ยูนิโคล่ แบรนด์เครื่องแต่งกายระดับโลก เปิดตัวคอลเลคชัน UNIQLO x Marimekko ลิมิเต็ดเอดิชัน จากความร่วมมือกับมารีเมกโกะ (Marimekko) ดีไซน์เฮาส์จากฟินแลนด์ ที่โดดเด่นในเรื่องของศิลปะลายพิมพ์ คอลเลคชันนี้นำเสนอไอเทมเด่นของยูนิโคล่อย่าง ผ้าฟลีซเนื้อนุ่มและฮีทเทค (HEATTECH) เปี่ยมประสิทธิภาพ ในลายพิมพ์ของมารีเมกโกะที่โด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ และสัตว์ป่าในแถบนอร์ดิก คอลเลคชัน UNIQLO x Marimekko พร้อมเพิ่มความสนุกสนานให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือเพื่อนๆ เป็นเสื้อผ้าที่มอบความอบอุ่นและความคล่องตัวตลอดฤดูหนาวนี้ พร้อมวางจำหน่ายที่ร้านยูนิโคล่ทุกสาขา และออนไลน์สโตร์ตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป
4 ลายพิมพ์อันเป็นเอกลักษณ์ของมารีเมกโกะ
คอลเลคชันนี้นำเสนอลายพิมพ์อันเป็นเอกลักษณ์ 4 ลายด้วยกัน ได้แก่ ลายก้อนหิน (Kivet) ลายนกฮูก (Kissapoelloe) และลายไซเรน (Seireeni) ที่ออกแบบโดย ไมยา อิโซลา ดีไซเนอร์รุ่นบุกเบิกของแบรนด์ ส่วนลายสุดท้ายคือลายก้อนเมฆ (Hattara) ที่ออกแบบโดย แพนติ รินต้า ลายพิมพ์แต่ละแบบล้วนสร้างสรรค์ขึ้นจากธรรมชาติในแถบนอร์ดิก ไม่ว่าจะเป็นก้อนหิน นกฮูก และก้อนเมฆที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ซึ่งแต่ละลายนั้นต่างใช้สีสันสุดชิคอย่างสีเทาไข่มุก สีทอง และสีดำสุดคลาสสิกที่สื่อถึงฤดูหนาวที่เงียบสงบแต่แฝงด้วยความอบอุ่น
เสื้อผ้าฤดูหนาวที่มาพร้อมฟังก์ชันและความอบอุ่น
ไลน์อัพสินค้าสำหรับฤดูหนาวมีทั้งของผู้ใหญ่และเด็ก เสื้อแจ็กเก็ตผ้าฟลีซ ทรงรีแล็กซ์ และกระโปรงผ้าฟลีซ ทำจากเนื้อผ้า ที่มอบความอบอุ่นและโอบกอดผู้สวมใส่อย่างนุ่มนวล เสื้อยืดคอเต่าผ้า HEATTECH กับสัมผัสนุ่มสบายด้านใน ที่สามารถใส่เป็นเสื้อตัวในหรือเป็นไอเทมเสริมลุคเล่นเลเยอร์ก็ได้เช่นกัน ถุงเท้า HEATTECH และกระเป๋าสะพายไหล่ยังช่วยเติมเต็มลุคและทำให้แฟชันหน้าหนาวสนุกมากยิ่งขึ้น
คอลเลคชัน UNIQLO x Marimekko ต้อนรับปีใหม่ 2024
วันวางจำหน่าย: วันที่ 1 มกราคม 2024
สาขาที่วางจำหน่าย: พบกับสินค้าทั้งไลน์อัพได้ที่ร้านยูนิโคล่ทุกสาขา และออนไลน์สโตร์
เว็บไซต์สำหรับคอลเลกชัน: https://www.uniqlo.com/th/th/contents/collaboration/uniqloxmarimekko/23fw/
ไอเทม 9 รายการ
ไอเทม | ราคา | ไอเทม | ราคา | |
เสื้อแจ็กเก็ตผ้าฟลีซสำหรับผู้หญิง | 990 บาท | เสื้อแจ็กเก็ตผ้าฟลีซสำหรับเด็กผู้หญิง | 790 บาท | |
กระโปรงผ้าฟลีซสำหรับผู้หญิง | 1,290 บาท | กระโปรงสั้นผ้าฟลีซสำหรับเด็กผู้หญิง | 790 บาท | |
เสื้อคอเต่า HEATTECH สำหรับผู้หญิง | 790 บาท | เสื้อคอเต่า HEATTECH สำหรับเด็กผู้หญิง | 390 บาท | |
ถุงเท้า HEATTECH สำหรับผู้หญิง | 190 บาท | ถุงเท้า HEATTECH 2 คู่ สำหรับเด็กผู้หญิง | 290 บาท | |
กระเป๋าสะพายไหล | 590 บาท |
เกี่ยวกับเหล่าดีไซเนอร์ของแบรนด์มารีเมกโกะ
ไมยา อิโซลา
ไมยา อิโซลา (1927-2001) เริ่มต้นอาชีพนักออกแบบลายพิมพ์กับมารีเมกโกะในปี 1949 ตลอดระยะเวลา 38 ปีในการทำงาน ไมยา ได้ออกแบบลายพิมพ์มากกว่า 500 แบบให้กับแบรนด์ เธอยังได้วางรากฐานเรื่องของโรงพิมพ์ให้กับมารีเมกโกะอีกด้วย เธอใช้ชีวิตตามสไตล์ของตัวเอง วาดภาพจากสิ่งที่เธอได้พบเจอระหว่างการท่องเที่ยวทั่วยุโรป แอฟริกาเหนือ และอเมริกา ทริปเหล่านี้ต่างเป็นแรงบันดาลใจให้กับลวดลายและสีสันต่างๆ ที่ออกแบบโดยไมยา
แพนติ รินต้า
แพนติ ริต้า ทำงานกับมารีเมกโกะตั้งแต่ปี 1969 - 1987 ในฐานะแฟชั่นดีไซเนอร์ ตลอดระยะเวลาที่ทำงานที่นี่ เขาได้ออกแบบลายพิมพ์ที่มีสีสันสดใสและโดดเด่นให้กับมารีเมกโกะ ในยุค 70 งานดีไซน์ของแพนติที่ทำให้กับแบรนด์ปรากฎอยู่บนนิตยสารแฟชั่นนานาชาติชั้นนำทั่วโลก ในปี 1972 เขาได้ออกแบบ Kuski (driver) เสื้อสูทผ้าลูกฝูกสำหรับผู้ชายสุดฮิต ที่กลายเป็นไอเทมคลาสสิกในเวลาต่อมา ลายพิมพ์ของแพนติที่ผู้คนน่าจะรู้จักกันดีก็คือ Kirjo (แถบสเปกตรัม) และ Haamuruutu (จตุรัสลึกลับ)
เรื่องราวของลวดลายต่างๆ
Kivet (หิน)
ลาย Kivet (ก้อนหิน) ของไมยา อิโซลา เกิดจากรูปวงกลมที่ตัดด้วยกรรไกร ลวดลายนี้น่าจะได้แรงบันดาลใจจากก้อนหินก้อนใหญ่ทรงกลมไม่สม่ำเสมอในบริเวณบ้านของไมยา นี่คืออีกหนึ่งลวดลายของมารีเมกโกะที่ผู้คนคุ้นเคยและชื่นชอบมากที่สุด
Kissapoelloe (นกฮูกสีเหลืองน้ำตาล)
ในปี 1961 ไมยา อิโซลา ใช้เวลามากมายกับการทำงานในโรงพิมพ์ผ้าของมารีเมกโกะ ค่อยๆ จรด ฝีแปรงลงบนภาพวาด ในขณะที่ฟังเพลงไปด้วย สร้างสรรค์ดีไซน์ใหม่ไปทีละจุด จากผลงานทั้งหมด ลาย Kissapoelloe (นกฮูกสีเหลืองน้ำตาล) คือลายเส้นจากธรรมชาติที่เก๋ลายหนึ่ง
Seireeni (ไซเรน)
ช่วงต้นยุค 60 ในขณะที่ไมยา อิโซลา ท่องเที่ยวในกรีซ เธอได้แรงบันดาลใจจากการเคลื่อนไหวของน้ำ และตีความผ่านลายพิมพ์หลายๆ แบบบนผืนผ้า รวมถึงลาย Seireeni (ไซเรน) จากปี 1964 ที่ตั้งชื่อตามตำนานเรื่องไซเรน ลวดลายทำให้นึกถึงการร้องเพลงที่ไพเราะ ซึ่งคอยหลอกล่อเหล่ากะลาสีสู่ผืนน้ำที่อันตราย
Hattara (ก้อนเมฆ)
กลุ่มก้อนเมฆเล็กๆ อันน่ารักผ่านการตีความแบบง่ายๆ ของแพนติ รินต้า เป็นลวดลายที่นำไปสู่รอยยิ้มบนใบหน้า และพาเราย้อนเวลาไปสู่ความทรงจำในฤดูร้อนอันแสนหวาน