คุณภาพอากาศส่งท้ายปีในเดือนธันวาคม พบว่าเกินค่ามาตรฐาน และเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จะทำอย่างไรดี เมื่อเราต้องออกไปทำกิจวัตรประจำวันข้างนอก ที่อาจจะต้องเผชิญกับฝุ่นพิษนี้โดยหลีกเลี่ยงไม่ได้
ฝุ่นมล PM 2.5 ทำให้เกิดผลเสียอะไรต่อร่างกาย
มีทั้งผลระยะสั้นเช่น แสบตาแสบจมูก ทำให้ภูมิแพ้กำเริบ หรือ ผลระยะยาวเช่น ส่งผลต่อการพัฒนาปอดในเด็ก ทั้งยังส่งผลต่อการพัฒนาและเจริญเติบโตโดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ รวมไปถึงยังมีผลต่อโรคปอดระยะยาว ยังมีการรายงานถึงมะเร็งทั้งมะเร็งปอดและมะเร็งทางเดินอาหารอีกด้วย
เรื่องนี้หมอแซน พญ.อัญชลี เสนะวงษ์ จากศูนย์รักษาโรคหอบหืดและภูมิแพ้ โรงพยาบาลบีเอ็นเอช BNH Asthma and Allergy Centre (BAAC) ได้มาแนะ 5 วิธีรับมือกับฝุ่นพิษ ดังนี้
เครื่องกรองอากาศประสิทธิภาพสูง คุณหมอแซนแนะนำเลือกชนิด HEPA filter (High Efficiency Particulate Air filter) และมี ค่าอัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ หรือ Clean Air Delivery Rate ที่เหมาะสมกับขนาดพื้นที่ห้องด้วย CADR ยิ่งตัวเลขสูงเท่าไหร่ ความสามารถของเครื่องในการฟอกอากาศก็จะยิ่งดี
เช็คค่าฝุ่นอยู่เสมอ ถ้าฝุ่นเยอะออกนอกบ้านควรสวมใส่หน้ากากที่สามารถป้องกันฝุ่นที่มีขนาดเล็กจิ๋วได้โดยคำแนะนำคือการใส่หน้ากากชนิด N95 หรือถ้าไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยธรรมดาก็ยังดีค่ะ
หากมีโรคภูมิแพ้ หอบหืด หลอดลมไวอยู่เดิม แนะนำใช้ ใช้ยาพ่นอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรขาดยา ล้างจมูกเพื่อกำจัดฝุ่นพิษออกไปด้วยนะคะ
ออกกำลังกายต้านภูมิแพ้ช่วยได้ ช่วงนี้ต้องเลือกสถานที่ออกกำลังกายให้เหมาะสม อาจอยู่ในห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำ โยคะ indoor ก่อน หรือเลือกช่วงเวลาไปวิ่งสวนสาธารณะ ในช่วงที่ฝุ่นน้อย กินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงประเภทวิตามินซีและอี
จัดบ้านรับฝุ่น หลีกเลี่ยงบริเวณที่รก อาจเป็นที่สะสมของฝุ่นได้ เปิดบ้านให้อากาศถ่ายเท แสงแดดเข้า ในช่วงที่ฝุ่นน้อย รวมไปถึงเลือกปลูกต้นไม้ที่กรองฝุ่น แต่อย่าลืมกำจัดเชื้อราให้ดีด้วยนะคะ
นอกจากนี้ หมอแซนยังให้ความรู้อีกด้วยว่าค่าฝุ่น PM2.5 มักสัมพันธ์กันกับโรคหอบหืด หากมีอาการที่ปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ก็สามารถเข้ารับการตรวจ FeNo Test เพื่อประเมินอาการได้ที่ศูนย์รักษาโรคหอบหืดและภูมิแพ้ โรงพยาบาลบีเอ็นเอช ชั้น 1 โทร. 02 022 0840