CIVIL เผยผลประกอบการปี 2566 รายได้รวม 4,935 ล้านบาท กำไรสุทธิ 94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% จากการเข้ารับงานสะท้อนราคาต้นทุนใหม่ มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานพร้อมบริหารต้นทุน เพิ่มความสามารถการทำกำไรในระดับดี ชูอัตรากำไรสุทธิเติบโตระดับ 1.9% เตรียมขออนุมัติจ่ายปันผล 0.012 บาท/หุ้น คิดเป็น 40% ของกำไรสุทธิฯ
นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL ผู้นำบริษัทก่อสร้างครบวงจรชั้นนำของไทย เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 2566 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 4,935 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 6,095 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิ 94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 65 ล้านบาท จำนวน 29 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 46%
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 4/2566 บริษัทมีรายได้รวม 1,005 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,466 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิ 27 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 63 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากโครงการก่อสร้างที่บริษัทได้เข้าดำเนินงานเป็นโครงการที่สะท้อนราคาต้นทุนใหม่ ประกอบกับการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารโครงการและต้นทุนการก่อสร้างที่ดี อีกทั้งการมีทีมผู้รับเหมาที่มีความพร้อมและความชำนาญ ส่งผลให้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น 8.4% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 6.6% และ มีอัตรากำไรสุทธิ 1.9% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิ 1.1%
ขณะที่ผลประกอบการในส่วนรายได้ที่ลดลงช่วงปี 2566 มีสาเหตุหลักจากการรับรู้รายได้ที่ชะลอตัวของโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ โดยเฉพาะประเภทงานยกระดับ ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยของภาครัฐ ส่งผลให้ระยะการเข้าทำงานล่าช้ากว่ากำหนด อย่างไรก็ตามบริษัทสามารถดำเนินงานก่อสร้างอื่นๆ นอกเหนือจากงานดังกล่าวได้ตามแผนที่วางไว้
นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติเสนอจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.012 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 8.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2566 อยู่ที่ 40% ของกำไรสุทธิของบริษัทหลังหักสำรองตามกฎหมาย กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ณ วันที่ 8 พ.ค. 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 พ.ค. 2567 ทั้งนี้จะมีมติอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทในวันที่ 26 เม.ย. 2567