'อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ต้องไม่มีที่ห้วยป่าน' คือวลีบนแผ่นป้ายไม้หน้าโรงเรียนบ้านห้วยป่าน จังหวัดเลย เปรียบเสมือนเครื่องเตือนใจให้กับคุณครู 13 คน และนักเรียนทั้ง 132 คน ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงประถมศึกษาที่ปี 6 ที่ได้เข้ามาสอน เสริมสร้างความรู้ และร่ำเรียนในพื้นที่แห่งนี้ นับเป็นเวลากว่า 62 ปี ตั้งแต่การก่อตั้งโรงเรียน ห้องสมุดคือหนึ่งในความต้องการของโรงเรียน ที่จะมาเป็นแหล่งหาความรู้เพิ่มเติมนอกห้องเรียน ปลูกฝังนิสัยรักการอ่านแก่เยาวชน และเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้ให้กับเด็กนักเรียนในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งแนวทางของโรงเรียนบ้านห้วยป่านนั้นอยากที่จะสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนุก ให้เด็กแต่ละชั้นเรียนสามารถมาใช้เวลาร่วมกัน และ 'เรียนปนเล่น' ไปด้วยกันได้ ทาง 'กรุงศรี ออโต้' ได้ลงสำรวจพื้นที่และเล็งเห็นถึงคุณประโยชน์และวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกับแนวทางการศึกษาของโรงเรียนบ้านห้วยป่าน จึงเป็นที่มาของห้องสมุดกรุงศรี ออโต้ แห่งที่ 15 นี้
นายคงสิน คงคา ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการส่งมอบห้องสมุดกรุงศรี ออโต้ แห่งที่ 15 ว่า "ความปรารถนาที่จะเรียนรู้เป็นตัวแปรสำคัญที่จะยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตไปสู่ความสำเร็จ การอ่านเป็นพื้นฐานที่นำไปสู่การเสริมสร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ในปัจจุบันเยาวชนสามารถเข้าถึงการค้นคว้าหาความรู้นอกห้องเรียน ผ่านเล่มหนังสือ ควบคู่กับการเรียนรู้ในรูปแบบดิจิทัลได้มากขึ้น กรุงศรี ออโต้ มองเห็นถึงคุณค่าของการอ่าน และให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคมมาโดยตลอด เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ห้องสมุด กรุงศรี ออโต้ จะเป็นแหล่งความรู้ สร้างความสุข เสียงหัวเราะให้กับเด็ก ๆ รวมไปถึงบุคลากรทุกคนในโรงเรียนให้มี Better Everyday Life หรือชีวิตที่ดีขึ้นในทุก ๆ วัน"
จากแผ่นป้ายไม้เตือนใจ จนมาถึงวันที่ได้รับมอบห้องสมุด นางสาวเดือนเพ็ญ โคตรก่ำ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยป่าน กล่าวถึงความรู้สึกว่า "หัวใจหลักของการศึกษาในโรงเรียนคือการที่นักเรียนทุกคนต้องอ่านออกเขียนได้ นี่คือเหตุผลหลักที่พ่อแม่ผู้ปกครองทุกคนตั้งใจส่งลูกมาเรียน ป้ายหน้าโรงเรียนที่สานต่อเจตนารมณ์มาจากผู้อำนวยการท่านก่อน จึงเป็นเสมือนปลายทางที่เราต้องเดินไปร่วมกัน ย้ำและเตือนสติ บุคลากรและครูทุกคนในทุกวัน ขอขอบคุณทาง กรุงศรี ออโต้ ที่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยตรงจุดนี้ ผ่านการสร้างห้องสมุด สร้างโอกาสให้นักเรียนได้มีอิสระในการเรียนรู้ที่หลากหลายและกว้างขึ้น เพราะในห้องสมุดแห่งนี้ นักเรียนจะสามารถเลือกหยิบหนังสือได้ตามที่ตัวเองชอบ ทำให้อยากอ่านหนังสือ ช่วยปลูกฝังนิสัยรักการอ่านไปโดยปริยาย"
การออกแบบและตกแต่งห้องสมุดกรุงศรี ออโต้ แห่งที่ 15 นี้ มีรูปลักษณ์สวยงาม โปร่งสูงด้วยกระจกใส และสีสันสดใส เชื้อเชิญให้เข้าไปผ่อนคลาย มีเพลงเปิดคลอเบา ๆ คล้ายกับคาเฟ่เก๋ ๆ ในเมือง ไอเดียนี้มาจากการหารือระหว่างทีมอาสาสมัคร กรุงศรี ออโต้ และภาพในใจของคุณครูโรงเรียนบ้านห้วยป่าน ที่อยากให้ห้องสมุดเป็นพื้นที่สำหรับการ 'เรียนปนเล่น' เปิดโอกาสให้เด็กทุกชั้นเรียน แม้เด็กเล็กที่อาจจะยังอ่านไม่ได้ รู้สึกไม่เกร็งเวลาเดินเข้าไป เพราะห้องสมุดนี้นอกจากจะมีหนังสือที่หลากหลาย ทั้งหนังสือรูปภาพ และนวนิยายสำหรับเยาวชนต่าง ๆ แล้ว ยังมีชุดของเล่นเสริมพัฒนาการ และคอมพิวเตอร์ที่ไว้ใช้หาข้อมูลบนโลกออนไลน์ได้อีกด้วย นอกจากนี้ ทาง กรุงศรี ออโต้ ยังได้ส่งมอบสวนมะนาวออร์แกนิค ในชื่อ 'สวนมะนาวบ้านห้วยป่าน' จำนวน 20 ต้น ซึ่งระดมทุนมาจากพันธมิตรดีลเลอร์ในภูมิภาค ให้กับโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทักษะด้านการเกษตร การขาย การตลาด และการเงิน อีกด้วย
ครูอ้อม หรือ นางสาวกันยรัตน์ ด้วงเกต ครูบรรณารักษ์ โรงเรียนบ้านห้วยป่าน เล่าว่า "รู้สึกดีใจมาก ๆ ที่โรงเรียนได้มีห้องสมุดแห่งนี้ อยากเปิดพื้นที่ให้เป็นแนวเพื่อนสอนเพื่อน เด็กเล็กหรือเด็กพิเศษบางคนที่อาจจะยังอ่านหนังสือได้ไม่คล่อง ก็สามารถเข้ามาใช้เวลากับเพื่อนเด็กโต เพื่อนคนอื่น ๆ และครูบรรณารักษ์ ที่จะช่วยสอนและแนะแนวทางกันได้ บรรยากาศสบาย ๆ ไม่ตึงเครียด นำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ ต่อยอดในห้องเรียนต่อไป ซึ่งครูมีแผนที่จะเสริมกิจกรรมอื่น ๆ เข้าไปในอนาคต มองหาสิ่งที่เด็กสนใจเอามาเสริมทักษะ ให้ความสนุกสนาน ได้ความรู้ และเพิ่มประสบการณ์"
น้องหยก หรือ ด.ญ. รุ่งนภา เสนาวัน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กล่าวว่า " ตอนครูมาบอกว่าโรงเรียนเรากำลังจะได้มีห้องสมุด รู้สึกดีใจมาก ปกติไม่ชอบอ่านหนังสือ เพราะไม่มีหนังสือให้อ่าน อยากอ่านแนวอาชีพ จะได้หาความรู้ เตรียมความพร้อม โตไปแล้วอยากเป็นหมอ ในห้องสมุดอยากให้มีโซนของเล่น โซนอ่านหนังสือ โซนอินเตอร์เน็ต และพื้นที่ให้เล่นกับเพื่อนได้ด้วย"
ส่วน น้องนุ่น หรือ ด.ญ. อรัญญา รวงงาม นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กล่าวว่า "โรงเรียนไม่เคยมีห้องสมุดมาก่อน ทำให้ไม่ได้รู้สึกสนใจหรือชอบอ่านหนังสือ แต่พอได้มาเห็นห้องสมุดจริงๆ ดีใจมากที่มีห้องสมุดสวยงามแบบนี้ ทำให้อยากขอยืมหนังสือมาอ่านที่บ้าน เพราะที่บ้านไม่มีหนังสือและไม่ค่อยได้ดูโทรทัศน์ ห้องสมุดในฝันชอบสไตล์มินิมอล กว้าง ๆ ใหญ่ ๆ มีหนังสือให้เลือกเยอะ ๆ ทั้งที่เป็นการ์ตูน แอนิเมชัน หรือเกี่ยวกับอาชีพ ยิ่งถ้ามีอินเตอร์เน็ตให้ก็จะได้ใช้ได้ด้วย"
โครงการ 'ห้องสมุดกรุงศรี ออโต้' ริเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคม ของ กรุงศรี ออโต้ ที่ได้รับความร่วมมือจากอาสาสมัครจากสำนักงานใหญ่และสาขาในพื้นที่ ในการร่วมก่อสร้าง พัฒนา ปรับปรุง และดูแลห้องสมุด รวมไปถึงปัจจัยขั้นพื้นฐาน สร้างพื้นที่ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ และทุนการศึกษา เพื่อสร้างโอกาสให้แก่เยาวชนในพื้นที่ห่างไกล ในการเข้าถึงแหล่งความรู้ที่ทันสมัยเช่นเดียวกับเยาวชนในชุมชนเมือง ปัจจุบัน ห้องสมุดกรุงศรี ออโต้ มีทั้งหมด 15 แห่ง ทั่วประเทศไทย