SRICHA โชว์งบปี 66 ธุรกิจเติบโตสูง รายได้ทะยาน 2,214.75 ล้านบาท กำไรพุ่ง 122.79 ล้านบาท รุกเดินหน้าประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง ชูแบ็คล็อคสูง บอร์ดเคาะจ่ายปันผล 0.25 บาทต่อหุ้น
บมจ.ศรีราชาคอนสตรัคชั่น หรือ SRICHA เปิดผลดำเนินงานประจำปี 2566 ทำรายได้รวม 2,214.75 ล้านบาท โต 40% กำไรพุ่ง 122.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 159.24% ล่าสุดบอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลเพิ่มอีก 0.25 บาทต่อหุ้น รวมเป็นจำนวนเงินประมาณ 77.47 ล้านบาท จ่อขึ้น XD ในวันที่ 3 พ.ค. 2567 และจ่ายปันผลในวันที่ 17 พ.ค. 2567 นี้
นายบุญเครือ เขมาภิรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศรีราชาคอนสตรัคชั่น หรือ SRICHA ผู้เชี่ยวชาญด้านงานรับเหมาก่อสร้างโลหะ ในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เปิดเผยว่า "สำหรับผลประกอบการประจำปี 2566 มีรายได้จากการรับเหมาและให้บริการรวม 2,214.75 ล้านบาท เมื่อเทียบกับรายได้รวม 1,591.82 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 122.79 ล้านบาท เมื่อเทียบในช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 47.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 159.24 % โดยสาเหตุหลักเกิดจาก เนื่องจากปี 2566 บริษัทฯ มีงานเพิ่มจากโครงการเดิม และโครงการในต่างประเทศมีปริมาณเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการเริ่มฟื้นตัวของการลงทุนในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ด้านพลังงาน ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ที่ดีขึ้น และที่สำคัญบริษัทฯ เน้นการเลือกรับงานโครงการที่มีอัตราผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้น และมีความเสี่ยงน้อย มากกว่าที่จะรับงานโครงการขนาดใหญ่ ที่มีความเสี่ยงสูงกว่าและผลตอบแทนต่ำกว่า"
"ขณะนี้ SRICHA มีงานในมืออยู่กว่า 1,650 ล้านบาท ที่สามารถรับรู้รายได้ได้ตั้งแต่ในปีนี้ และยังรับรู้รายได้ยาวอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2568 โดยมีแผนที่จะประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ทำให้คณะกรรมการบริษัทฯ มีแผนอนุมัติการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น รวมเป็นจำนวนเงินประมาณ 77.47 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) ในวันที่ 3 พ.ค. 2567 และจ่ายปันผล ในวันที่ 17 พ.ค. 2567"
"สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปี 2567 นี้ บริษัทฯ มั่นใจว่านับจากนี้เป็นต้นไปผลประกอบการบริษัทฯ มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเนื่องจากบริษัทฯ ได้เซ็นสัญญารับงานโครงการก่อสร้างโรงงานหลายโครงการ เนื่องจากบริษัทฯ ได้เซ็นสัญญารับงานโครงการก่อสร้างโรงงานหลายโครงการ ที่ให้ผลตอบแทนที่ดี อาทิ การเซ็นต์สัญญารับเหมาก่อสร้างโครงการ Clean Fuel Project (CFP) ของ บมจ. ไทยออยล์ จากกิจการร่วมค้า Petrofac-Samsung-Saipem โดยการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี 2568
เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่ และสามารถรับรู้รายได้ได้ทันที จึงช่วยเสริมรายได้ให้แก่บริษัทฯ ในปี 2567 นี้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ยังมีแบ็คล็อคโครงการอื่นๆ และมีแผนเสนอโครงการเพิ่มเติมในปี 2567 อีก คิดเป็นมูลค่า 4,500 ล้านบาท