TikTok ร่วมกับกรุงเทพมหานคร เปิดตัวกิจกรรมการฝึกอบรมให้ความรู้ดิจิทัล "โบ๊เบ๊ on TikTok" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือในการผลักดันให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองอัจฉริยะในมิติด้านเศรษฐกิจ (Smart Economy) โดยสนับสนุนกลุ่มผู้ค้าในตลาดโบ๊เบ๊ แหล่งค้าปลีกค้าส่งชื่อดังของกรุงเทพฯ ให้มีทักษะดิจิทัล และความรู้ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ผ่าน TikTok Seller Academy เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจให้บนแพลตฟอร์มออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน ณ อาคารปฏิบัติการการโรงแรมและท่องเที่ยว คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เขตดุสิต
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะประธานเปิดกิจกรรมการฝึกอบรมให้ความรู้ดิจิทัล กล่าวว่า "ตลาดโบ๊เบ๊มีจุดแข็งในด้านชื่อเสียงที่ยาวนานอยู่แล้ว การเพิ่มทักษะให้ผู้ค้าในตลาดในเรื่องการค้าขายบนแพลตฟอร์ม TikTok จะสร้างประโยชน์ได้ 4 ด้าน คือ ไม่ต้องมีคนควบคุมการเข้า-ออก สามารถขายได้ตลอดเวลา สามารถขยายฐานลูกค้าได้กว้างขวาง รองรับลูกค้าจากหลากหลายพื้นที่โดยไม่ต้องเดินทาง ผู้ค้าสามารถลงขายสินค้าได้ตลอดเวลาขณะที่ผู้ซื้อก็สามารถเลือกซื้อสินค้าเวลาใดก็ได้เช่นกัน และสุดท้ายคือ ผู้ค้ามีโอกาสได้รับเสียงตอบรับจากผู้ซื้อ ทั้งในแง่ดีและไม่ดี เพื่อปรับปรุงและพัฒนาร้านค้าและธุรกิจให้ดียิ่งขึ้นต่อไป"
นางชนิดา คล้ายพันธ์ Head of Public Policy - Thailand, TikTok กล่าวว่า "จุดมุ่งหมายของเราในการขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือ การมุ่งยกระดับระบบนิเวศของการซื้อขายสินค้า และบริการให้เข้าถึงผู้คนได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นทั้งการเสริมสร้างจิตวิญญาณของผู้ประกอบการและกระตุ้นเศรษฐกิจ เสริมสร้างทักษะการเรียนรู้เทคโนโลยีดิจิทัลให้ผู้ค้า อีกทั้งยังเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล ควบคู่ไปกับการส่งเสริมวัฒนธรรม และชุมชนท้องถิ่น โดยใช้ TikTok Shop เป็นแพลตฟอร์มนำเสนอเชื่อมโยงคอนเทนต์สินค้า และบริการจากผู้ขายสู่ผู้ซื้อ ซึ่งการฝึกอบรมให้ความรู้ดิจิทัลจะให้ความรู้แก่ผู้ค้า ตั้งแต่ขั้นตอนการเปิดร้าน ลงสินค้า เคล็ดลับทำอย่างไรให้เป็น ขายให้ได้ และขายให้ดี อีกทั้งวิธีทำคอนเทนต์ ไลฟ์สตรีม และมีการใช้แคมเปญ #โบ๊เบ๊เปย์ง่าย เพื่อเป็นการตอกย้ำให้คนเห็นว่าย่านค้าขายนี้ยังอยู่ ไม่หายไปไหน มีสินค้าและบริการมากมายให้ทุกคนมาจับจ่ายใช้สอย อีกทั้งจะมีการติดตามและวัดผลโครงการเพื่อให้ช่วยเหลือผู้ค้าในอนาคตต่อไป"
"ประโยชน์ที่ชัดเจนจากโครงการนี้คือเป็นการเชื่อมโยงระหว่างโลกจริง และโลกดิจิทัลให้คู่ขนานกันไป เราไม่ได้ทิ้งอัตลักษณ์ทางกายภาพของตลาดโบ๊เบ๊ แต่นำเทคโนโลยีเข้าช่วยเสริมศักยภาพการค้าขายและธุรกิจท้องถิ่น ถ้าเราสร้างแนวคิดนี้ให้เกิดได้ในชุมชนต่างๆ ก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขึ้น และไม่จำกัดเฉพาะในเมืองไทย แต่ TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่เข้าถึงได้ทั่วโลก ซึ่งนับเป็นการส่งเสริมอัตลักษณ์ท้องถิ่นของไทยสู่ระดับนานาชาติด้วย และนี้ความหมายของ Smart City นำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของคน และของเมือง" นายชัชชาติเสริม
สำหรับการฝึกอบรมให้ความรู้ดิจิทัลมีเป้าหมายที่สำคัญคือการมุ่งมั่นที่จะสร้างความรู้ และความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการทุกคนสามารถไปต่อยอดทำได้จริงบนแพลตฟอร์ม TikTok Shop ได้เรียนรู้ตั้งแต่ขั้นตอนการเริ่มเปิดร้านค้า การจัดเตรียมรูปภาพสินค้า การลงสินค้าเพื่อจูงใจผู้ซื้อ การจัดการคำสั่งซื้อ และข้อควรระวังต่างๆ รวมไปถึงการเพิ่มยอดขาย และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าด้วยคอนเทนต์บนตลาดออนไลน์ เช่น เคล็ดลับการทำวิดีโอสั้นให้น่าสนใจ ขั้นตอนการไลฟ์สตรีม เป็นต้น เพราะ TikTok มุ่งมั่นที่จะเห็นผู้ประกอบการไทยสามารถสร้างรายได้เติบโต และมีความยั่งยืน รวมถึงยังเป็นการเปิดโอกาสในการเพิ่มการเข้าถึงสินค้าอีกด้วย เพราะ TikTok ไม่ได้มีเพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้น ยังครอบคลุมหลากหลายประเทศทั่วโลก และด้วยจุดแข็งของ TikTok Shop ที่มีความโดดเด่นคือการเป็นแพลตฟอร์ม Shoppertainment ที่ผสมผสานทั้งในเรื่องของ Shopping และ Entertainment จะเป็นพลังที่จะช่วยสนับสนุนธุรกิจของคนไทยได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร และ TikTok ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อช่วยผลักดันให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองอัจฉริยะ (Bangkok Smart City) โดยดำเนินงานร่วมกันภายใต้แนวคิดริเริ่ม 3 Smart ครอบคลุมใน 3 มิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ (Smart Economy) ด้านสังคม - การศึกษา (Smart People) และด้านสิ่งแวดล้อม (Smart Environment) ผ่านการปลดล็อกศักยภาพทางเศรษฐกิจ เสริมสร้างองค์ความรู้สู่การพัฒนาสังคม และสร้างความตระหนักรู้ด้านปัญหาสิ่งแวดล้อม