"บมจ. ยูโร ครีเอชั่นส์" วางกลยุทธ์เพิ่มแบรนด์ระดับลักชัวรี่ ขยายตลาด ก่อสร้างโชว์รูมแห่งใหม่ 3 แห่ง เริ่มจองซื้อหุ้น IPO วันที่ 31 ม.ค. - 2 ก.พ.นี้

ข่าวอสังหา Thursday January 25, 2024 12:09 —ThaiPR.net

"บมจ. ยูโร ครีเอชั่นส์" วางกลยุทธ์เพิ่มแบรนด์ระดับลักชัวรี่ ขยายตลาด ก่อสร้างโชว์รูมแห่งใหม่ 3 แห่ง ขับเคลื่อนธุรกิจ Luxurious & High Quality Living เติบโต เริ่มจองซื้อหุ้น IPO วันที่ 31 ม.ค. - 2 ก.พ.นี้ ที่ราคาหุ้นละ 10.60 บาท

บมจ. ยูโร ครีเอชั่นส์ หรือ "EURO" โชว์ศักยภาพผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจ "Luxurious & High Quality Living" เจาะตลาดลักชัวรี่ที่มีศักยภาพเติบโตสูง มุ่งนำเสนอเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งและอุปกรณ์ฟิตเนสระดับไฮเอนด์นำเข้าจากต่างประเทศพร้อมบริการครบวงจร ด้วยประสบการณ์ทีมงาน โชว์รูมในทำเลที่มีศักยภาพ ฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและการนำข้อมูลเชิงลึกมาปรับใช้ สร้างการเติบต่อเนื่อง วางกลยุทธ์ขยายตลาดใหม่และลุงทุนก่อสร้างโชว์รูมใหม่อีก 3 แห่งบนทำเลที่มีศักยภาพในการแข่งขัน เพิ่มพื้นที่โชว์รูมทั้งหมดเป็นกว่า 12,884 ตารางเมตร ภายใน 3 ปี พร้อมเพิ่มแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งระดับลักชัวรี่จากต่างประเทศ ขณะที่รายได้และกำไรสุทธิปี 2563 - 2565 และงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เติบโตอย่างต่อเนื่อง เริ่มเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้น IPO วันที่ 31 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ราคาหุ้นละ 10.60 บาท

นายเควิน กัมบีร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูโร ครีเอชั่นส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในธุรกิจ "Luxurious & High Quality Living" โดยวางแผนขยายธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตผ่านกลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1) เจาะตลาดจากผลิตภัณฑ์ในปัจจุบัน ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อเพิ่มศักยภาพการขายและการทำตลาด รวมถึงนำเสนอบริการที่ดีที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละราย 2) ขยายตลาดไปยังพื้นที่ใหม่ที่มีศักยภาพในการเติบโต เช่น จังหวัดภูเก็ต 3) เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ในปัจจุบันเพื่อรองรับความต้องการของฐานลูกค้าเดิมได้ดียิ่งขึ้น และ 4) คัดสรรผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้าและขยายสินค้าใหม่กลุ่มเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าทั่วไป (B2C) ที่ปรับรูปแบบมาทำงานที่บ้านเพิ่มขึ้นรวมถึงลูกค้าผู้ประกอบการ (B2B) เช่น ผู้พัฒนาอาคารสำนักงาน, โครงการอสังหาฯ รูปแบบมิกซ์ยูส เป็นต้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ วางแผนการขยายโชว์รูมใหม่เพิ่มอีก 3 แห่งตามที่ได้กล่าวมาข้างต้นนั้น ได้แก่ 1) Euro Creations Flagship Gallery at Phuket เพื่อขยายตลาดใหม่ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกที่มีโรงแรม รีสอร์ต และวิลล่าหรู โดยมีพื้นที่ขายประมาณ 1,094 ตารางเมตร คาดว่าจะเปิดดำเนินการภายในไตรมาส 2 ของปี 2567 2) Euro Creations Gallery at Thonglor Soi 5 มีพื้นที่ขายประมาณ 1,635 ตารางเมตร คาดว่าจะเปิดดำเนินการภายในไตรมาส 2 ของปี 2567 ด้วยการคัดสรรแบรนด์สินค้าระดับลักซูรี่เพิ่มเติมและสร้างตำแหน่งทางการตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และ 3) Euro Creations Gallery at Thonglor Soi 1 มีพื้นที่ขายประมาณ 4,280 ตารางเมตร คาดว่าจะเปิดดำเนินการภายในไตรมาส 4 ของปี 2569 เพื่อขยายตลาดที่กว้างขึ้นทั้งด้านดีไซน์และราคา โดยการคัดสรรสินค้าจากเจ้าของแบรนด์สินค้าระดับโลกเพื่อขยายตลาดและรองรับฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ จากปัจจุบันที่มี โชว์รูมที่เปิดบริการแล้ว 5 แห่ง ได้แก่ 1) Euro Creations Flagship Gallery at Thonglor มีพื้นที่ขาย 3,759 ตารางเมตร 2) Natuzzi Italia at Siam Paragon มีพื้นที่ขาย 177 ตารางเมตร 3) Euro Creations Gallery at Crystal Design Center มีพื้นที่ขาย 1,102 ตารางเมตร 4) Technogym Flagship Showroom at Ekamai มีพื้นที่ขาย 598 ตารางเมตร และ 5) Technogym Showroom at Central Embassy มีพื้นที่ขาย 239 ตารางเมตร ซึ่งจะทำให้มีพื้นที่โชว์รูมเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน ประมาณ 5,875 ตารางเมตร เป็น 12,884 ตารางเมตร ภายใน 3 ปี

บริษัทฯ มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเป็นตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าในประเทศไทยมากว่า 25 ปี โดยนำเสนอเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่ง และอุปกรณ์ฟิตเนส ระดับลักชัวรี่จากต่างประเทศ โดยเฉพาะแบรนด์ชั้นนำจากอิตาลีที่เป็นศูนย์กลางของการออกแบบในอุตสาหกรรมตกแต่ง อาทิ Molteni & C และ DADA แบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งจากอิตาลีที่มีคอลเลกชั่นครบทุกพื้นที่อยู่อาศัย, Cassina แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่โดดเด่นด้วยการออกแบบจากดีไซน์เนอร์ที่มีชื่อเสียง, Technogym อุปกรณ์ออกกำลังกายชั้นนำระดับโลกที่ผสานนวัตกรรมเข้ากับเทคโนโลยีการออกกำลังกายและสุขภาพที่ทันสมัย ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้แก่ ผลิตภัณท์สำหรับห้องน้ำ (Bathroom & Accessories) โคมไฟและอุปกรณ์ควบคุมอัจฉริยะ (Lighting & Automation) วัสดุปูพื้น (Flooring) รวมถึงมีบริการตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบเพื่อจัดวางสินค้าจนถึงการบริการหลังการขาย สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบทุกขั้นตอนของการตกแต่งแบบครบวงจร จึงได้รับเลือกจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับลักชัวรี่นำสินค้าไปตกแต่ง อาทิ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ, รีสอร์ท อมันปุรี ภูเก็ต, โครงการมัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า, บูก้าน แสนสิริ, ดุสิต เรสซิเดนเซส ฯลฯ และได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าที่เลือกซื้อสินค้าเพื่อประโยชน์ใช้สอย ซึ่งให้ความสำคัญด้านการออกแบบที่สวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ จากจุดเด่นของบริษัทฯ ที่เป็นตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแก่แบรนด์ชั้นนำระดับลักชัวรี่จากต่างประเทศ โดยมีโชว์รูมในทำเลศักยภาพและมีแผนขยายโชว์รูมใหม่เพื่อรองรับการขยายฐานลูกค้า มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและกลับมาซื้อซ้ำ ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในรสนิยมของลูกค้า รวมถึงมีทีมผู้บริหารและบุคลากรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจ ตลอดจนการนำข้อมูลเชิงลึกมาใช้บริหารสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้บริษัทฯ สามารถนำเสนอสินค้าครอบคลุมการใช้สอยและตกแต่งทุกพื้นที่ภายในบ้านและอาคารและตรงกับความต้องการของลูกค้า

นางสาวพัทธ์ธีรา จันทจร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท ยูโร ครีเอชั่นส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ปี 2563 - 2565 เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการขายและบริการ 776.59 ล้านบาท 829.49 ล้านบาท และ 1,047.91 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 105.5 ล้านบาท 121.7 ล้านบาท และ 135.9 ล้านบาท เนื่องจากมียอดขายสินค้าและบริการแก่กลุ่มลูกค้าทั่วไป (B2C) เพิ่มขึ้น แม้ในช่วงที่มีสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID - 19 อย่างไรก็ตาม สินค้าที่นำเข้ามาจัดจำหน่ายเจาะกลุ่มลูกค้าระดับลักชัวรี่ และมีโอกาสได้รับผลกระทบจากความผันผวนทางเศรษฐกิจค่อนข้างน้อย ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2566 มีรายได้จากการขายและบริการ 958.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 138.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 บริษัทฯ มีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น อยู่ในระดับต่ำเพียง 0.94 เท่า สะท้อนถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) อยู่ที่ 14.3% และอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) อยู่ที่ 73.6% สะท้อนถึงความสามารถในการสร้างผลตอบแทนที่อยู่ในระดับที่ดี

นายดิถดนัย สังขะรมย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า บมจ. ยูโร ครีเอชั่นส์ เป็นที่รู้จักและมีประสบการณ์ในธุรกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งสำหรับบ้านและอาคารแบรนด์ชั้นนำระดับลักชัวรี่จากต่างประเทศมาอย่างยาวนานกว่า 25 ปี และมีโชว์รูมอยู่ในทำเลใจกลางเมืองที่มีศักยภาพตลอดจนมีความเข้าใจลูกค้าและสามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งฐานลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี จึงสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ หลังจาก บมจ. ยูโร ครีเอชั่นส์ ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. ได้อนุมัติแบบคำขอฯ และแบบไฟลิ่งมีผลใช้บังคับแล้ว จึงกำหนดราคาเสนอขาย IPO ที่ราคา 10.60 บาทต่อหุ้น โดยได้พิจารณาจากราคาและจำนวนหุ้นที่นักลงทุนสถาบันเสนอความต้องการซื้อเข้ามา (Book Building) และจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในวันที่ 31 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยจะใช้ชื่อย่อ "EURO" ในการซื้อขายหลักทรัพย์

ปัจจุบัน บมจ. ยูโร ครีเอชั่นส์ มีทุนจดทะเบียน 152.50 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 305 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วมีจำนวน 125 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 250 ล้านหุ้น และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 78 ล้านหุ้น ประกอบด้วย หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 55 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมจำนวน 23 ล้านหุ้น รวมคิดเป็นร้อยละ 25.57 ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ ทั้งนี้ สัดส่วนการเสนอขายหุ้นสามัญในเบื้องต้นโดยประมาณ ประกอบด้วย (1) บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ร้อยละ 62.90 (2) นักลงทุนสถาบัน ร้อยละ 19.23 (3) ผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ ร้อยละ 15.00 และ (4) กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ ร้อยละ 2.87 สำหรับเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ เพื่อนำไปใช้ (1) ลงทุนก่อสร้างโชว์รูมใหม่ 3 แห่ง ได้แก่ โชว์รูมทองหล่อ ซอย 1, ทองหล่อ ซอย 5 และภูเก็ต (2) ชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพื่อก่อสร้างโชว์รูมใหม่และคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นสำหรับเงินทุนหมุนเวียน และ (3) เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการและการขยายธุรกิจ


แท็ก ก.พ.  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ