RSP ปี 67 สัญญาณแจ่ม ปักหมุดรายได้ปีนี้โต 15-20% ปี 66 บุ๊ครายได้ 1,451 ลบ. โต 14.4% กำไรอยู่ที่ 94.7 ลบ. บอร์ดชงจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.13 บาท ตอบแทนผู้ถือหุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 4, 2024 14:48 —ThaiPR.net

RSP ปี 67 สัญญาณแจ่ม ปักหมุดรายได้ปีนี้โต 15-20% ปี 66 บุ๊ครายได้ 1,451 ลบ. โต 14.4% กำไรอยู่ที่ 94.7 ลบ. บอร์ดชงจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.13 บาท ตอบแทนผู้ถือหุ้น

"บมจ.ริชสปอร์ต หรือ RSP" ประเมินแนวโน้มธุรกิจปี 67 ฟื้นตัวดีต่อเนื่องหลังตลาดส่งสัญญาณฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และการเติบโตของภาคธุรกิจการท่องเที่ยว จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ปักหมุดรายได้โต 15-20% ล่าสุดเซ็นสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่าย GEOX จากประเทศอิตาลี แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดงบปี 66 บุ๊ครายได้จากการขายอยู่ที่ 1,451.4 ลบ.โต 14.4% กำไรสุทธิอยู่ที่ 94.7 ลบ.

นางสาวพาพิชญ์ วงศ์ไพฑูรย์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ริช สปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ RSP ผู้ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ภายใต้ตราสินค้าชั้นนำ เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2567 ว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายไว้ที่ 15-20% โดยมุ่งเน้นการเติบโตจากการเพิ่มยอดขายจากสาขาเดิม และการขยายสาขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแบรนด์ใหม่ๆที่บริษัทฯได้รับสิทธิในการจัดจำหน่าย รวมถึงการเพิ่มรายได้จากการขายผ่านช่องทางออนไลน์ โดยในปี 2567 เชื่อว่าธุรกิจมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี หลังตลาดส่งสัญญาณฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และการเติบโตของภาคธุรกิจการท่องเที่ยวอันเห็นได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทฯมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสาขาหลักที่อยู่ใจกลางเมืองและจังหวัดที่นักท่องเที่ยวชอบเดินทางไป เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ เป็นต้น

โดยกลุ่มลูกค้ายังคงให้ความสนใจในสินค้าที่บริษัทฯจัดจำหน่าย ปัจจุบัน RSP มีแบรนด์ภายใต้การจัดจำหน่าย ได้แก่ Converse, Havaianas, Barrel, Cole Haan, Acme De La Vie, O&B, ECCO และ GEOX ในประเทศไทยและกัมพูชา รวมสาขากว่า 216 แห่ง

ล่าสุดบริษัทฯได้ลงนามสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายกับ GEOX จากประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นผู้ผลิต และแบรนด์รองเท้าและเสื้อผ้าภายใต้ตราสินค้า "GEOX" โดยสัญญาดังกล่าวให้สิทธิแก่บริษัท ในการจัดจำหน่ายสินค้าภายใต้ตราสินค้า "GEOX" แต่เพียงผู้เดียวในราชอาณาจักรไทยและกัมพูชา

สำหรับผลประกอบการในงวดปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 1,451.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 1,268.2 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 94.7 ล้านบาท ลดลง 16.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 113.8 ล้านบาท

"ในปี 2566 ประเทศต่างๆทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น จากสงครามรัสเซียและยูเครน ในขณะที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เพียงร้อยละ 1.9 ซึ่งขยายตัวได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ค่อนข้างมาก ซึ่งเกิดจากหลายภาคอุตสาหกรรม เช่น ภาคการส่งออกขยายตัวติดลบ ภาคการท่องเที่ยวตัวเลขต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ รายจ่ายการลงทุนภาครัฐลดลง การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า ทำให้การลงทุนภาคเอกชนมีความไม่ชัดเจน และหนี้ภาครัวเรือนสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค" นางสาวพาพิชญ์ กล่าว

อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯด้วยดีเสมอมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเสนอผู้ถือหุ้นจ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิ สำหรับผลประกอบการประจำปี สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 โดยจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.13 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 96.59 ล้านบาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record Date) วันที่ 30 เมษายน 2567และจ่ายเงินปันผลวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 โดยบริษัทฯ จะจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น วันที่ 18 เมษายน 2567 เพื่อพิจารณามติดังกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ