บมจ. เคที เมดิคอล เซอร์วิส "KTMS" ประกาศผลงานปี 66 กวาดรายได้ 456.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.69% (YoY) กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทอยู่ที่ 14.21 ล้านบาท บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผล 0.014 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 7 พ.ค.67 พร้อมซื้ออาคารพาณิชย์ย่านพัฒนาการ เพื่อจัดเก็บสินค้าและเวชภัณฑ์รองรับการเปิดเฟสใหม่ของคลินิกไตเทียม วางเป้าปี 67 รายได้แตะ 600 ล้านบาท ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมและระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์ สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมครบวงจร
นางสาวกาญจนา พงศ์พัฒนะเดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) "KTMS" ผู้นำด้านการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมและระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์ สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม รวมทั้งการขายและการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์แบบครบวงจร (One-stop Services) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 456.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.69% (YoY) จากการเติบโตของการดำเนินงานใน 3 กลุ่มธุรกิจ ดังนี้
กลุ่มธุรกิจการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม มีรายได้ 354.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 68.71 ล้านบาท หรือคิดเป็น 24.01% จากจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับบริการมากขึ้น และการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มธุรกิจการให้บริการออกแบบ ติดตั้งระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์ ระบบบำบัดน้ำเสีย สถานพยาบาล ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และการบำรุงรักษาระบบ มีรายได้ 78.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จำนวน 5.38 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7.34% จากการรับรู้รายได้จากการผลิตและจัดจำหน่ายน้ำยาไตเทียม เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 4.46 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12.17% เนื่องมีคำสั่งซื้อของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีรายได้จากบริการออกแบบติดตั้งและบริการดูแลบำรุงรักษาระบบน้ำให้บริสุทธิ์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 2.12 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7.31% จากจำนวนงานและมูลค่างานโครงการระบบน้ำที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ขณะที่รายได้จากจัดจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์สำหรับสถานพยาบาลศูนย์ไตเทียม ปรับตัวลดลง 15.65% จากการขายอุปกรณ์การแพทย์ที่ลดลงจากปีก่อน
กลุ่มธุรกิจการให้บริการออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์ท่อลมรับ-ส่ง สิ่งส่งตรวจทางการแพทย์ มีรายได้ 23.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 4.20 ล้านบาท หรือคิดเป็น 22.18% เนื่องจากงานโครงการติดตั้งอุปกรณ์ท่อลมรับ-ส่ง สิ่งส่งตรวจทางการแพทย์ที่ได้รับในปี 2566 มีจำนวนและมูลค่างานมากกว่างานโครงการในปี 2565
อย่างไรก็ตามในปี 2566 กลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 15.98 บาท หรือคิดเป็น 36.66% จากจำนวนพนักงานที่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการขยายการให้บริการเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากปีก่อน ส่งผลให้กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทอยู่ที่ 14.21 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 8.10 ล้านบาท หรือคิดเป็น 36.31%
ในวันเดียวกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2566 จากกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และทุนสำรองตามกฎหมาย ในอัตรา 0.014 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นมูลค่าเงินปันผลรวมเท่ากับ 4.20 ล้านบาท โดยบริษัทฯ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) วันที่ 8 พฤษภาคม 2567 กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 7 พ.ค. 2567 และกำหนดการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นวันที่ 24 พฤษภาคม 2567
นอกจากนี้ บอร์ดยังมีมติอนุมัติให้ KTMS ซื้ออาคารและที่ดินซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น พร้อมชั้นลอย ย่านพัฒนาการ จาก บริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ในราคา 5,200,000 บาท เพื่อเป็นคลังสินค้าและจัดเก็บเวชภัณฑ์ เนื่องจากคลินิกไตเทียมพัฒนาการมีการขยายเฟสใหม่เพิ่ม โดยคาดว่าการซื้อขายอาคารดังกล่าวจะแล้วเสร็จได้ภายในไตรมาส 2/2567
ส่วนแผนธุรกิจในปี 2567 ยังเดินหน้าลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้มีรายได้แตะระดับ 600 ล้านบาท จากการขับเคลื่อนการให้บริการทั้ง 4 กลุ่มบริษัท โดย KTMS มีแผนสำหรับการขยายสาขาและเพิ่มเครื่องไตเทียมอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าภายในไตรมาสที่ 1/2567 จะขยายสาขาประมาณ 1 - 2 สาขา และเครื่องไตเทียมประมาณ 6 - 24 เครื่อง ขณะที่ บริษัท เนโฟร วิชั่น จำกัด ปัจจุบันบริษัทมีแผนสำหรับการเปิดสาขาและซื้อเครื่องไตเทียมภายในไตรมาสที่ 1/2567 จำนวน 1 สาขา และเครื่องไตเทียมประมาณ 8 - 12 เครื่อง ส่วน บริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งได้รับคำสั่งซื้องานติดตั้งระบบน้ำจากลูกค้าแล้ว 9 โครงการ มูลค่ารวม 7.77 ล้านบาท และงานปรับปรุงหน่วยไตเทียม 2 โครงการ มูลค่า 0.69 ล้านบาท คาดว่าจะติดตั้งให้แล้วเสร็จในไตรมาสที่ 1/2567 และบริษัท เมดิคอล วิชั่น จำกัด ปัจจุบันได้รับคำสั่งซื้องานติดตั้งท่อลมรับ-ส่ง สิ่งส่งตรวจทางการแพทย์จากลูกค้าแล้ว 7 โครงการ มูลค่ารวม 11.77 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการติดตั้งคาดว่าจะติดตั้งได้แล้วเสร็จในไตรมาสที่ 1/2567