กรุงเทพฯ--7 ธ.ค.--กันตนา กรุ๊ป
เปิดให้สื่อมวลชนได้เห็นความคืบหน้ากันไปแล้ว สำหรับการผลิตภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่น 3 มิติเรื่องแรกของไทย “ก้านกล้วย” งานนี้! หัวเรือใหญ่อย่าง จาฤก กัลย์จาฤก ลงทุนเปิดโรงภาพยนตร์ กันตนา ซีนีเพล็ก ให้เหล่าบรรดาสื่อมวลชนได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ทั้งกระบวนการทำภาพยนตร์แอนิเมชั่น โฉมหน้าทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังนับ 100 ชีวิต และยังได้ชมภาพยนตร์ตัวอย่างที่เรียกเสียงฮือฮาให้กับสื่อมวลชนไม่น้อยด้วยความสมบูรณ์แบบของภาพยนตร์แอนิเมชั่น 3 มิติ ฝีมือคนไทยล้วนๆ แต่ได้ผลงานระดับฮอลลีวู้ด ที่ล่าสุดการผลิตคืบหน้าไปกว่า 100% พร้อมออกสู่สายตาทั่วประเทศเดือนมีนาคมนี้… การันตีเนื้อหาและคุณภาพยอดเยี่ยมทัดเทียมต่างชาติ คาดจะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมแอนิเมชั่นไทยให้กลับมาตื่นตัวอีกครั้ง
นายจาฤก กัลย์จาฤก กรรมการบริหาร บริษัท กันตนา แอนนิเมชั่น จำกัด เปิดเผยถึงความคืบหน้าการผลิตภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่น 3 มิติเรื่องแรกของไทย “ก้านกล้วย” ว่า “ขณะนี้ขั้นตอนการผลิตต่างๆ โดยรวมคืบหน้าเกือบ 100% แล้ว โดยในส่วนของการทำแอนิเมชั่น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการให้ชีวิตแก่ตัวละคร สร้างให้ตัวละครและสิ่งประกอบแวดล้อมต่างๆ ในภาพยนตร์มีการเคลื่อนไหวได้อย่างสมจริงมีชีวิตชีวา รวมทั้งสร้างอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครให้เป็นธรรมชาติเพื่อความสนุกสนานของภาพยนตร์นั้น เราได้หัวเรือหลักระดับมืออาชีพอย่าง “คุณคมภิญญ์ เข็มกำเนิด” ที่เคยฝากผลงานในการ์ตูนแอนิเมชั่นชื่อดังของวอล์ทดีสนีย์ และ บลูสกาย สตูดิโอ อย่าง ทาร์ซาน (Tarzan), ไอซ์เอจ (Ice Age) และ แอตแลนติส (Atlantis) มาเป็นผู้กำกับควบคุมคุณภาพการผลิตให้ออกมาดีที่สุด โดยเรามีทีมงานในส่วนของการผลิตทั้งหมดกว่า 100 คน และใช้งบประมาณกว่า 150 ล้านบาท
หนังเรื่องนี้เหมาะแก่เยาวชนไทยจึงอยากให้พ่อแม่ผู้ปกครองพาเด็กๆ มาชมกัน เพราะนอกจากจะได้ความสนุกสนานแล้ว ในภาพยนตร์ยังจะแทรกจริยธรรมเพื่อสอนเด็กๆ ซึ่ง “ก้านกล้วย” จะเข้าฉายใน โรงภาพยนตร์ประมาณเดือนมีนาคม 2549 คาดว่าจะทำรายได้มากกว่า 100 ล้านบาท และเชื่อว่าจะเป็นผลงานที่สร้างชื่อให้กับกันตนาในฐานะเป็นผู้ผลิตภาพยนตร์แอนิเมชั่น”
นางอัจฉรา กิจกัญจนาสน์ โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์แอนิเมชั่น “ก้านกล้วย” เล่าให้ฟังถึงเบื้องหลังการทำงานว่า “ทีมงานมีความมุ่งมั่นและอยากสร้าง “ก้านกล้วย” ให้ออกมาตามความตั้งใจ แต่เมื่อเริ่มลงมือทำงานกันจริงๆ อะไรๆ กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด ตั้งแต่การสร้าง 3D Model ตัวละคร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นช้าง มี 4 ขา 2 หู 1 งวง 1 หาง แต่ละส่วนต้องขยับได้อย่างเป็นธรรมชาติ ตามมาถึงการทำงานของ แอนิเมเตอร์ ซึ่งในช่วงแรกๆ ส่วนใหญ่ยังไม่คุ้นกับท่าทางของช้าง ไม่ว่าจะเป็นการเดิน ยืน กิน นอน และอื่นๆ ซึ่งทุกส่วนของร่างกายต้องสัมพันธ์กัน ดูเป็นธรรมชาติ แถมยังต้องสร้างบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ให้ช้างแต่ละตัวด้วย ทว่า หลังจากการเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของช้าง ถ่ายวิดีโอมาเพื่อศึกษา และลุยงานกันอย่างเต็มที่ การเคลื่อนไหวของตัวละครที่ออกมาก็ดูลื่นไหล และได้อารมณ์ตามที่ทุกคนคิดฝันไว้ งานอีกส่วนหนึ่งที่สร้างความหนักใจให้กับทีมงาน คือ การสร้างฉากสงครามยุทธหัตถี ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดของเรื่อง และเป็นฉากที่มีรายละเอียดซับซ้อน ทั้งตัวละครที่มีจำนวนมาก บรรยากาศของเรื่องซึ่งเต็มไปด้วยฝุ่นควัน เปลวไฟ ประกายไฟ เศษซากสิ่งของ และอื่นๆ อีกมากมาย เพราะเหตุนี้เอง กันตนา จึงได้จัดทีมขึ้นมาเพื่อสร้างฉากสงครามโดยเฉพาะ
นอกจากการใส่ความเคลื่อนไหวให้ตัวละครแล้ว ทีมงานยังต้องเขียนโปรแกรมพิเศษเฉพาะขึ้นมา เพื่อรองรับการทำงานในส่วนนี้ ซึ่งโปรแกรมพิเศษนี้ช่วยเพิ่ม Model ตัวละคร จากเป็นกลุ่มเล็กๆ ให้ขยายจนเต็มเฟรม และโปรแกรม Special Effect อื่นๆ ซึ่งช่วยเสริมให้ภาพทั้งหมดดูสมบูรณ์ยิ่งขึ้น นับเป็นก้าวที่สำคัญ ในการสร้างสรรค์งาน 3D Animation ด้วยฝีมือ คนไทย ซึ่งมีการคิดค้นโปรแกรมขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อให้เหมาะสมกับผลงานในแต่ละเรื่อง ถือเป็นมาตรฐานใหม่ของงาน 3D Animation ของไทยเลยก็ว่าได้”
ข้อมูลเพิ่มเติม :
วีรยา หมื่นเหล็ก, นิลธรา มะเดชา, สุขกมล งามสม
โทรศัพท์ 0 2691 6302-4, 0 2274 4961-2
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--