อีวีเอแอร์ (EVA Air) สายการบินสัญชาติไต้หวัน ได้สรุปคำสั่งซื้อเครื่องบิน พิสัยไกล รุ่น เอ350-1000 (A350-1000) จำนวน 18 ลำ และเครื่องบินทางเดินเดี่ยว รุ่น เอ321นีโอ (A321neo) จำนวน 15 ลำกับแอร์บัส คำสั่งซื้อดังกล่าวทำให้สายการบินกลายเป็นสายการบินระดับโลกรายล่าสุด ที่เลือกเครื่องบิน A350-1000 เพื่อรองรับความต้องการในการบินระยะทางไกลในอนาคต นอกจากนี้ เครื่องบิน A321neo จะนำประสิทธิภาพใหม่ที่ดีขึ้นมาสู่สายการบิน EVA Air ภายในเส้นทางระดับภูมิภาค
เคลย์ ซัน (Clay Sun) ประธานสายการบิน EVA Air กล่าวว่า "เราได้เลือกเครื่องบินของแอร์บัสภายหลังการประเมินรุ่นต่างๆ ในแต่ละกลุ่มตลาดอย่างละเอียด เครื่องบินทั้งสองขนาดที่เราได้เลือก เป็นประเภทที่ทันสมัยและประหยัดเชื้อเพลิงที่สุด ซึ่งมอบความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารในระดับสูงสุด นอกจากนี้ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้อย่างมาก ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของบริษัทเรา สำหรับการปฏิบัติการบินในเส้นทางระยะไกล เครื่องบิน A350-1000 ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเครื่องบินในระดับเดียวกัน และจะทำให้เราสามารถมอบประสบการณ์บนเครื่องบินที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ให้กับผู้โดยสารของเรา"
เบอนัวต์ เดอ แซงเต็กซูเปรี (Benoit de Saint-Exupery) รองประธานฝ่ายขายเครื่องบินพาณิชย์ของแอร์บัส กล่าวว่า "คำสั่งซื้อนี้ถือเป็นก้าวใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างแอร์บัสกับ EVA Air เราขอขอบคุณสายการบินที่ให้ความเชื่อมั่นต่อแอร์บัส ภายในตลาดเครื่องบินพิสัยไกล สิ่งนี้เป็นการรับรองตอกย้ำว่า A350-1000 เป็นเครื่องบินที่สามารถปรับปรุงทดแทนเครื่องบินประเภทลำตัวกว้างขนาดใหญ่รุ่นเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย A350 กำลังสร้างมาตรฐานใหม่ทั้งในด้านพิสัยบิน น้ำหนักบรรทุก ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง และความสะดวกสบายของผู้โดยสาร ขณะเดียวกันก็ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ในทันที"
"เรายังขอขอบคุณสายการบิน EVA Air ที่ยืนยันในคำมั่นสัญญาต่อเครื่องบินตระกูลทางเดินเดี่ยวรุ่นล่าสุดของ แอร์บัส ด้วยการสั่งซื้อเครื่องบินรุ่น A321neo โดยตรงเป็นครั้งแรก และเราหวังว่าจะได้ร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดในขณะที่ทางสายการบินเตรียมพร้อมสำหรับฝูงบินแอร์บัสใหม่"
ในฐานะผู้นำการบินพิสัยไกลของอุตสาหกรรม เครื่องบิน A350 มีจำหน่ายในสองขนาดด้วยกัน โดยทั่วไปแล้วรุ่น A350-900 จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 350 คน สำหรับเครื่องบินแบบสามชั้นรุ่นมาตรฐาน ส่วนรุ่น A350-1000 ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่านั้น สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 410 คน
ด้วยพลังการขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์โรลส์-รอยซ์เจเนอเรชันล่าสุด ทำให้เครื่องบินแอร์บัสรุ่น A350 สามารถบินได้ไกลถึง 9,700 ไมล์ทะเล หรือ 18,000 กิโลเมตรแบบไม่หยุดพัก โดยใช้เชื้อเพลิงน้อยกว่าเครื่องบินในรุ่นก่อนหน้าถึง 25 เปอร์เซ็นต์ พร้อมกับลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในระดับเดียวกัน สำหรับผู้โดยสารแล้ว เครื่องบิน A350 มอบความสะดวกสบายในการบินระดับสูงสุด ด้วยห้องโดยสารที่เงียบที่สุด และระบบไฟส่องสว่างแบบใหม่ รวมถึงการเชื่อมต่อในระหว่างการบินแบบใหม่ล่าสุด และแรงกดดันอากาศในห้องโดยสารที่ลดลง ซึ่งช่วยให้แน่ใจว่าผู้โดยสารสามารถเดินทางถึงที่หมายได้อย่างยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น
เครื่องบินตระกูล A350 ได้รับคำสั่งซื้อแล้วมากกว่า 1,000 ลำ จากลูกค้า 60 รายทั่วโลก โดยปัจจุบันมีเครื่องบินมากกว่า 570 ลำในฝูงบินของผู้ให้บริการ 39 ราย ซึ่งบินในเส้นทางระยะไกลเป็นหลัก
เครื่องบินรุ่น A321neo เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องบินในตระกูล A320neo ที่ผสานเทคโนโลยีล่าสุดจำนวนมากทั้งเครื่องยนต์เจเนอเรชั่นใหม่และปลายปีกแบบชาร์คเล็ท (Sharklet) รวมถึงตัวช่วยที่เพิ่มประสิทธิภาพของห้องโดยสาร เมื่อรวมกันแล้วเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยลดการเผาไหม้เชื้อเพลิงได้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ด้วยคำสั่งซื้อมากกว่า 5,600 รายการ จากลูกค้ามากกว่า 100 รายนับตั้งแต่เริ่มเปิดตัวในปี 2559 ทำให้เครื่องบินแอร์บัสรุ่น A321neo สามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้ถึงประมาณ 65 เปอร์เซ็นต์