงานแสดงสินค้าขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามคาดว่าจะสามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าในไตรมาส 4/2566 หลังจากปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรแล้วเสร็จและกลับมาเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าอย่างเต็มที่ตั้งแต่ปลายไตรมาส 3 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จากการวางกลยุทธ์รุกขยายพอร์ตธุรกิจเพื่อขยายฐานรายได้และสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง ล่าสุดบริษัทฯ ได้ร่วมกับบริษัท ไตรลีก (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทภายใต้ชื่อ Grand Prix Tri-League Entertainment โดยบริษัทฯ และไตรลีกฯ ถือหุ้นเท่ากันรายละ 49% และอีก 2% ถือหุ้นในนามบุคคล เพื่อร่วมมือกันรุกธุรกิจสปอร์ตอีเวนต์ที่กำลังฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย และเทรนด์การดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและความนิยมในการออกกำลังกายเพื่อดูแลรักษาสุขภาพที่เพิ่มขึ้น