จอห์น แมดดิสัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและรองประธานฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ ฟอร์ติเน็ต กล่าวว่า "เน็ตเวิร์กกิ้ง และ ซีเคียวริตี้ กลายเป็นสิ่งที่ต้องมาบรรจบและหลอมรวมเข้าด้วยกัน เพื่อรักษาความปลอดภัยและเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮบริด โดยช่วยเสริมพลังการทำงานแบบไฮบริดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจริงๆ แล้ว เราได้คาดการณ์ล่วงหน้าไว้ว่า ระบบซีเคียวเน็ตเวิร์กกิ้ง จะทำให้ความสำคัญของระบบเน็ตเวิร์กกิ้งลดลง และส่งอิทธิพลต่อตลาดมากขึ้น โดยฟอร์ติเน็ตจะยังคงขยายและผสานรวมกลุ่มผลิตภัณฑ์ซีเคียวเน็ตเวิร์กกิ้ง เข้ากับ FortiGuard AI-Powered Security Services ซึ่งเป็นบริการรักษาความปลอดภัยที่ขับเคลื่อนด้วยพลังจาก AI ทั้งในส่วนของเน็กซ์-เจนไฟร์วอลล์ Secure SD-WAN Universal ZTNA และ SASE รวมถึง LAN ตลอดจน Wireless LAN ที่มีทั้งหมด"
ฟอร์ติเน็ต ผู้นำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลกที่ขับเคลื่อนการผสานรวมของระบบเน็ตเวิร์กกิ้งและซีเคียวริตี้ ประกาศเปิดตัว FortiGate 90G อุปกรณ์ Secure SD-WAN ตัวแรกและ NGFW พร้อมหน่วยประมวลผลความปลอดภัยใหม่ 5 (SP5) ASIC ที่ให้ประสิทธิภาพในการป้องกันภัยคุกคามที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในระดับแถวหน้าของอุตสาหกรรม พร้อมความสามารถในการขยายศักยภาพการทำงาน ช่วยเพิ่มพลังและประสิทธิภาพในการทำงานในราคาที่คุ้มค่า การขยายสายผลิตภัณฑ์ซีเคียว เน็ตเวิร์กกิ้ง (Secure Networking) ใหม่ของฟอร์ติเน็ต ช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับบริษัทในการรักษาความปลอดภัยได้อย่างสอดประสาน ตลอดจนการบริหารจัดการแบบรวมศูนย์ ให้ระบบวิเคราะห์ และ FortiGuard AI-Powered Security Services หรือบริการรักษาความปลอดภัยที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของฟอร์ติการ์ดบนเครือข่ายแบบไฮบริดทั้งหมด
เปิดตัว FortiGate 90G ใหม่ที่มาพร้อม SP5 ASIC
FortiGate 90G ซีรีส์ใหม่ของเน็กซ์-เจนไฟร์วอลล์ (NGFW) ให้ความสามารถด้าน ซีเคียวเน็ตเวิร์กกิ้ง ในระดับเอ็นเตอร์ไพร์ซ อาทิ ไฟร์วอลล์แบบ hybrid mesh SD-WAN และ SD-Branch ไปยังระบบเอดจ์ปลายทางที่กระจายอยู่โดยรอบ นอกจากนี้ FortiGate 90G ยังเป็นรากฐานในการก้าวสู่ SASE และ Zero-Trust ของลูกค้า เพื่อให้สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัย รวมไปถึง Private Access และใช้บริการ SaaS ได้อย่างปลอดภัย
FortiGate 90G ได้ถูกผสานรวมกับ FortiGuard AI-Powered Security Services อย่างสมบูรณ์เพื่อให้การป้องกันการบุกรุกด้วยวิธีการล้ำหน้า ด้วยการตรวจสอบแบบ Deep Packet ในเชิงลึกอย่างละเอียด สำหรับทราฟฟิกที่เข้ารหัส SSL/TLS ตลอดจนให้บริการรักษาความปลอดภัยของเว็บ ( Web Security Services) อาทิ การทำฟิลเตอริ่ง DNS และ URL เพื่อบล็อกการเข้าถึงโดเมนและ URLs ที่เป็นอันตราย รวมไปถึงการรักษาความปลอดภัยเนื้อหา เช่น การทำ Inline Sandboxing เพื่อหยุดการโจมตีแบบ Zero Day และการคุกคามแบบ File-based อื่นๆ
ทั้งนี้ ชุดไฟร์วอลล์ใหม่ คือชุดแรกที่มาพร้อมกับ SP5 ASIC ซึ่งเป็นเทคโนโลยี ASIC รุ่นที่ 5 ของฟอร์ติเน็ต ที่ประกาศเปิดตัวไปในช่วงต้นปี โดยให้ความสามารถในการเร่งความเร็วและเรียกใช้แอปพลิเคชันพร้อมกันได้มากกว่า 2 ตัวขึ้นไป ตัวอย่างเช่น เน็กซ์-เจนไฟร์วอลล์ (NGFW) เทคโนโลยี ZTNA (Zero-Trust Network Access) SD-WAN และการตรวจสอบ SSL ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า พลังของ FortiGate 90G พร้อมด้วย SP5 ASIC ของฟอร์ติเน็ต และ FortiGuard AI-Powered Security Services ให้ความสามารถที่เหนือชั้น ในการเปรียบเทียบจากตารางSecurity Compute Rating ด้านล่าง ที่เป็นเกณฑ์การเปรียบเทียบประสิทธิภาพไฟร์วอลล์ชั้นนำในตลาดของ FortiGate 90G ซีรีส์
- ประสิทธิภาพการป้องกันภัยคุกคามของ FortiGate 90G วัดได้จาก Firewall, IPS, Application Control และ Malware Protection รวมLoggging
- ตัวเลขสำหรับโซลูชันที่แข่งขันกันมาจากแหล่งข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ผู้จำหน่ายรายอื่นๆ อาจมีวิธีการและรูปแบบในการทดสอบที่แตกต่างกันไป
- การวัดค่าการใช้พลังงานทั้งหมด มาจากข้อมูลภายนอกและคู่มือระบบฮาร์ดแวร์โดยโดยอิงตามการใช้พลังงานสูงสุด
ความพร้อมในการทำตลาด ปัจจุบัน FortiGate 90G วางตลาดแล้ว
เสริมพลังให้กับโลกไฮบริด ผสานเน็ตเวิร์กกิ้งและซีเคียวริตี้เข้าด้วยกัน
การสร้างการเติบโต ตลอดจนการขยายธุรกิจดิจิทัล พร้อมปกป้องโครงสร้างพื้นฐานแบบกระจายศูนย์ และสนับสนุนคนทำงานแบบไฮบริดไปพร้อมกัน คือสิ่งสำคัญและซับซ้อนมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา และนั่นคือเหตุผลที่ฟอร์ติเน็ต ได้นำเสนอสายผลิตภัณฑ์ซีเคียว เน็ตเวิร์กกิ้ง ที่ผสานรวมเทคโนโลยีเน็ตเวิร์กกิ้งเข้ากับ FortiGuard AI-Powered Security Services ในระบบเอดจ์ที่ปลายทางทั้งหมด เพื่อปิดช่องว่างด้านความปลอดภัย อีกทั้งช่วยให้องค์กรได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น การประกาศเปิดตัวครั้งนี้ คือการตอกย้ำความมุ่งมั่นของฟอร์ติเน็ตในการขยายและผสานรวมเทคโนโลยีซีเคียวเน็ตเวิร์กกิ้งในส่วนต่างๆ ได้แก่
- ไฟร์วอลล์แบบ Hybrid Mesh เพื่อการใช้งานสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์และบนคลาวด์
- Secure SD-WAN สำหรับสำนักงานสาขา
- SASE สำหรับผู้ใช้ที่อยู่ห่างไกลและในสำนักงานสาขา
- Universal ZTNA สำหรับผู้ใช้ที่อยู่ห่างไกลและตามโลเคชั่นต่างๆ ของระบบเครือข่าย (campus locations) เพื่อใช้งานในองค์กร
- WLAN/LAN สำหรับสำนักงานสาขาและโลเคชั่นต่างๆ ของระบบเครือข่าย (campus locations) เพื่อใช้งานในองค์กร