กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--ไดเร็คท์ เรสพ็อนซ์ (ประเทศไทย)
โรงเรียนนานาชาติใหม่แห่งประเทศไทย (New International School of Thailand หรือ NIST) ริเริ่มจัด “โครงการนำร่อง เทคโลยีแท็บเบลท (Tablet technology) เพื่อการศึกษา” นวัตกรรมล่าสุดในโปรแกรมคอมพิวเตอร์บุคคล (Personal Computer — PC) ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม ศกนี้ เป็นต้นไป โดย NIST ได้นำเทคโนโลยี Tablet บรรจุลงในหลักสูตรการเรียนระดับมัธยมศึกษาระดับ 10 ทั้งนี้ NIST มั่นใจว่าเทคโนโลยี Tablet ล่าสุดนี้ จะทำให้โรงเรียนขยายประสิทธิภาพและโอกาสของการเรียนได้อย่างกว้างขวางขึ้น
ระบบ Tablet PC เป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คชนิดหนึ่งซึ่งบันทึกข้อมูลและปฏิบัติการต่างๆ ได้โดยใช้ปากกาดิจิตอล (Digital Pen) นอกเหนือจากการใช้แป้นพิมพ์ หรือ เม้าส์ การเขียนหรือปฏิบัติการข้อมูลใดๆ ลงบนจอคอมพิวเตอร์นั้น ทำได้ง่ายๆ เช่นเดียวกับการเขียนลงบนกระดาษ ด้วยเหตุที่ระบบ Tablet PC ประกอบไปด้วยหน้าจอพิเศษที่ตอบสนองต่อปากกาดิจิตอล หรือ Digital Ink เพื่อให้ผู้ใช้เขียนข้อมูลลงได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อปฏิบัติการ หรือการป้อนข้อมูลใดๆ เสมือนหนึ่งการเขียนหนังสือหรือวาดภาพ
ไซมอน เลสลีย์ ผู้บริหารของ NIST กล่าวว่า “โครงการนำร่องโปรแกรม Tablet เปรียบเสมือนการก้าวกระโดดครั้งสำคัญของ NIST สู่โลกแห่งเทคโนโลยีสาระสนเทศ” “นอกจากที่ Tablet จะมีคุณประโยชน์สำหรับย้ำเสริมการเรียนการสอนในกรณีที่มีข้อจำกัดต่างๆ แล้ว ยังเป็นการเตรียมนักเรียนให้มีวิสัยสามารถต่อการใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้นเมื่อจบการศึกษาออกไป และการที่นักเรียนได้เรียนรู้เทคโนโลยีเหล่านี้ตั้งแต่วัยเยาว์ จักเสริมส่งให้เขาเหล่านั้น เป็นบัณฑิตที่พร้อมมูลด้วยคุณสมบัติที่มีข้อได้เปรียบสูงท่ามกลางตลาดงานอันแข่งขันสูง อีกด้วย”
“ด้วยเหตุนี้ NIST จึงมุ่งชี้นำอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้นักเรียนทุกคนมีโอกาสพัฒนาทักษะและวิสัยสามารถที่จะแข่งขันได้ในตลาดงาน หลังจากที่สำเร็จการศึกษาไปแล้ว”
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์จึงต้องไม่จำกัดอยู่เพียงในห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์เท่านั้น หากต้องนำออกสู่นักเรียนทุกหนทุกแห่ง ดังเช่นที่ Tablet PC สามารถเอื้อประโยชน์ต่อผู้ใช้ ปัจจุบันห้องเรียนทุกห้องของ NIST ติดตั้งระบบสื่อสารแบบไร้สาย (Wireless Zone) ซึ่งทำให้นักเรียนทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา
การใช้ระบบ Tablet PC บนโน้ตบุ๊คนั้น พิสูจน์ได้ชัดว่าช่วยพัฒนาทักษะการอ่านเขียน ความเข้าใจ การจัดลำดับและระบบความคิด ความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนโน้มนำให้เกิดการมีส่วนร่วมและการจูงใจซึ่งกันและกัน คุณสมบัติเหล่านี้ส่งผลให้ผู้บริหารของ NIST และคณาจารย์พร้อมใจกันสรรสร้างหลักสูตรนี้ ด้วยหวังว่านักเรียนจะได้ประโยชน์จาก Tablet PC ในด้านต่างๆ กล่าวคือ
- ใช้แทนกระดานไวท์บอร์ดในการอธิบายโต้ตอบกัน
- เป็นศูนย์รับข้อมูลความเห็นจากครูได้อย่างรวดเร็วผ่านระบบอิเล็คทรอนิค
- ต่อเข้ากับระบบ Internet ภายใต้ระบบสื่อสารไร้สายของโรงเรียน
- นำกลับบ้านและนำมาโรงเรียนได้สะดวก
- พัฒนาทักษะการเขียนลายมือของแต่ละคน (ระบบสามารถรับรู้เพียงการเขียนลายมือมาตรฐาน ผู้ใช้จึงต้องฝึกฝนลายมือในแนวทางที่ระบบรับรู้ได้)
- พัฒนาสมาธิและความมุ่งมั่นในงาน เพราะโดยทั่วไปนักเรียนมักคร่ำเคร่งในการใช้ระบบ Tablet PC จึงเท่ากับเป็นการช่วยฝึกสมาธิและความมุ่งมั่น
- สร้างเสริมการวางผังความคิดอ่าน และการระดมความคิด
ฝ่ายสาระสนเทศของ NIST ได้เลือกใช้ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คของฟูจิตสึ รุ่น LifeBook T4020 สำหรับใช้ในโครงการนำร่องหลักสูตร Table PC โดยนายพอล ไวท์ ผู้อำนวยการฝ่ายฯ ให้ความเห็นว่า ฟูจิตสึ มีชื่อเสียงดีในตลาดของระบบ Tablet และโน้ตบุ๊ครุ่นที่เลือกนี้ก็มีน้ำหนักเบามาก ทั้งยังประกอบไปด้วยความจุของถ่านสองพลัง ซึ่งสำรองใช้ไฟในเครื่องเพิ่มต่อได้อีก 8 ชั่วโมง พอล ไวท์ยังกล่าวเสริมอีกว่า โครงการนี้นับเป็นก้าวแรกของโรงเรียนที่จะทำให้ NIST เป็น “Tablet School” อย่างสมบูรณ์ เพื่อดำรงความเป็นผู้นำ ในฐานะสถาบันที่พร้อมมูลด้วยการศึกษาคู่เทคโนโลยีแห่งแรกของประเทศไทย
ผู้บริหารของ NIST คาดว่า ภายใน 2 — 3 ปีข้างหน้านี้ โครงการ Tablet PC จะบรรจุลงหลักสูตรในทุกชั้นเรียนได้อย่างครบถ้วน
ข้อมูลทั่วไปของ NIST
New International School of Thailand (NIST) ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มเจ้าหน้าที่ขององค์การสหประชาชาติ (United Nations) ในปี พ. ศ. 2535 โดยจัดให้เป็นสถาบันการศึกษานานาชาติแบบไม่หวังผลกำไร ภายใต้การบริหารของมูลนิธิการศึกษานานาชาติ (Foundation for International Education) NIST ได้รับการรับรองวิทยฐานะจากสองสถาบัน คือ สภาการศึกษานานาชาติ (Council of International Schools — CIS) และ สมาคมโรงเรียนและวิทยาลัยแห่งภูมิภาคนิวอิงแลนด์ สหรัฐอเมริกา (New England Association of Schools and Colleges, USA — NEASC)
NIST เป็นโรงเรียนนานาชาติแห่งเดียวในประเทศไทยที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการเรียนการสอนในหลักสูตรประกาศนียบัตรการศึกษานานาชาติ หรือ International Baccalaureate (IB) สำหรับนักเรียนที่มีอายุตั้งแต่ 3 ถึง 18 ปี หลักสูตรดังกล่าวประกอบด้วย ประกาศนียบัตรระดับประถมศึกษา (IB Primary Years Programme - PYP) ประกาศนียบัตรมัธยมศึกษา (IB Middle Years Programme - MYP) และ วุฒิบัตรเตรียมอุดมศึกษา (IB Diploma Programme — DP)
- ผู้สำเร็จวุฒิบัตรDP ต้องศึกษาอย่างขะมักเขม้นในขั้นเตรียมอุดมศึกษา และเป็นนักเรียนเรียนดีที่มีความประสงค์จะศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ระบบคะแนนของขั้น DP จึงยึดถือเกณฑ์การรักษาความสามารถของนักเรียนเป็นสำคัญ โดยนักเรียนต้องรักษาระดับคะแนนที่สูงนั้นให้คงเส้นคงวาตลอดการสอบทุกครั้ง คะแนนเหล่านี้จะบ่งชี้ถึงระดับความรู้และทักษะ อันสอดคล้องกับเกณฑ์และมาตรฐานที่ใช้ในโรงเรียนชั้นนำทั่วโลก
- ผู้สำเร็จวุฒิบัตรขั้น DP จะมีโอกาสได้รับพิจารณาให้เข้าเรียนต่อในสถาบันและมหาวิทยาลัยทั่วโลก
- การศึกษาในระดับ MYP ตั้งอยู่ภายใต้กรอบของวิชาการร่วมสมัยและทักษะเพื่อการดำรงชีวิต สำหรับนักเรียนอายุตั้งแต่ 11 — 16 ปี โดยมีหลักสูตร 5 ปี ซึ่งผสานวิธีการเรียนการสอนในวิถีเดิมและสมัยใหม่ เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ทั้งเชิงลึกและกว้างในทุกสาขาวิชา จนสามารถค้นคว้าและพัฒนาข้อมูล สร้างความเข้าใจแบบองค์รวมในศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ และมีทักษะในการสื่อสาร ตลอดจนตระหนักในบทบาทต่างๆ ของตนในสังคม
- การเรียนในหลักสูตร MYP นั้น ต้องผ่านหลักสูตรประกาศนียบัตร PYP มาก่อน ผู้เรียนในหลักสูตร MYP จะพบว่า หลักสูตรมัธยมศึกษานี้ เป็นการเตรียมตัวอย่างพร้อมมูล ต่อการเรียนในระดับวุฒิบัตรเตรียมอุดมศึกษา (DP) ดังนั้น นักเรียนระดับ MYP ต้องได้คะแนนอย่างน้อย 36 คะแนน จากคะแนนรวม 63 คะแนน และได้ร่วมกิจกรรมกุศลสาธารณะ คือ Community, Action and Service หรือ CAS
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตรประกาศนียบัตรนานาชาติได้ ที่ www.ibo.org
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
บริษัทฯ ตัวแทนในการดำเนินงานประชาสัมพันธ์
คุณเอื้อมพร เจริญศรียานนท์ (เกด)
โทร 0-2332-8555 ต่อ 129,115 / 0-1376-7243
สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--