GGC ประกาศยุทธศาสตร์ปี 67 หนุน 3 Portfolio ขยายโอกาสธุรกิจ สร้าง High Value Product สู่แบรนด์ Nutralist

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 21, 2024 13:44 —ThaiPR.net

GGC ประกาศยุทธศาสตร์ปี 67 หนุน 3 Portfolio ขยายโอกาสธุรกิจ สร้าง High Value Product สู่แบรนด์ Nutralist

บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดแผนธุรกิจปี 2567 เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจ สร้างโอกาสความสำเร็จสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ The New Chapter of GGC to be the Sustainable Growth Business : Execution for Success สอดรับ 3 กลยุทธ์หลัก เข้มแข็ง เติบโต ยั่งยืน สู่การปรับธุรกิจให้สอดรับกับความท้าทายในการดำเนินธุรกิจ
โดย 3 Portfolio มุ่งขยายโอกาสธุรกิจในการสร้าง High Value Product ล่าสุดขยายธุรกิจเจาะตลาดกลุ่ม Food Ingredients & Pharmaceutical สู่ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้แบรนด์"Nutralist" มั่นใจสร้าง EBITDA 300 ล้านบาทในปี 2026

นายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประกาศเดินหน้าสร้างโอกาสการเติบโตสู่ความสำเร็จอย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ The New Chapter of GGC to be the Sustainable Growth Business : Execution for Success ผ่านการมุ่งมั่นดำเนินการตาม 3 กลยุทธ์หลัก คือ เข้มแข็ง เติบโต ยั่งยืน

เข้มแข็ง (Enhance Competitiveness) : สร้างความเป็นเลิศในด้านการผลิต มุ่งเน้นการลดต้นทุนในองค์กร (Cost Optimization) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการเงินและสร้างมูลค่าสูงสุดจากทรัพยากรที่ใช้ในกิจการการปรับปรุงการใช้วัตถุดิบ (Feedstock Optimization) โดยเน้นการใช้วัตถุดิบทางเลือกอย่างเหมาะสม การเพิ่มยอดขายของสินค้าที่ผลิตจากวัตถุดิบ RSPO (FA) และการจัดการด้าน Operation Excellence โดยบริหารจัดการการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจหลัก (Core Business) อาทิ เมทิลเอสเทอร์ (ME) แฟตตี้แอลกอฮอล์ (FA) และเอทานอล (EtOH)

เติบโต (Growth Portfolio) : ปรับ Portfolio ให้ชัดเจนสำหรับการลงทุนใน 3 กลุ่มธุรกิจ Bioenergy, Biochemicals และ Food Ingredients & Pharmaceutical เพื่อความพร้อมในการปรับตัวให้สอดรับกับความท้าทายและสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง ขับเคลื่อนด้วยการต่อยอดธุรกิจเดิมสู่การเพิ่มโอกาสในการเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้น ( High Value Product) โดยการขยายพอร์ตการลงทุนใน 3 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย

ธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพ (BioEnergy Business) เป็นความร่วมมือกันระหว่าง PTT GC และ GGC ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาโครงการและความเป็นไปได้ของโครงการ ในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านตลาด เทคโนโลยี การผลักดันด้านนโยบาย และการสร้างความร่วมมือกับสายการบิน โดยมี 3 โครงการ ดังนี้

  • โครงการน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ : ปัจจุบันได้ศึกษาความเป็นไปได้และดำเนินการปรับปรุงโรงงานเพื่อนำน้ำมันพืชที่ใช้แล้ว ผลิตเป็นน้ำมันอากาศยานชีวภาพ โดยคาดว่าจะดำเนินการระยะที่ 1 แล้วเสร็จ และดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2025 (พ.ศ.2568)
  • โครงการ ATJ : เป็นการศึกษาแผนการลงทุนในการต่อยอดผลิตภัณฑ์เอทานอลเพื่อผลิตเป็นน้ำมันอากาศยานชีวภาพ โดยมีแผนที่จะดำเนินการภายในปี 2030 (พ.ศ.2573)
  • โครงการ Green Methanol : เป็นการศึกษาเพื่อต่อยอด และขยายปลายทางธุรกิจไปสู่ตลาด Marine Biofuel และเพื่อตอบสนองต่อแผนกลยุทธ์ Decarbonization

ธุรกิจเคมีชีวภาพ (Bio Chemical Business)

  • ธุรกิจ FA, Oleochemical Specialty & Derivative อยู่ระหว่างการขยายธุรกิจ เพื่อให้ได้ผลผลิต Oleochemicals ที่มีมูลค่าเพิ่ม เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์สีเขียว ผ่านพันธมิตร

ธุรกิจ Food Ingredients & Pharmaceutical

  • มุ่งเน้นธุรกิจกลุ่ม Food Ingredients & Pharmaceutical
  • มุ่งเน้นเป็น Brand Owner โดยดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา ผลิต และจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Food Ingredients & Pharmaceutical

โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจสู่ตลาดในกลุ่ม Food Ingredients & Pharmaceutical ในฐานะผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เป็น Green Product เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการมีสุขภาพดีภายใต้แบรนด์ "Nutralist" ผ่านการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารเสริม 2 ตัว คือ Astaxanthin และ Probiotic ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งก้าวที่สำคัญของ GGC ที่ต่อยอดธุรกิจเดิมสู่การขยายพอร์ตการลงทุนในธุรกิจเสริมอาหารเพื่อสุขภาพ เนื่องจากบริษัทฯ เล็งเห็นว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีความต้องการสูงและตอบสนองต่อ Lifestyle ของผู้บริโภคที่รักสุขภาพในปัจจุบัน โดยบริษัทฯ คาดว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจของ GGC เติบโตได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนในอนาคต พร้อมตั้งเป้าการเติบโตของธุรกิจกลุ่ม Food Ingredients & Pharmaceutical ไว้ที่ 10% ของ EBITDA หรือคิดเป็นมูลค่า 300 ล้านบาท ภายในปี 2026 (พ.ศ.2569) ภายใต้แผนกลยุทธ์ 4A strategy

Awareness : สร้าง Brand Awareness สร้างการรับรู้และจดจำ Brand Nutralist ในกลุ่มเป้าหมายโดยวางแผนความร่วมมือกับ Partner ด้านการแพทย์และสุขภาพ เพื่อช่วยสร้าง Brand Awareness ให้กับผลิตภัณฑ์ พร้อมขยายสู่ช่องทาง Social Media เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว

Affordability : Nutralist เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคุณภาพ โดย Ingredient นำมาใช้มาจาก World Class Food Ingredient Producers ซึ่ง GGC มุ่งหวังให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคุณภาพได้ทุกเจนเนอเรชั่น

Accessibility : วางเกมรุกให้ในหลากหลายช่องทางให้ครบทุกมิติ ทั้ง Online และ Offline เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม

Acceptability : ให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าควบคู่ไปกับความใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ GGC มีแผนพัฒนาใหม่ๆ ด้วยกระบวนการผลิตที่ทันสมัยและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของทุกเจนเนอเรชั่นที่ใส่ใจรักสุขภาพ ภายใต้สโลแกน "Extract Your New Life"

จากแผนขยายพอร์ตในการสร้างการเติบโตผ่านการลงทุนต่อยอดธุรกิจเดิมของบริษัทฯ รวมถึงการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายในการปรับ Portfolio เพื่อให้ตอบโจทย์ Mega Trend ที่จะสร้างการเติบโตจากธุรกิจใหม่มากกว่า 50% (New Business)

ยั่งยืน (Sustainability Development) : มุ่งมั่นการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG และได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมทั้งแสวงหาโอกาสทางธุรกิจจาก Decarbonization โดย GGC ยังคงเดินหน้าเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ของสหประชาชาติ (United Nations : UN) ครอบคลุมทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านการเติบโตของธุรกิจรวมถึงการสร้างคุณค่า ยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจให้ได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศ และระดับสากล โดยกำหนดยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ตามแนวคิดการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน"ESG" ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) ด้านสังคม (Social) และด้านการกำกับดูแล (Governance)

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้มีการกำหนดเป้าหมายด้านความยั่งยืน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050 โดยกำหนดเป้าหมายเพื่อวัดประสิทธิผลในระยะสั้นในปี 2030 เพื่อที่จะลด CO2 ให้ได้ 20%สำหรับปี 2024 (พ.ศ.2567) บริษัทฯ มี Biogas Project ซึ่งตั้งเป้าหมาย

  • CO2 Reduction 6,000 Ton CO2eq
  • Production Cost Saving 8.5 MB
  • Wastewater Reduction 7,500 Tons

จากความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ส่งให้ปี 2023 บริษัทฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนระดับโลกจาก S&P Global Corporate Sustainability Assessment หรือ S&P Global CSA เป็นปีแรก โดยได้คะแนน ลำดับที่ 5 ในกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ ซึ่งตอกย้ำการเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืนในระดับสากลที่โดดเด่นในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) มุ่งสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 (พ.ศ.2593)

"GGC พร้อมเดินหน้าสู่ปี 2567 ด้วยการมุ่งพัฒนายกระดับศักยภาพในทุกด้านเพื่อการเติบโต ของกลุ่มธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง พัฒนาและยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนต่อไปในอนาคต ตามวิสัยทัศน์ "TO BE A LEADING GREEN CHEMICAL COMPANY BY CREATING SUSTAINABLE VALUE" หรือ "เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม พร้อมขับเคลื่อนพลังแห่งการสร้างสรรค์ เพื่อคุณค่าที่ยั่งยืน" นาย กฤษฎา กล่าวทิ้งท้าย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ