บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด" (SCB Julius Baer) จัดงานสัมมนาเอ็กซ์คลูซีฟ "มุมมองเศรษฐกิจโลกช่วงครึ่งแรกของปี 2567" (Market Outlook H1/2024) สำหรับลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง ภายใต้หัวข้อ "The Late Cycle Showdown" คาดนักลงทุนจะเริ่มกลับมามีความเชื่อมั่นอีกครั้ง จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่กำลังจะเกิดขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการลงทุน ด้านกลยุทธ์ลงทุนให้น้ำหนักหุ้นที่มีคุณภาพการเติบโตสูง ควบคู่กับการถือครองหุ้นกลุ่ม Defensive Stock ชี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะเป็นผู้นำจากรายได้และนวัตกรรมที่แข็งแกร่ง ขณะที่ ญี่ปุ่นและอินเดียยังคงเป็นประเทศที่น่าสนใจในเอเชีย แนะลงทุนในพันธบัตรที่มีคุณภาพและพันธบัตรตลาดเกิดใหม่ในสกุลเงินแข็งค่า สำหรับธีม Next Generation ยังคงมุมมองเชิงบวกในกลุ่ม Cloud Computing, AI, Future Mobility และ Extended Longevity พร้อมเน้นการลงทุนในตลาดไทยยังคงโดดเด่นและใช้เป็นการลงทุนระยะสั้นในพอร์ตโฟลิโอตามภาวะตลาด (Tactical Investment) รวมถึงเป็นการสร้างเสถียรภาพของพอร์ตลงทุนให้แข็งแกร่งขึ้น โดยภายในงานได้รับเกียรติจาก นางสาวลลิตภัทร ธรณวิกรัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด พร้อมด้วย มร. มาร์ค แมทธิว หัวหน้าฝ่ายวิจัยเอเชียแปซิฟิก ธนาคารจูเลียส แบร์ มร. บาซก้าร์ ลักษมิณารายัน หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ธนาคารจูเลียส แบร์ และนายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ร่วมงานสัมมนา เมื่อเร็วๆ นี้ ณ โรงแรม พาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ
นางสาวลลิตภัทร ธรณวิกรัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด กล่าวว่า "ปี 2566 ที่ผ่านมาตลาดมีความผันผวนอย่างมาก อย่างไรก็ตามในปี 2567 เราคาดว่านักลงทุนจะเริ่มกลับมามีความเชื่อมั่นอีกครั้ง จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่กำลังจะเกิดขึ้นพร้อมที่จะเริ่มต้นวงจรการเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่อีกครั้ง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการลงทุน ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ทรงตัว ด้านกลยุทธ์การลงทุนเรามุ่งเน้นไปที่หุ้นในภาคส่วนที่มีคุณภาพการเติบโตสูง ควบคู่กับการถือครองหุ้นกลุ่ม Defensive Stock เราคาดว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะเป็นผู้นำจากรายได้และนวัตกรรมที่แข็งแกร่ง โดยญี่ปุ่นและอินเดียยังคงเป็นจุดสนใจในเอเชีย แม้ว่าเงินสดจะเป็นทุนสำรองที่ดี แต่ด้วยความคาดหวังว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงภายในหนึ่งปี เราจึงสนับสนุนการลงทุนในพันธบัตรที่มีคุณภาพและพันธบัตรตลาดเกิดใหม่ในสกุลเงินแข็งค่า ทั้งนี้ซูเปอร์ไซเคิลของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (commodity price super-cycle) ยังคงไม่น่าเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น จากอุปทานด้านพลังงานที่ยังมีอยู่มากแต่คาดว่าทองแดงจะยังเป็นที่ต้องการในปี 2567 ด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงทรงตัว"
"สำหรับการลงทุนในธีม Next Generation เรายังคงมีมุมมองในเชิงบวกต่อภาคส่วน Cloud Computing, AI, Future Mobility และ Extended Longevity แม้ว่าเราจะเห็นโอกาสมากมายในตลาดการลงทุนต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นทางเลือกที่หลากหลายเพื่อกระจายความเสี่ยง และยังสามารถเข้าถึงตลาดที่กำลังเติบโตได้ นอกจากนี้เรามองว่าการลงทุนในตลาดไทยยังคงมีความน่าสนใจ และใช้เป็นการลงทุนระยะสั้นในพอร์ตโฟลิโอตามภาวะตลาด (Tactical Investment) รวมถึงเป็นการสร้างเสถียรภาพของพอร์ตลงทุนให้แข็งแกร่งขึ้น โดยเรายังคงมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันด้านการลงทุนแบบครบวงจรให้แก่นักลงทุนในทุกสภาวะตลาด ควบคู่กับการช่วยให้ลูกค้าสามารถวางแผนส่งต่อความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ เราจึงเตรียมเปิดหลักสูตร "The 45 Academia" รุ่นที่ 2 สำหรับกลุ่มทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ (Next Generation) เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็นผู้นำแห่งอนาคต ตอกย้ำความมุ่งมั่น "Your Legacy. Our Promise." ของ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ อย่างแท้จริง"
จากภาพผู้บริหาร ซ้ายไปขวา
- มร.คีน ตัน หัวหน้าฝ่ายแนะนำการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด
- มร. มาร์ค แมทธิว หัวหน้าฝ่ายวิจัยเอเชีย ธนาคารจูเลียส แบร์
- นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด
- นางสาวลลิตภัทร ธรณวิกรัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด
- มร. บาซก้าร์ ลักษมิณารายัน หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนประจำภูมิภาคเอเชีย ธนาคารจูเลียส แบร์
- มร.เอเดรียน เมซซินาวเออร์ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารฝ่ายการบริหารความมั่งคั่ง บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด