- ธนะดีฯ เผยยอดการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 50% และสามารถขยายศูนย์บริการเป็น 3 แห่งได้ในเวลา 3 ปี ด้วยงบลงทุนกว่า 200 ล้านบาท
- ธนะดีฯ ตั้งเป้ายอดขายรถบรรทุกยูดี และงานบริการให้เติบโตอีก 50% ในปีนี้ และพร้อมลงทุนเพิ่มจำนวนสาขาอีกในอนาคต
- ชี้ตลาดรถบรรทุกภาคเหนือโต โดยยอดจดทะเบียนรถบรรทุกยูดี ทรัคส์ในพื้นที่ภาคเหนือในปี 2567 โตขึ้นอีก 38% เมื่อเทียบกับปีก่อน
บริษัท ธนะดี ออโต้ ทรัค แอนด์ เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด หนึ่งในบริษัทที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายและให้บริการรถบรรทุกยูดี ทรัคส์ อย่างครบวงจร เผยยอดการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 50% ในเวลา 3 ปี และเร่งขยายเพิ่มศูนย์บริการเป็นจำนวน 3 จังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนได้แก่ พิษณุโลก เชียงใหม่ และเชียงราย ด้วยงบลงทุนมากกว่า 200 ล้านบาท และตั้งเป้าเข้าถึงลูกค้า และวางแผนขยายศูนย์บริการเพิ่มเติมไปยังพื้นที่จังหวัดต่างๆในภาคเหนือตอนบนอีก อาทิเช่น จังหวัดแพร่ และอื่นๆ เพื่อครอบคลุมพื้นที่การให้บริการเต็มพื้นที่ในเขตภาคเหนือตอนบน
นางสาวอัยยริน มั่นคง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนะดี ออโต้ ทรัค แอนด์ เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่านับจากที่ทางธนะดีฯ ได้รับการแต่งตั้งจากยูดี ทรัคส์ ให้เป็นผู้รับผิดชอบเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 โดยเริ่มต้นจากแห่งแรกที่จังหวัดพิษณุโลก จนถึงขณะนี้ทางบริษัทฯ ได้เปิดให้บริการศูนย์บริการครบวงจรในจังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดเชียงใหม่ เรียบร้อยแล้ว และในส่วนจังหวัดเชียงรายซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์พร้อมเปิดให้บริการภายในเดือนเมษายนนี้ โดยสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลกด้วยงบลงทุนกว่า 170 ล้านบาท บนพื้นที่ 12 ไร่ ส่วนสาขาเชียงใหม่ ใช้งบประมาณลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท บนพื้นที่ 12 ไร่ และสาขาเชียงราย ใช้งบประมาณลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท บนพื้นที่ 4 ไร่ โดยที่พิษณุโลก เป็นที่ตั้งของบริษัทแม่ กลุ่มบริษัทบีอาร์เค และถือเป็นฐานธุรกิจของธนะดีฯ ทางบริษัทฯ จึงทุ่มงบประมาณการลงทุน เพื่อให้ศูนย์บริการยูดี ธนะดี สาขาพิษณุโลกเป็น Flagship dealer ที่มีช่องบริการรองรับมากถึง 10 ช่องบริการ ในขณะที่จังหวัดเชียงใหม่มี 8 ช่องบริการ และเชียงราย จะมี 6 ช่องบริการ ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน และเตรียมความพร้อมที่จะขยายพื้นที่และช่องบริการเพิ่มเติมทันที หากมีความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
นางสาวอัยยริน กล่าวเพิ่มเติมว่า "สำหรับการเข้าร่วมธุรกิจกับยูดี ทรัคส์ โดยตั้งต้นมาจากหมุดหมายทางธุรกิจที่สำคัญบริษัทแม่ กลุ่มบีอาร์เค เพราะกลุ่มบีอาร์เค ถือเป็นบริษัทขนส่งที่เป็นผู้ใช้รถบรรทุกรายใหญ่ ซึ่งมีโอกาสได้ใช้รถบรรทุกหลากหลายยี่ห้อ โดยเฉพาะยูดี ทรัคส์ ที่กลุ่มบีอาร์เค ได้ลองใช้และพบว่าเป็นรถบรรทุกที่มีสมรรถนะสูง คุณภาพเยี่ยม มีความทนทานต่อการใช้งานหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ภูเขาที่ลาดชันสูงในเขตภาคเหนือ และที่สำคัญ รถบรรทุกยูดี ยังเป็นรถบรรทุกที่มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงดีกว่าหลายยี่ห้อในตลาด จึงเหมาะสมที่จะลงทุนธุรกิจด้วย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ ยูดี ทรัคส์ ได้เปิดโอกาสรับสมัครตัวแทน ดังนั้นเราจึงมั่นใจที่จะขอเป็นดีลเลอร์ดูแลพื้นที่ที่เราถนัดคือภาคเหนือตอนบน และที่ผ่านมาเราสามารถสร้างผลประกอบการได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ คือมียอดเติบโตเมื่อปีที่แล้วถึง 50% และปีนี้ และสามารถขยายศูนย์บริการเป็น 3 แห่งได้ภายในเวลาเพียง 3 ปี และเรายังตั้งเป้าการเติบโตในปีนี้ที่ 50% เช่นกันเพราะสาขาเชียงรายจะเปิดภายในเดือนเมษายนนี้"
นอกจากนี้ ทางธนะดีฯ ยังมีแผนที่จะให้บริการหลังการขายรุกเข้าไปหากลุ่มลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลจากสาขา โดยจะไปตั้งศูนย์บริการเคลื่อนที่ที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นเขตการค้าข้ามแดนเชื่อมระหว่างประเทศไทยกับประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และเป็นประตูสู่อินโดจีนของประเทศไทย และหากได้รับผลตอบรับที่ดีในพื้นที่ดังกล่าว ทางธนะดีฯ ก็พร้อมที่จะลงทุนสร้างศูนย์บริการย่อยในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อสร้างความมั่นใจในบริการหลังการขายให้กับลูกค้าที่ขนส่งสินค้าในพื้นที่ดังกล่าว
"เนื่องจากเราอยู่ในธุรกิจขนส่งมาเป็นเวลานาน เราเข้าใจดีว่างานบริการหลังการขาย เพื่อดูแลรถบรรทุกสำหรับวิ่งงานขนส่ง ถือเป็นหัวใจสำคัญ เพราะหากล้อหยุดหมุน ก็จะกระทบต่อสินค้าและแผนงานทั้งหมด ดังนั้นแผนอนาคตของเรา นอกจากการบริการเคลื่อนที่ เรามีแผนจะขยายสาขาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง สาขาถัดจากเชียงราย เรากำลังศึกษาพื้นที่ที่อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ซึ่งถือเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีความสำคัญในการสร้างความเติบโตให้กับเราในอนาคตด้วย" นางสาวอัยยริน กล่าว
สำหรับกลุ่มลูกค้าของธนะดีฯในปัจจุบัน เป็นกลุ่มผู้ประกอบงานขนส่งรายย่อย และธุรกิจขนาดกลาง โดยทางธนะดีฯ ค่อนข้างมีความสัมพันธ์อันดีและใกล้ชิดกับผู้กอบการในพื้นที่ ทำให้สามารถสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการกลุ่มดังกล่าว โดยกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มีแนวทางการดำเนินธุรกิจแบบทันสมัยและเปิดกว้าง มีการรวมตัวกันเพื่อสนับสนุนการทำธุรกิจซึ่งกันและกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางธุรกิจ และองค์ความรู้หรือ เทคโนโลยีต่าง ๆ ระหว่างกัน และนี่คือจุดสำคัญที่ กลุ่มผู้ประกอบการได้แนะนำรถบรรทุกยูดี ทรัคส์ ให้แก่กันเป็นการบอกต่อ
ทางด้านนางสาวนริศรา คุ้มไข่น้ำ รองประธานฝ่ายขายพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางบริษัท ยูดี ทรัคส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า "พื้นที่ภาคเหนือ ถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญต่อการเติบโตของยูดี ทรัคส์ โดยในปีที่ผ่านมา เรายังมีตัวเลขจดทะเบียนรถยูดี ทรัคส์ ที่ลงตลาดในพื้นที่ภาคเหนือ เติบโตมาขึ้นถึง 38% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งส่วนสำคัญเลยมาจากการการทำงานร่วมกันกับพันธมิตรที่ดี และแบรนด์รถบรรทุกยูดีเป็นที่รู้จักมากขึ้นในตลาด รวมถึงการบอกต่อของลูกค้า จนขณะนี้เรามี ยอดขายเป็นอันดับ 3 ของตลาดรถบรรทุกในประเทศไทย"
ทางด้าน นางสาวนรมน พันเจริญ รองประธานกรรมการ ฝ่ายบริการหลังการขายและพัฒนาเครือข่ายศูนย์บริการ บริษัท ยูดี ทรัคส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวปิดท้ายว่า "เพื่อเป็นการรองรับการเติบโตของยอดขาย ทำให้เรามีรถบรรทุกยูดี วิ่งอยู่ในตลาดมากขึ้น เราจึงให้ความสำคัญในการเพิ่มจำนวนศูนย์บริการให้สอดคล้องกัน โดยในปีนี้ ยูดี ทรัคส์จะมีศูนย์บริการทั่วประเทศรวมจำนวน 27 แห่งพร้อมให้บริการ และมีแผนจะขยายเพิ่มจำนวนศูนย์บริการไปอีกเพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้า และในตอนนี้ทางบริษัทฯ ยังเปิดรับสมัครบริษัทตัวแทนจำหน่ายที่สนใจ และมีความพร้อม ที่จะมาร่วมเป็นครอบครัวยูดีกับเรา สามารถติดต่อได้ที่ยูดี ทรัคส์ ประเทศไทย ในทุกช่องทาง"