มนุษย์เราทุกคนเมื่อกาลเวลาผ่านไป ร่างกายย่อมเสื่อมโทรมลง ภาวะโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ก็จะเริ่มเกิดขึ้นกับร่างกายเรา เป็นสัจธรรมที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้รวมถึงโรคมะเร็งก็อาจเกิดขึ้นได้ โรคมะเร็งจัดเป็นหนึ่งในโรคที่หลายคนไม่อยากให้เกิดขึ้นกับร่างกายเรามากที่สุด ด้วยกระบวนการดำเนินของโรคและการรักษานั้นหลายครั้งทำให้ผู้ป่วยเกิดความทุกข์ทรมานและคุณภาพชีวิตที่ย่ำแย่ ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด เคมีบำบัดหรือฉายแสง วิธีการเหล่านี้ถึงแม้จะส่งผลเสียต่อร่างกายมาก แต่ก็มีผลดีในการควบคุมโรคหรืออาจทำให้ผู้ป่วยหายจากโรคได้ จึงเป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับในทางการแพทย์แผนตะวันตกมาหลายทศวรรษ ถึงแม้ปัจจุบันจะมีวิธีอื่น ๆ เพิ่มเข้ามา เช่น ยามุ่งเป้า ภูมิคุ้มกันบำบัด แต่ด้วยค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ค่อนข้างสูงทำให้ยังยากต่อการเข้าถึงในผู้ป่วยทุกราย การผ่าตัด เคมีบำบัด และฉายแสงจึงยังคงได้รับความนิยมและใช้อย่างแพร่หลายถึงปัจจุบัน ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าและประสิทธิภาพการรักษาที่ดี
การลดผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจาก การผ่าตัด เคมีบำบัด และฉายแสง จึงมีความจำเป็นอย่างมากต่อผู้ป่วย ทั้งในแง่การเพิ่มโอกาสในการรับการรักษาได้ครบตามแผนการรักษาที่วางไว้ การเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วยหลังการรักษา และการเสริมสร้างกำลังใจให้แก่ผู้ป่วย สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การรักษาโรคมะเร็งประสบความสำเร็จได้
จุดเด่นที่ชัดเจนของแพทย์แผนจีนอย่างหนึ่ง คือ การปรับสมดุลที่เสียไปของร่างกายผู้ป่วยและฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรงได้อย่างรวดเร็ว ดังที่เรามักพบยาบำรุงร่างกายสูตรต่าง ๆ วางขายตามท้องตลาด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักเป็นยาสมุนไพรจีนหรือมียาสมุนไพรจีนเป็นองค์ประกอบเป็นส่วนใหญ่ ในการรักษาโรคมะเร็งก็เช่นเดียวกัน เมื่อผู้ป่วยได้รับการรักษาไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด เคมีบำบัด หรือฉายแสง สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายผู้ป่วยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยคือ "ผลข้างเคียง" ซึ่งจะส่งผลทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยแย่ลง ถึงแม้ว่าเราจะรักษาทางแผนปัจจุบันจนครบถ้วนทุกกระบวนการแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรสามารถรับประกันได้เลยว่าเซลล์มะเร็งจะหมดไปจากร่างกายผู้ป่วยได้อย่าง 100% และระบบที่จะมาจัดการเซลล์มะเร็งที่ยังมีหลงเหลือบ้างในร่างกายเราไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำหรือลุกลามได้ง่าย ๆ ก็คือ "ระบบภูมิคุ้มกัน" ของเราเองนั่นเอง โดยหลังการรักษาหากผู้ป่วยยังคงฟื้นตัวจากผลข้างเคียงได้ช้า ทานอาหารได้น้อย ระบบย่อยอาหารไม่แข็งแรง อ่อนเพลีย มีความเครียดสูง ค่าความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดต่ำกว่าเกณฑ์ไปมาก ระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยก็จะทำงานได้แย่ลงตามไปด้วย หากในระหว่างนั้นร่างกายผู้ป่วยยังคงมีเซลล์มะเร็งเหลือรอดอยู่ ก็มีโอกาสสูงที่จะกลับมาเป็นซ้ำหรือพัฒนาลุกลามต่อไปได้
ในอีกด้านหนึ่งหากระหว่างหรือหลังการรักษาผู้ป่วยใช้แพทย์แผนจีนมาช่วยฟื้นฟูร่างกายและลดผลข้างเคียงจากการรักษาของแผนปัจจุบันควบคู่ไปด้วยกัน (ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน) ผู้ป่วยก็จะได้รับผลข้างเคียงจากการรักษาที่น้อยลง ร่างกายฟื้นตัวรวดเร็วขึ้น สุขภาพจิตดีขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันก็จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเช่นเดียวกัน เซลล์มะเร็งที่อาจเหลือรอดอยู่ก็จะกลับมาเป็นซ้ำหรือลุกลามได้ยากขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง
รูปแบบการรักษาของแพทย์แผนปัจจุบันแบ่งออกได้หลายลักษณะ โดยมีผลดี ผลกระทบ และการแก้ไขในมุมมองของแพทย์แผนจีน มีรายละเอียดดังนี้
1. การผ่าตัด : เป็นเทคนิคการรักษาโรคมะเร็งแบบดั้งเดิม ที่ในปัจจุบันยังคงเป็นมาตรฐานการรักษาโรคมะเร็งหลายชนิด
ผลดี : สามารถกำจัดตัวก้อนมะเร็งได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด เหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้ในมะเร็งระยะต้นที่ยังไม่มีการแพร่กระจาย เพิ่มโอกาสหายขาดได้มาก
ผลกระทบ : การผ่าตัดในมุมมองของแพทย์แผนจีนจะทำให้ร่างกายผู้ป่วยสูญเสียพลังชี่และเลือดในปริมาณมาก ส่งผลให้ร่างกายผู้ป่วยอ่อนแอลงกระทันหัน นอกจากนี้แพทย์แผนจีนยังเชื่อว่าการผ่าตัดจัดเป็นการบาดเจ็บของร่างกายชนิดหนึ่ง ดังนั้นจะมีโอกาสเกิดเลือดเสียคั่งค้างในร่างกายได้ ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะภายในนั้นๆหรือกระตุ้นการเกิดก้อนใหม่ๆขึ้นมาได้
การแก้ไขโดยวิธีทางการแพทย์แผนจีน : บำรุงพลังชี่และเลือด พร้อมกับสลายเลือดคั่ง เพื่อให้ร่างกายผู้ป่วยฟื้นตัวจากการบาดเจ็บจากการผ่าตัดได้รวดเร็วที่สุด
2. เคมีบำบัด : เป็นยาที่ออกฤทธิ์ต้านหรือทำลายเซลล์มะเร็ง โดยมีเป้าหมายสำคัญคือเซลล์มะเร็งที่แบ่งตัวเร็ว และต่อเนื่อง ยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง หลายรูปแบบ ทำให้เซลล์ไม่สามารถแบ่งตัวต่อไปและตายในที่สุด
ผลดี : กำจัดมะเร็งได้แทบทุกตำแหน่งของร่างกาย ทั้งที่มองเห็นหรือมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า รวมถึงในกระแสเลือด เหมาะสำหรับมะเร็งระยะลุกลามหรือแพร่กระจาย หรือมะเร็งระยะต้นที่เซลล์มีความดุร้ายเสี่ยงต่อการแพร่กระจายได้ง่าย เพิ่มโอกาสหายขาดหรือช่วยควบคุมก้อนมะเร็งได้ดี
ผลกระทบ : เคมีบำบัดในมุมมองของแพทย์แผนจีนนั้นจัดเป็นยาก่อพิษ(??)ประเภทหนึ่งซึ่งจะไปทำลายพลังชี่ของม้าม กระเพาะอาหาร และไต ส่งผลให้การสร้างและการไหลเวียนของพลังชี่และเลือดถูกบั่นทอน เกิดอาการอ่อนเพลีย ผมร่วง เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดภาวะไขกระดูกถูกกดการทำงานจากเคมีบำบัด (chemotherapy-induced myelosuppression) ซึ่งจะส่งผลให้เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือดลดต่ำลง โดยหากลดต่ำลงไปมากจนเกินไปจะทำให้ไม่สามารถเข้ารับเคมีบำบัดได้ครบตามแผนที่กำหนดไว้ ส่งผลถึงประสิทธิภาพในการรักษาที่อาจไม่ได้ตรงตามที่คาดหวังไว้ โอกาสที่มะเร็งจะแพร่กระจายหรือตอบสนองต่อการรักษาไม่ดีก็จะมีมากกว่าผู้ที่สามารถให้ยาได้ครบตามกำหนด
การแก้ไขโดยวิธีทางการแพทย์แผนจีน : หลักการรักษาโดยพื้นฐานในช่วงก่อนและระหว่างให้เคมีบำบัดจึงเน้นที่การเสริมสร้างพลังชี่และเลือด บำรุงกระเพาะอาหาร ม้ามและไตให้กลับมาแข็งแรงดังเดิม และลดผลข้างเคียงจากเคมีบำบัดให้ได้มากที่สุด
3. ฉายรังสี (ฉายแสง) : คือ การใช้รังสีพลังงานสูงฉายตรงไปที่ตำแหน่งของเซลล์มะเร็ง เพื่อทำลายกลุ่มก้อนเซลล์มะเร็งนั้น ๆ โดยการฉายแสงจะส่งผลให้เซลล์มะเร็งที่ได้รับรังสีมีการเปลี่ยนแปลงในระดับยีน ซึ่งในแต่ละครั้งที่ฉายแสงนั้น เซลล์มะเร็งจะสะสมความผิดปกติของยีนมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้ไม่สามารถซ่อมแซมส่วนที่เสียหายจากรังสีได้และเซลล์นั้นก็จะตายลง
ผลดี : กำจัดมะเร็งได้แบบเฉพาะจุดและเข้าถึงจุดที่ยากจะเข้าถึงได้ เช่น สมอง เป็นต้น อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพการตอบสนองต่อยาเคมีบำบัดบางชนิดได้ และบรรเทาอาการปวดจากมะเร็งได้ นอกจากนี้มะเร็งบางชนิดจะตอบสนองต่อการฉายรังสีได้ดี ก็จะถูกเลือกเป็นแนวทางหลักในการรักษา
ผลกระทบ : การฉายแสงนั้นในทางแพทย์แผนจีนมองว่าเป็นการรับเอาพิษไฟ(??)ปริมาณมากเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เกิดการทำลายพลังชี่(?)และอิน(?)รวมถึงอวัยวะบริเวณที่ได้รับการฉายแสง ส่งผลให้อวัยวะนั้น ๆ ทำงานได้ลดลงหรือเกิดความเสียหายขึ้น เช่น หากมีการฉายแสงบริเวณทรวงอก ก็อาจทำให้เกิดปอดอักเสบ หากมีการฉายแสงบริเวณศีรษะก็อาจทำให้เกิดภาวะปากแห้ง มีแผลในช่องปากและกลืนลำบากเกิดขึ้นได้ สุดท้ายก็อาจส่งผลถึงความสามารถในการทานอาหารและทำให้ร่างกายทรุดโทรมลง คุณภาพชีวิตแย่ลงในที่สุด
การแก้ไขโดยวิธีทางการแพทย์แผนจีน: บำรุงชี่และอิน เสริมสารน้ำในร่างกาย ขับพิษร้อน เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ให้ไม่ได้รับผลข้างเคียงจากการฉายแสงมากจนเกินไป สามารถฟื้นตัวจากการฉายแสงได้ดีและรวดเร็ว
ทั้งหมดนี้คือแนวทางในการดูแลผู้ป่วยมะเร็งเมื่อต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัด คีโมและฉายแสงในแบบแพทย์แผนจีน โดยในตอนหน้าจะเป็นการดูแลในเรื่องโภชนาการในผู้ป่วยมะเร็งว่าแพทย์แผนจีนมีวิธีการอย่างไร
- สอบถามข้อมูล หรือปรึกษาเรื่องสุขภาพได้ที่ "ทีมหมอจีน" คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว โทร 02 223 1111
- เปิดทำการทุกวัน (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 08:00 - 16:00 น.
- LINE OA: @huachiewtcm
- Facebook: หัวเฉียวแพทย์แผนจีนกรุงเทพ Huachiew TCM Clinic
- Website: www.huachiewtcm.com