หลายท่านที่เคยรับประทานยาสมุนไพรจีนมาก่อนหรือเคยพบเห็นหน้าตาสมุนไพรมาบ้าง ในตัวสมุนไพรเองนั้นมีสีสันที่ค่อนข้างเฉพาะตัว ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ สีเขียว ที่เห็นเป็นใบ ๆ อย่างที่เราเข้าใจกัน หรือหากถูกนำมาต้มเป็นยาจีนแล้วสีของน้ำที่ต้มออกมา บ้างก็เห็นเป็นสีใส ๆ จนคนไข้แอบถามว่า " นี่หมอได้ใส่ยาจีนลงไปต้มจริงหรือเปล่า " หรืออาจจะเห็นเป็นน้ำสีดำข้นบ้าง ไม่ก็เป็นสีเหลืองจนไม่น่ารับประทาน
ซึ่งในวันนี้ผมขอเสนอให้ทุกท่านมาทำความเข้าใจถึง " สี " ของยาจีนแต่ละประเภทว่ามีคุณสมบัติอย่างไร สามารถช่วย "หย่างเซิง" เราได้ในด้านไหน และมีตัวยาจีนตัวไหนบ้างที่มีสีดังกล่าว เรามาตามดูไปพร้อม ๆ กันได้เลยครับ
สีของยาจีนมีต้นกำเหนิดมาจากทฤษฎีปัญจธาตุ มีการกำหนดธาตุทั้ง 5 ที่เป็นจุดเด่นในการรักษาของแพทย์แผนจีน โดยแต่ละสีสันจะถูกกำหนดให้เป็นธาตุต่าง ๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์ร่วมกับการรักษาดังต่อไปนี้
1. สีเขียว---ธาตุไม้--ระบบตับ : สีเขียวมีคุณสมบัติช่วยในการระบายชี่ตับที่ติดขัด โดยอ้างอิงจากธรรมชาติที่ธาตุไม้โดยพื้นฐานมีใบสีเขียว มีความสามารถในการใช้รากของต้นไม้เพื่อชอนไชหน้าดิน และเจริญเติบโตจากพื้นดินขึ้นสู่ท้องฟ้า ทำให้เส้นจิงลั่วของตับเกิดการไหลเวียนได้ดีขึ้น ทั้งยังระบายความร้อน กระตุ้นการไหลเวียนเลือดได้ จึงเหมาะสมเป็นอย่างมากสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการภาวะชี่ตับติดขัด เช่น เสียดชายโครง หงุดหงิดง่ายร่วมกับปวดประจำเดือน เป็นต้น
ตัวอย่างยาจีน "สีเขียว"
ชิงเฮา(??) , ป๋อเหอ (??) , ชิงผี(??) , จื่อเขอ (??) , เจ๋อหลาน(??) เป็นต้น
2. สีแดง---ธาตุไฟ--ระบบหัวใจ : แน่นอนว่าหัวใจเป็นสีแดงมาเสมอ อาจจะมีบ้างที่เป็นสีชมพูในวันวาเลนไทน์นะครับ ดังนั้น ในทางการแพทย์แผนจีนจึงกำหนดลักษณะของสีให้เป็นสีแดงและเป็นตัวแทนของธาตุไฟ เพื่อเป็นการบ่งบอกว่าหัวใจเป็นระบบที่มีความร้อนในตัวสูง และเป็นระบบหลักที่ต้องใช้หยางในการผลักดันเลือดให้ไปเลี้ยงได้ทั่วร่างกาย หลายครั้งที่อาจจะร้อนมากเกินจนไปก่อให้เกิดความร้อน จนผู้ป่วยหลายรายอาจจะเริ่มนอนไม่หลับ เป็นแผลร้อนในง่าย เป็นต้น ดังนั้นยาสมุนไพรจีนสีแดง จึงเป็นการบ่งบอกว่าพื้นฐานของมันอาจมีคุณสมบัติช่วยในการไหลเวียนเลือดหัวใจ หรือทำให้เลือดเย็นลง หรืออาจจะไม่เกี่ยวกับหัวใจโดยตรง แต่ช่วยบำรุงเลือดพื้นฐานที่เป็นสีแดงหรือบำรุงอวัยวะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้โดยผ่านทางชี่และเลือด เป็นต้น
ตัวอย่างยาจีน "สีแดง"
ดอกคำฝอย (??) , ตานเซิน (??) , พุทราแดง (??) , เก๋ากี้ (??) , จีเสฺวี่ยเถิง (???) เป็นต้น
3. สีเหลือง---ธาตุดิน--ระบบม้าม : สีเหลืองอาจจะไม่ได้ตรงตามแบบฉบับของเหลืองอย่างที่เราเข้าใจกันนะครับ สีเหลืองของธาตุดินอาจจะดูปน ๆ น้ำตาลหรือสีขาวอยู่บ้าง ก็คล้ายกับดินที่อาจจะมีความเพี้ยนของสีที่แตกต่างกันตามแต่พื้นที่นั่นแหละครับ โดยยาจีนสีเหลืองนี้โดยมากมีคุณสมบัติในการบำรุงกระเพาะม้ามหรืออาจจะช่วยระบายความร้อนในกระเพาะได้ หลายท่านอาจจะเห็นยาต้มที่ตนเองรับประทานเป็นสีออกเหลือง ก็ไม่ต้องตกใจนะครับ เป็นสีของยาจีนนั่นเอง นอกจากนี้ยังอาจรวมไปถึงคุณสมบัติข้างเคียงที่มักพบในยาสีนี้ เช่น ขจัดเสมหะ เสริมความอยากอาหาร แก้คลื่นไส้อาเจียน เพิ่มการขับถ่ายและระบาย เป็นต้น
ตัวอย่างยาจีน "สีเหลือง"
หวงเหลียน (??) , ม่ายหยา (??) , หวงฉี (??) , ขิงสด (??) , หวงฉิน (??) เป็นต้น
4. สีขาว---ธาตุทอง--ระบบปอด : สีขาวนั้นเป็นตัวแทนของความ บริสุทธิ์ ดูมีมูลค่า ดูสะอาดตาสำหรับมนุษย์ จึงทำให้ถูกสังกัดอยู่ในธาตุทอง ที่เป็นสีที่ดูมีมูลค่าเช่นเดียวกัน อย่างที่เราทราบกันว่าระบบปอดทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนชี่ เพื่อให้การหายใจและการแลกเปลี่ยนออกซิเจนจากภายนอกเป็นไปได้อย่างราบรื่น ดังนั้น ยาจีนหลายชนิดที่มีสีขาวก็มักจะมีคุณสมบัติในการเสริมชี่พื้นฐานของปอดเป็นหลักร่วมกับม้ามหรือไตได้ อีกทั้งยังมีการคิดค้นสูตรยาจีนสำหรับดูแลผิวพรรณที่พบว่ายาจีนที่ใช้หลายประเภทมักเป็นสีขาวอีกด้วย นั่นก็เพราะว่าด้วยแนวคิดแพทย์จีนตามรูปแบบของทฤษฎีปัญจธาตุ ที่กล่าวถึงสภาพผิวหนังของเราจะเป็นการสะท้อนถึงความแข็งแรงของปอดนั่นเอง นอกจากนี้ยาจีนสีขาวหลายตัวยังมีคุณสมบัติช่วยปอดจัดการน้ำในร่างกาย ขจัดความชื้นได้อีกด้วย
ตัวอย่างยาจีน "สีขาว"
ฝูหลิง (??) , ซานเย่า (??) , ลูกเดือย (???) , ไป่เหอ (??) , ดอกเก๊กฮวยขาว (???) เป็นต้น
5. สีดำ---ธาตุน้ำ--ระบบไต : ไตมีหน้าที่จัดการน้ำทั้งในทางแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์จีน และถูกกำหนดด้วยสีดำที่ดูมีความเป็นอินมากกว่าหยาง ถ้าคิดง่าย ๆ ตามธรรมชาติหากเราลงไปใต้ทะเลลึกแน่นอนว่าเราอาจจะไม่พบกับแสงสว่าง สีที่น่าจะเป็นตัวแทนได้ดีที่สุดก็ต้องเป็น สีดำ นั่นเอง โดยยาจีนที่ใช้ในการบำรุงไต บำรุงสารจิง เติมความชุ่มชื้นให้ไตก็มักจะเป็นสีดำด้วยเช่นกัน และหลายครั้งสีของยาบำรุงก็มักจะเข้ม หรืออาจจะกลบสียาตัวอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย
ตัวอย่างยาจีน "สีดำ"
สูตี้หวง (???) , หวงจิง (??) , งาดำ (???) ,เหอโส่วอู (???) , หนี่เจินจื่อ (???) เป็นต้น
สุดท้ายการเลือกใช้สีของยาจีนในการรักษาโรคนั้นเป็นเพียงไอเดียพื้นฐานที่ยังคงต้องประกอบกับแนวคิดการรักษาและวิเคราะห์โรคจากแพทย์โดยตรง และยังมียาจีนอีกหลายหลายชนิดที่ "สี" ของมันอาจจะไม่ตรงปก แต่ก็ยังคงรักษาได้หลากหลายอวัยวะและดูแลสุขภาพของเราได้ดีเช่นกัน
- สอบถามข้อมูล หรือปรึกษาเรื่องสุขภาพได้ที่ "ทีมหมอจีน" คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว โทร 02 223 1111
- เปิดทำการทุกวัน (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 08:00 - 16:00 น.
- LINE OA: @huachiewtcm
- Facebook: หัวเฉียวแพทย์แผนจีนกรุงเทพ Huachiew TCM Clinic
- Website: www.huachiewtcm.com