กรุงเทพฯ--7 พ.ค.--ปตท.
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบและสำเร็จรูปในตลาดโลกในช่วงปลายสัปดาห์ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรุนแรง มากกว่า 5 — 8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งก่อนหน้านี้ก็อยู่ในระดับสูงมาตลอด ล่าสุดผลจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงและมีแนวโน้มอ่อนค่าลงอีก ทำให้มีการเข้าซื้อเก็งกำไรในตลาดซื้อขายล่วงหน้าต่อเนื่อง และไนจีเรียผู้ส่งออกน้ำมันเป็นอันดับ 8 ของโลก ถูกกลุ่มผู้ก่อการร้ายวางระเบิดสถานีสูบถ่ายน้ำมันทำให้ต้องหยุดการผลิตน้ำมันดิบปริมาณ 164,000 บาร์เรล/วัน อีกทั้งผู้นำอิหร่านยังคงยืนยันที่จะพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ต่อไป และหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย เช่น จีน เวียดนาม สิงคโปร์ อินเดีย และเกาหลี ยังคงมีความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นตามอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้ (7 พ.ค.51) ราคาน้ำมันดิบดูไบขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 113.25 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ถือเป็นระดับสูงสุด (New High) อีกครั้ง ส่วนน้ำมันสำเร็จรูปเบนซินและดีเซลอยู่ที่ระดับ 123.69 และ 144.03 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ตามลำดับ ส่งผลกระทบต่อต้นทุนราคาน้ำมันในประเทศสูงขึ้นตามไปด้วย ทำให้ขาดทุนเฉลี่ยอยู่ลิตรละ 1.50 บาท หรือ วันละประมาณ 40 ล้านบาท หากนับตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา (มกราคมจนถึงปัจจุบัน) ปตท. ได้ช่วยแบกรับภาระแทนประชาชนไปแล้วกว่า 3,200 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการรับภาระมาจากน้ำมันดีเซล (น้ำมันดีเซล 3,165 ล้านบาท และน้ำมันเบนซิน 52 ล้านบาท) ปตท. จึงจำเป็นต้องปรับราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดขึ้น 50 สตางค์/ลิตร มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (8 พ.ค.51) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในเขตกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล เป็นดังนี้
ชนิดน้ำมัน หน่วย : บาท/ ลิตร
น้ำมันเบนซิน พีทีที E20 พลัส 31.09 (ถูกกว่าเบนซิน 95 ถึง 6 บาท ม.ค.-มิ.ย.51)
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95 33.09 (ถูกกว่าเบนซิน 95 ถึง 4 บาท)
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91 32.29 (ถูกกว่าเบนซิน 91 ถึง 3.70 บาท)
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 95 37.09
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 35.99
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที B5 พลัส 33.24 (ถูกกว่าดีเซล ถึง 0.70 บาท)
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ 33.94
ในขณะนี้ทั่วโลกล้วนได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันแพง และเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากจึงขอวิงวอนให้ทุกท่านช่วยกันประหยัดพลังงานให้มากขึ้น เพราะราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบ WTI จะปรับตัวสูงขึ้นถึงระดับ 200 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ภายใน 6 ถึง 24 เดือนข้างหน้า เนื่องปริมาณน้ำมันในกลุ่ม Non-Opec ยังอยู่ในระดับต่ำ ในขณะที่ตลาดมีความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นเราในฐานะเป็นผู้นำเข้าและผู้ใช้ไม่ควรประมาท นายชัยวัฒน์ กล่าวย้ำ