กรุงเทพฯ--6 พ.ค.--เอไอเอส
เอไอเอส และ จีเอสเอ็ม แอดวานซ์ เปิดให้บริการ 3GSM advance : อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงบนมือถือและโทรศัพท์มือถือเห็นหน้าได้ ด้วยเทคโนโลยี HSPA ที่ จ.เชียงใหม่เป็นแห่งแรก ของประเทศไทย เชื่อมั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติรูปแบบการสื่อสารของคนไทยจากนี้ไป
นายวิเชียร เมฆตระการ, กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “ตามที่เอไอเอสได้ประกาศความพร้อมในการเปิดให้บริการ อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงและมือถือเห็นหน้าได้ด้วยเทคโนโลยี HSPA บนคลื่นความถี่ 900 เม็กกะเฮิร์ตซ เป็นรายแรกของประเทศไทย ภายใต้ชื่อ 3GSM advance เมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่ผ่านมานั้น จากความพร้อมดังกล่าว ในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ เราจึงได้เริ่มจำหน่ายเครื่องและเปิดให้ลูกค้าชาวเชียงใหม่ได้ใช้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจัดกิจกรรมเพื่อสร้างการรับรู้และจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ HSPA ทั่วเมืองเชียงใหม่”
“บริการ 3GSM advance คือการนำเทคโนโลยี HSPA - High Speed Packet Access บนคลื่นความถี่ปัจจุบัน มาพัฒนาเป็นบริการหลากหลายรูปแบบที่สามารถตอบสนองความต้องการใช้งานอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงได้อย่างสะดวกสบายบนมือถือ และถือเป็นการทำงานบนสัญญาที่รับสิทธิอยู่ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง TOT และ เอไอเอส ที่ได้ทำ MOU ร่วมกันในการพัฒนากิจการโทรคมนาคมไทย ซึ่งเอไอเอสได้รับสิทธิจาก TOT ในการปรับปรุงโครงข่ายจากที่ได้ให้บริการอยู่ปัจจุบัน เพื่อที่จะใช้เทคโนโลยีใหม่บนความถี่เดิมให้เกิดประโยชน์สูงสุด และ TOT เองก็ได้รับอนุญาต จากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ให้ทำการปรับปรุงโครงข่ายโดยใช้ เทคโนโลยี HSPA บนคลื่นความถี่ 900 เม็กกะเฮิร์ตซเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” นายวิเชียร กล่าว
ด้าน นายสรรค์ชัย เตียวประเสริฐกุล, หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด เอไอเอส กล่าวว่า “3GSM advance ถือเป็นบริการใน Generation ที่ 3 บนมาตรฐาน WCDMA (Wide Band CDMA) ที่คลื่นความถี่ 900 เม็กกะเฮิร์ตซ หรือที่เรียกกันว่า 3G ซึ่งสามารถรองรับการใช้งานรับ-ส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูง (HSPA) ขนาด 7200 กิโลบิทต่อวินาที ซึ่งแตกต่างจาก GPRS หรือ EDGE ปัจจุบันที่ให้ความเร็วเพียง 160 กิโลบิทต่อวินาทีหรือต่างกันถึง 45 เท่า ดังนั้นจึงทำให้สามารถให้บริการต่างๆได้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก อาทิ อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงบนมือถือ (High Speed Internet), โทรศัพท์แบบเห็นหน้า (Video Call) หรือ บริการดาวน์โหลดข้อมูลขนาดใหญ่ในลักษณะของ Video Clip, Video Streaming, Full Song, Music Video, ฯลฯ ซึ่งลูกค้าที่ใช้ 3GSM advance จะสามารถใช้บริการดังกล่าวได้ทั้งหมดด้วยหมายเลขเดิมในระบบ GSM advance”
“สำหรับเหตุผลที่เลือก จ.เชียงใหม่เป็นพื้นที่เริ่มต้นในการให้บริการ เพราะถือเป็นจังหวัดอันดับ 2 ของประเทศไทยรองจากกรุงเทพมหานครที่มีความต้องการใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง และ Lifestyle ที่ไม่แตกต่างกัน ในขณะเดียวกันก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเอไอเอสในการให้บริการในจังหวัดอื่นๆที่ไม่ใช่เพียงกรุงเทพมหานครด้วย เพราะในอนาคตรูปแบบของบริการจะต้องสามารถตอบสนองได้ทั้งลูกค้าที่อยู่ในต่างจังหวัดและเขตกรุงเทพฯนั่นเอง ทั้งนี้ลูกค้าปัจจุบันของ GSM advance สามารถเปลี่ยนมาใช้ 3GSM advance ได้โดยใช้เบอร์เดิม เพียงซื้อเครื่องโทรศัพท์และเปลี่ยนเป็นซิม 3GSM advance โดยโปรโมชั่น Voice Call จะเป็นโปรโมชั่นเดิมที่ใช้งานอยู่ ส่วนโปรโมชั่นการใช้งาน Data จะคิดตามปริมาณข้อมูลที่ใช้งานจริง”
“เราได้เตรียมงบประมาณในการเปิดให้บริการ 3GSM advance ไว้ราว 600 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบที่อยู่ในส่วนของการพัฒนาเครือข่ายปี 2551 ที่เตรียมไว้ราว 16,000 ล้านบาท สำหรับการเปิดตัวที่เชียงใหม่นี้เบื้องต้นมีสถานีฐานจำนวน 25 แห่ง ที่ครอบคลุมใจกลางเมืองเชียงใหม่ทั้งหมด ส่วนในกรุงเทพฯและพื้นที่อื่นๆนั้นจะทยอยให้บริการตามลำดับ โดยจะพิจารณาจากความต้องการในแต่ละพื้นที่ต่อไป ทั้งนี้เราเชื่อมั่นว่าจะมีลูกค้าสนใจและเริ่มใช้บริการได้ราว 70,000 - 80,000 รายภายในปี 2551 ” นายสรรค์ชัย กล่าว
นอกจากนี้ในการนำคณะสื่อมวลชนร่วมชมการเปิดให้บริการ 3GSM advance ณ จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ เอไอเอสได้ตอกย้ำการเป็น Total Telecom Provider โดยโชว์การทดสอบการ Convergence เทคโนโลยี HSPA ที่ จ.เชียงใหม่ร่วมกับเทคโนโลยี WiMAX จาก จ.เชียงราย (ซึ่ง เอไอเอสได้รับใบอนุญาตทดสอบ WiMAX ในบริเวณมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง) ผ่านบริการต่างๆ อาทิ Video Conference, Video Call, Voice Call,ฯลฯ ซึ่งนายวิเชียรกล่าวว่า “การโชว์ผลการทดสอบร่วมกันระหว่าง 2 เทคโนโลยีที่รองรับการใช้งานความเร็วสูงนี้ แสดงให้เห็นจุดเด่นของ HSPA และ WiMAX ที่สามารถก่อให้เกิดประโยชน์และตอบสนอง Lifestyle ทั้งแบบเคลื่อนที่ (Mobile) และ อยู่กับที่ (Fix Wireless) ของคนในปัจจุบันได้อย่างชัดเจน โดยเมื่อภาครัฐทำการออกใบอนุญาตให้บริการได้อย่างเป็นทางการ เอไอเอสก็มีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะสร้างสรรค์บริการที่เกิดจากการผสมผสานเทคโนโลยีดังกล่าวเข้าด้วยกัน เพื่อมอบเป็นทางเลือกที่ตรงใจให้แก่ลูกค้าได้อย่างแน่นอน”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เอไอเอส คอลล์เซ็นเตอร์ 1175 หรือ ที่ www.gsmadvance.ais.co.th
สื่อมวลชนสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ส่วนงานประชาสัมพันธ์ เอไอเอส
วราลี จิรชัยศรี, โทร 022995063, 0818112412 waraleej@ais.co.th