สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) เตือนประชาชน ช่วงหน้าฝน ระวังโรคเลปโตสไปโรสิส (โรคไข้ฉี่หนู) โดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วมขัง หลังน้ำลด ไม่ควรเดินลุยน้ำ ย่ำดินโคลน พื้นที่ชื้นแฉะด้วยเท้าเปล่า หรือแช่น้ำเป็นเวลานาน แนะสวมรองเท้าบูททุกครั้ง หากมีไข้เฉียบพลันหลังลุยน้ำ 1-2 สัปดาห์ ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ปวดน่องและกล้ามเนื้อโคนขา อย่าซื้อยากินเอง ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวถึงสถานการณ์ โรคเลปโตสไปโรสิส (Leptospirosis) หรือโรคไข้ฉี่หนู จากระบบรายงานเฝ้าระวังโรค 506 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 6 ธันวาคม 2566 ประเทศไทยพบผู้ป่วย 4,065 ราย เสียชีวิต 40 ราย สำหรับเขตสุขภาพที่ 12 พบผู้ป่วย 874 ราย เสียชีวิต 9 ราย คือ ตรัง 6 ราย สงขลา 2 ราย และพัทลุง 1 ราย จังหวัดที่มีจำนวนผู้ป่วยสูงสุดคือจังหวัดสงขลา 253 ราย รองลงมาคือ ตรัง 225 ราย, นราธิวาส 120 ราย, พัทลุง 109 ราย, ยะลา 75 ราย, สตูล 65 ราย และปัตตานี 27 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด 45-54 ปี รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 55-64 ปี, อายุ 35 - 44 ปี และอายุ 25-34 ปี สัดส่วนอาชีพที่พบผู้ป่วยสูงสุดคือ เกษตรกรรม ร้อยละ 32.95 รองลงมาคือ รับจ้าง ร้อยละ 27.12 และนักเรียน ร้อยละ 20.14
โรคเลปโตสไปโรสิส (Leptospirosis) หรือโรคไข้ฉี่หนู เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย "เลปโตสไปร่า" (Leptospira) เข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล รอยขีดข่วน รอยถลอกตามผิวหนัง เยื่อบุตา จมูก ปาก หรือชอนไชเข้าทางผิวหนังที่แช่น้ำเป็นเวลานาน โรคไข้ฉี่หนูมักระบาดช่วงหน้าฝน โดยเฉพาะหลังน้ำลด กลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อคือเกษตรกรที่ต้องเดินลุยน้ำ หรือพื้นดินชื้นแฉะที่ปนเปื้อนปัสสาวะสัตว์ ได้แก่ วัว ควาย หมู หมา แพะ หนู รวมทั้งผู้ที่ทำงานในฟาร์มเลี้ยงสัตว์/โรงฆ่าสัตว์/ผู้ที่ชำแหละสัตว์ที่มีเชื้อโรคฉี่หนู นอกจากนี้ ยังอาจติดต่อได้จากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อน ทำให้ป่วยโรคนี้ได้
นายแพทย์เฉลิมพล กล่าวว่า ช่วงหน้าฝนนี้ขอให้ประชาชนระวังป่วยด้วยโรคเลปโตสไปโรสิส (โรคไข้ฉี่หนู) โดยอาการที่สำคัญ คือ มีไข้สูง หลังลุยน้ำ 1-2 สัปดาห์ ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ปวดน่องและกล้ามเนื้อโคนขาอย่างมาก คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ตาแดง หากมีอาการดังกล่าวขอให้รีบไปพบแพทย์ทันที เน้นย้ำ แจ้งประวัติการแช่น้ำ เดินลุยน้ำให้แพทย์ทราบด้วย ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่เสียชีวิตส่วนใหญ่ มักซื้อยากินเอง หรือไปพบแพทย์ช้า
การป้องกันโรคไข้ฉี่หนู หลีกเลี่ยงการลุยน้ำพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง ย่ำโคลน หรือพื้นที่ชื้นแฉะ ด้วยเท้าเปล่า เนื่องจากหนู หมู วัว และควายอาจจะมาปัสสาวะไว้ ทำให้มีปริมาณเชื้อเข้มข้น โดยเฉพาะเมื่อมีบาดแผล รอยถลอก ขีดข่วน เชื้อโรคสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ควรสวมรองเท้าบูท ถุงมือ หรือชุดป้องกัน สำหรับเกษตรกรที่ต้องสัมผัสมูลสัตว์หรือสิ่งสกปรก ควรล้างมือ ล้างเท้า อาบน้ำชำระร่างกายทันทีหลังเสร็จจากการทำงาน นอกจากนี้ ยังต้องรักษาความสะอาดบริเวณบ้านเรือน กำจัดขยะเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาหารของหนู เก็บอาหารและน้ำดื่มให้มิดชิด ป้องกันไม่ให้หนูปัสสาวะใส่ ควรดื่มน้ำต้มสุก และกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ด้วยความร้อน กรณีจับต้องสัมผัสเนื้อสัตว์ ซากสัตว์ หรือสัตว์ทุกชนิด ให้รีบล้างมือด้วยสบู่ หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422