สายการบินอีซี่ย์เจ็ต (easyJet) ยืนยันคำสั่งซื้อเครื่องบินตระกูล เอ320นีโอ (A320neo) เพิ่มเติมอีก 157 ลำ หลังจากได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้น คำสั่งซื้อดังกล่าวประกอบด้วยเครื่องบิน A320neo จำนวน 56 ลำ และเครื่องบิน เอ321นีโอ (A321neo) จำนวน 101 ลำ และยังรวมถึงการเพิ่มขนาดของคำสั่งซื้อ A320neo จำนวน 35 ลำ ให้เป็น A321neo ที่ใหญ่ขึ้น ข้อตกลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับปรุงฝูงบิน และการปรับเพิ่มจำนวนที่นั่งผู้โดยสารของ easyJet และยังนำการพัฒนาด้านความยั่งยืนที่สำคัญมาสู่ธุรกิจอีกด้วย
นายโยฮัน ลุนด์เกรน (Johan Lundgren) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ easyJet กล่าวว่า "เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สามารถยืนยันคำสั่งซื้อที่สำคัญนี้ ซึ่งไม่เพียงจะช่วยให้ easyJet สามารถเปลี่ยนทดแทนเครื่องบินรุ่นเก่าให้เป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น อันเป็นองค์ประกอบหลักของแผนงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ของเรา แต่ข้อตกลงนี้ยังช่วยให้เราสามารถเติบโตอย่างมีแบบแผน และสร้างโอกาสการพัฒนาที่สำคัญจากการปรับเพิ่มจำนวนที่นั่งผู้โดยสาร" นายโยฮัน กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "ด้วยคำสั่งซื้อนี้ easyJet จะสามารถตอกย้ำตำแหน่งผู้นำทางการบิน ในสนามบินหลักที่สำคัญของยุโรปต่อไปได้ และเราหวังว่าจะได้ร่วมงานเป็นพันธมิตรกับแอร์บัสต่อไปในอนาคต"
นายคริสเตียน เชอร์เรอร์ (Christian Scherer) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์และหัวหน้าของแอร์บัส อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า "แอร์บัสรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับ easyJet ในการขยายและปรับปรุงฝูงบินให้เติบโต โดยฝูงบินแอร์บัสของ easyJet นี้ทำให้สายการบินสามารถสร้างข้อเสนอที่แตกต่างในตลาดซึ่งมีการแข่งขันสูง ด้วยเครื่องบินที่มีความล้ำหน้า ทันสมัย และสะดวกสบายมากที่สุด" และเสริมอีกว่า "ทั้ง easyJet และ แอร์บัส ต่างเป็นผู้สนับสนุนที่เข้มแข็งขันในภาคการบิน ต่อการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน การลงทุนที่สำคัญในเครื่องบินที่มีประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง และความสามารถในการใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) มากที่สุดนี้ เป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของเราในด้านดังกล่าว เราขอยินดีกับ easyJet และขอบคุณเป็นอย่างสูง!"
เครื่องบินตระกูล A320neo เป็นเครื่องบินทางเดินเดี่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดยได้รับคำสั่งซื้อแล้วมากกว่า 18,000 รายการ จากลูกค้าเกือบ 140 รายในทุกตลาดทั่วโลก เครื่องบินรุ่น A321neo เป็นสมาชิกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูล A320neo ของแอร์บัส ซึ่งมีพิสัยบินและประสิทธิภาพที่เหนือชั้นไม่มีใครเทียบได้ ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีของเครื่องยนต์รุ่นใหม่และชาร์คเล็ท (Sharklet) ส่งผลให้เครื่องบิน A321neo ลดเสียงรบกวนได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ลดการเผาไหม้เชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้มากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเครื่องบินทางเดินเดี่ยวรุ่นก่อนหน้า ขณะเดียวกันก็เพิ่มความสะดวกสบายสูงสุดให้กับผู้โดยสารด้วยห้องโดยสารที่กว้างที่สุดในบรรดาเครื่องบินทางเดินเดี่ยวที่บินให้บริการในปัจจุบัน และเช่นเดียวกับเครื่องบินแอร์บัสทุกลำ เครื่องบินตระกูล A320 ทั้งหมดสามารถใช้งานเชื้อเพลิงการบินอย่างยั่งยืน (SAF) ได้เป็นสัดส่วนสูงสุด 50 เปอร์เซ็นต์ โดยแอร์บัสตั้งเป้าที่จะทำให้เครื่องบินทั้งหมดของบริษัท สามารถปฏิบัติการด้วยเชื้อเพลิง SAF ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2573
ปัจจุบันมีคำสั่งซื้อเครื่องบิน A321neo มากกว่า 5,600 ลำ จากลูกค้ามากกว่า 100 รายทั่วโลก