กรุงเทพฯ--17 มี.ค.--สตาร์มีเดีย เอเจนซี แอนด์ คอนซัลแตนท์
ดีคอนฯ ชี้รัฐบาลยุคทักษิณแก้ปัญหาคนจนตรงจุด แนะรัฐฯเร่งดูแลด้านสินเชื่อ ดอกเบี้ยต่ำให้คนจนมีบ้านเพิ่ม จัดงบประมาณเพื่อพัฒนาบุคลากรลดภารผู้ประกอบการ
นายวิทวัส พรกุล ประธานกรรมการบริหารบริษัท ดีคอนโปรดักส์ จำกัด(มหาชน) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกสมาคมอุตสหกรรมผลิตภัณฑ์คอนกรีตไทยกล่าวว่า นโยบายอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยที่ผ่านมาส่งผลดีแก่กลุ่มผู้ ประกอบการเกือบทุกธุรกิจทั้งภาครัฐและเอกชน สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยฟื้นตัวอยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งนี้ได้รับการสนับสนุนและช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น การลดค่าธรรมเนียมพัฒนาอสังหาฯ และการช่วยเหลือคนจนให้มีที่อยู่อาศัยที่เห็นได้ชัดคือ “โครงการบ้านเอื้ออาทร” ซึ่งกระตุ้นให้ตลาดอสังหาฯคึกคัก มีโครงการต่างๆเกิดขึ้นมากส่งผลให้ราคาวัสดุก่อสร้างกระเตื้องขึ้นมาด้วย ทำให้ผู้ประกอบการพอใจในส่วนของการก่อสร้าง มีการวางระบบรางรถไฟระหว่างจังหวัดที่เป็นผลต่อระบบคมนาคมรวมทั้งโครงการสนามบินและรถไฟฟ้าใต้ดิน
นายวิทวัสกล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องการฝากให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาดูแลคือ การสนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีที่พักอาศัยมากขึ้น โดยการจัดหาสถาบันให้สินเชื่อแก่ผู้มีรายได้น้อย สามารถซื้อที่อยู่อาศัยในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ไม่เพียงเฉพาะในโครงการเอื้ออาทรเท่านั้น ตลอดจนให้คนจนได้มีสิทธิ์กู้ยืมและสามารถเลือกที่อยู่อาศัยที่เหมาะ สมมากขึ้น ในส่วนของการพัฒนาบุคลากรนั้นรัฐบาลควรสนับสนุนด้านการฝึกอบรมพัฒนาองค์กร โดยใบเสร็จที่ออกจากสถาบันฝึกอบรมที่รัฐบาลให้การสนับสนุน สามารถเบิกค่าใช้จ่ายจากรัฐบาลได้ครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือองค์กรเอกชนเป็นผู้ออก ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้มีการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มากขึ้น หรือ”300 บาทเรียนได้ทุกความรู้” เช่นเดียวกับ ”30 บาทรักษาทุกโรค” ก็จะยิ่งเป็นการดี
“ปัจจุบันกรมแรงงานมีข้อกำหนดใหม่ว่า ถ้าองค์กรต่างๆ ส่งบุคลากรเข้าอบรมไม่ถึงกึ่งหนึ่งของพนักงานจะ ต้องเสียค่าปรับเป็นรายหัว คาดว่ามีผู้ประกอบการเป็นจำนวนมากยอมเสียค่าปรับแทน ซึ่งส่งผลเสียต่อไปให้กับองค์กรที่ไม่มีการพัฒนาใดๆในแต่ละปีและเป็นภาระผู้ประกอบการต้นทุนสูงขึ้นโดยไม่ก่อประโยชน์และสะท้อนกลับมาสู่ประชาชนหรือสินค้าแพงขึ้นในที่สุด” นายวิทวัสกล่าวและว่า
นอกจากเรื่องฝึกอบรมแล้ว ด้านการป้องกันอุบัติภัยในงานนับว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งปัจจุบันดูเหมือนสถิติการรายงานอุบัติภัยลดลงมาก ทำให้กระทรวงแรงงานมีผลงานดีเด่น ทั้งนี้หากข้อเท็จจริงปรากฏว่า อุบัติภัยลดน้อยสืบเนื่องมาจากผู้ประกอบการหลายรายไม่ไปแจ้งเมื่อพนักงานประสบภัยหลีกเลี่ยง ช่วยเหลือปกปิดกันเป็นการภายใน เพื่อไม่ให้นายจ้างต้องเสียเบี้ยประกันทดแทนปีต่อไปสูงขึ้น อีกทั้งไม่ต้องเป็นแพะรับบาปถูกดำเนินคดีและเสียค่าปรับ ซึ่งจะต้องเสียเงินแพงกว่าการทำเรื่องขอเงินช่วยเหลือกองทุนทดแทน ตลอดจนไม่ต้องถูกดำเนินคดีฐานะบริษัทและกรรมการส่วนตัวด้วย ทั้งนี้กระทรวงแรงงานควรแก้ปัญหาการลดอุบัติภัยด้วยการให้ความรู้ด้วยการประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ข้อมูลอัตราเสี่ยงให้ผู้ประกอบการรายอื่นได้ทราบ พร้อมทั้งแนะนำวิธีป้องกันแก้ไข ตลอดจนส่งเสริมให้มีการรายงานอุบัติเหตุแบบเปิดเผยข้อมูลเพื่อสร้างสรรค์ ส่งเสริมจัดหาเจ้าหน้าที่เข้าช่วยสอบสวนอย่างเป็นมิตรและจริงใจ เพื่อช่วยกันป้องกันแก้ไขอุบัติภัยมิให้เกิดซ้ำอีก โดยใช้เงินกองทุนให้เป็นประโยชน์ โดยหวังผล ”ก่อให้เกิดความปลอดภัยในงานจริง มิใช่หวังผลก่อให้เกิดตัวเลขอุบัติภัยในงานมาแสดงกันเท่านั้น” ถ้าเป็นเช่นนั้นผู้ประกอบการก็จะได้พัฒนาและไม่กลายเป็นเรื่องภาระที่ต้องรับรู้มากขึ้นในแต่ละปีๆเช่นในปัจจุบันนี้
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
คุณวิชชุดา ทองสุทธิ์
สตาร์มีเดีย เอเจนซี แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด
70/162 ม.2 ถนนติวานนท์ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel. 02-951-3531 , 02-951-2822 FAX 02-951-3531--จบ--