อนันตรา มินา อัล อาหรับ ราส อัล ไคมาห์ รีสอร์ท (Anantara Mina Al Arab Ras Al Khaimah Resort) เปิดประตูความหรูหราในสไตล์อีโคลักซ์ชูรีสู่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วยรีสอร์ทซึ่งตั้งอยู่บนหาดสีทองส่วนตัวท่ามกลางป่าชายเลนธรรมชาติของรัฐราสอัลไคมาห์ โดยรีสอร์ทแห่งใหม่นี้ประกอบด้วยห้องพักสุดหรูจำนวน 174 ห้อง ในบรรยากาศอันเงียบสงบ เป็นส่วนตัว พร้อมสวนสวยอันเขียวชอุ่ม สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ และยังมีทิวทัศน์อันสวยงามตระการตาของเทือกเขาฮาจาร์ (Hajar) และอ่าวอาหรับเป็นฉากหลัง
อนันตรา มินา อัล อาหรับ มีห้องพักให้เลือกหลากหลายประเภท ทั้งห้องพักและห้องสวีทสไตล์ร่วมสมัยที่กว้างขวาง โดยตั้งอยู่ทั้งภายในอาคารหลักและในอาคารสไตล์โมร็อคโค (riad) ดั้งเดิม ห้องพักแต่ละห้องได้รับการออกแบบตกแต่งในสไตล์ทันสมัยผสานองค์ประกอบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องถิ่น และมีระเบียงส่วนตัวที่ให้ผู้เข้าพักได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพอันน่าทึ่งได้อย่างเต็มที่
อนันตรา มินา อัล อาหรับ ซึ่งออกแบบโดย วิลสัน แอสโซซิเอท (Wilson Associates) และ เพอร์กินส์ อีสต์แมน (Perkins Eastman) นำเสนอความหรูหราที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมัลดีฟส์ด้วยการสร้างวิลล่าเหนือน้ำแห่งแรกของเอมิเรตส์ที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ระเบียงพักผ่อนกลางแจ้งพร้อมสระว่ายน้ำขนาดย่อมที่เปิดรับวิวสวยของทะเลอาหรับ ป่าชายเลน พร้อมคาบาน่าบนหาดที่เป็นโซนเฉพาะสำหรับห้องวิลล่า นอกจากทางรีสอร์ท จะจัดพนักงานประจำวิลล่าคอยให้บริการและอำนวยความสะดวกให้กับแขกผู้เข้าพักแล้ว ยังจัดกิจกรรมพิเศษ อาทิ บริการนวด หรือบาร์บีคิวส่วนตัว เพื่อให้แขกได้เพลิดเพลินระหว่างวันพักผ่อนอย่างเต็มที่
ด้วยร้านอาหารและบาร์ 6 แห่ง แขกผู้เข้าพักจึงสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารหลากหลาย โดย แม่โขง ซึ่งเป็นห้องอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ของรีสอร์ท นำเสนอประสบการณ์ทางด้านอาหารไทย เวียดนาม และจีน ผ่านเมนูจานอร่อยแห่งสายน้ำโขงอันยิ่งใหญ่ ห้องอาหาร Beach House ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการใช้ชีวิตแบบสบาย ๆ ของผู้คนในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พร้อมเมนูอาหารทะเลสดใหม่ ห้องอาหาร Sea Breeze ที่เปิดให้บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดวัน ไปจนถึงคาเฟ่ที่เสิร์ฟเมนูที่ทานง่าย ๆ สบาย ๆ บาร์ริมสระว่ายน้ำ รวมถึงเลานจ์และบาร์บริเวณล็อบบี้ แขกผู้เข้าพักยังสามารถเลือกสัมผัสประสบการณ์อาหารแบบในส่วนตัวกับบริการ ไดนิ่ง บาย ดีไซน์ อันเป็นเอกลักษณ์ของโรงแรมอนันตรา โดยจะมีเชฟและบริกรมารังสรรค์อาหารมื้อพิเศษ ณ สถานที่พิเศษ อาทิ บนชายหาด หรือบนเรือยอชท์ส่วนตัว
เช่นเดียวกับรีสอร์ทอนันตราทุกแห่ง แขกผู้ใช้บริการจะมีโอกาสได้ดื่มด่ำกับจุดหมายปลายทางและวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยประสบการณ์เฉพาะของที่นี่มีตั้งแต่ กิจกรรมปีนเขาเจเบล เจส (Jebel Jais) ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมอาหารกลางวันให้ปิกนิกชมธรรมชาติระหว่างทาง กิจกรรมพายเรือคายัคในป่าชายเลนซึ่งเป็นที่อยู่ของฝูงนกฟลามิงโกและนกกระสา และกิจกรรมการล่องเรือสุดหรูในอ่าวอาหรับพร้อมดื่มด่ำไปกับอาหารค่ำโดยเชฟส่วนตัวในยามพระอาทิตย์ตกดิน ด้วยชื่อเสียงในเรื่องของธรรมชาติที่สวยงามและการผจญภัย รัฐราสอัลไคมาห์จึงมีกิจกรรมที่ตื่นเต้นเร้าใจให้ผู้มาเยือนได้เลือกสนุกมากมาย อาทิ กิจกรรมโหนสลิงซิปไลน์และแคร่เลื่อนบนหิมะที่ยาวที่สุดในโลก บนยอดเขาเจเบล เจส เยี่ยมชมฟาร์มไข่มุกเอมิเรตส์เพื่อเรียนรู้ความลับเบื้องลึกของมหาสมุทร หรือนั่งบอลลูนลมร้อนเหนือทะเลทรายเพื่อส่องสัตว์ป่าพื้นเมือง
นอกเหนือจากการออกไปสำรวจเมืองแล้ว ที่รีสอร์ทยังมีกีฬาทางน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการพักผ่อนอีกมากมาย ซึ่งรวมถึงสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ ศูนย์ออกกำลังกายที่มองเห็นวิวป่าชายเลน สนามแพดเดิลเทนนิส ศาลาโยคะ สโมสรสำหรับเด็กและวัยทีน พร้อมกิจกรรมสันทนาการสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่
สำหรับผู้ที่มองหาความสงบ อนันตรา สปา นับเป็นสวรรค์แห่งความผ่อนคลายและการบำบัด โดยตัวสปาตั้งอยู่ภายในสวนที่ตกแต่งอย่างสวยงาม มองเห็นวิวทะเลและป่าชายเลน ห้องทรีตเมนต์ 7 ห้อง พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ และโซนซาวน่า สตีม และบ่อน้ำวน แยกชายและหญิง แขกผู้ใช้บริการสามารถเลือกเพลิดเพลินกับทรีตเมนต์ที่มีส่วนผสมจากท้องถิ่น เช่น ราสอัลไคมาห์ ริชชวล ซึ่งมีสครับผิวขัดตัวที่อุดมไปด้วยอินทผาลัม เกลือ และน้ำผึ้งจากรังผึ้งที่ได้จากป่าชายเลน ทรีตเมนต์สำหรับคู่รักที่ได้รับแรงบันดาลใจจากทะเลทรายและมหาสมุทรโดยรอบ รวมถึงยังมีสปาทรีตเมนต์ดั้งเดิมจากอนันตราในประเทศไทยอีกด้วย
ในด้านสิ่งแวดล้อม อนันตรา มินา อัล อาหรับ มุ่งมั่นในการอนุรักษ์ธรรมชาติผ่านการปฏิบัติงานและกลยุทธ์ในการลดการใช้พลาสติก การลดขยะ และการใช้พลังงาน โดยการก่อสร้างได้ปฏิบัติตามนโยบายความอย่างยั่งยืน เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ยังเป็นวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ไม้จากแหล่งเพาะปลูกที่ยั่งยืน ผ้าและพลาสติกรีไซเคิล รวมไปจนถึงการใช้ความระมัดระวังที่จะไม่รบกวนระบบนิเวศโดยรอบ โดยเฉพาะป่าชายเลนซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของเต่าทะเล ฝูงนกอพยพ และพะยูนซึ่งพบได้ยาก แขกผู้ใช้บริการจึงมีส่วนในการช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์หรือก๊าซเรือนกระจกจากการเข้าพักและทำกิจกรรมต่าง ๆ และยังจะมีการเปิดศูนย์การศึกษาธรรมชาติแบบอินเตอร์แอคทีฟ ที่จะช่วยปลูกฝังความรักในธรรมชาติให้กับผู้คนรุ่นต่อไปในเร็ว ๆ นี้อีกด้วย
ด้วยที่ตั้งของราสอัลไคมาห์ที่อยู่ระหว่างฝั่งตะวันออกและตะวันตก รวมถึงสนามบินนานาชาติดูไบซึ่งเป็นหนึ่งในสนามบินที่เชื่อมต่อกันมากที่สุดในโลกที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ที่นี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการจัดงานแต่ง โดยคู่รักที่เลือกจัดงานที่ อนันตรา มินา อัล อาหรับ สามารถเลือกจัดงานบนชายหาดหรือสวนสวยของรีสอร์ทซึ่งสามารถรองรับแขกได้มากถึง 450 คน นอกจากนี้การเดินทางจากรีสอร์ทไปยังสนามบินนานาชาติราสอัลไคมาห์โดยรถยนต์ ยังใช้เวลาเพียง 30 นาที
ดิลิป ราชากาเรีย ซีอีโอ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของอนันตรา และซีอีโอกลุ่ม บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า "เรามีความภูมิใจที่ได้เปิดตัวโรงแรมอนันตราในรัฐราสอัลไคมาห์ ซึ่งโรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมแห่งที่ 9 ของแบรนด์ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เรามั่นใจว่าโรงแรมแห่งใหม่นี้จะได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาด และจะช่วยสนับสนุนการเราเติบโตอย่างต่อเนื่องของเรา รวมถึงการวางตำแหน่งเอมิเรตให้เป็นจุดหมายแห่งการท่องเที่ยวอันหรูหรา"
ซาเมห์ มุห์ตาดี (Sameh Muhtadi) ซีอีโอ RAK Properties ยังให้ความเห็นว่า "การเปิดตัว อนันตรา มินา อัล อาหรับ ราส อัล ไคมาห์ รีสอร์ท จะมีส่วนอย่างมากในการทำให้วิสัยทัศน์ของ RAK Properties ในการสร้างมินา อัล อาหรับ ให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์ชั้นนำภายในเอมิเรต การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นการเปิดโรงแรมแห่งที่สองภายใต้การพัฒนาของเรา และเรายินดีที่จะมอบประสบการณ์การพักผ่อนริมทะเลที่หรูหราและแปลกใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว โดยเคารพต่อธรรมชาติและความงดงามของสภาพแวดล้อมด้วย"
ราคาห้องพัก ณ อนันตรา มินา อัล อาหรับ ราส อัล ไคมาห์ รีสอร์ท เริ่มต้นที่ USD 400 หรือประมาณ 14,000 บาท
ดูข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองห้องพักได้ที่
https://www.anantara.com/en/mina-al-arab-ras-al-khaimah.
โทร: +971 7204 2222 อีเมล rasalkhaimah@anantara.com
Facebook: AnantaraRasAlKhaimah
Instagram: @anantararasalkhaimah (#anantararasalkhaimah #lifeisajourney)