26 มีนาคม เป็นวันโรคลมชักโลก (World Epilepsy Day หรือ Purple Day) กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ประมาณการว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคลมชักราว 6-7 แสนคน
เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคลมชักและการดูแลผู้ป่วยอย่างเหมาะสมให้กับคนในสังคม ศูนย์โรคสมองภาคเหนือ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้จัดกิจกรรมค่ายผู้ป่วยโรคลมชัก ครั้งที่ 12 ในหัวข้อ "ใช้ชีวิตฮื้อมีความสุขกับโรคลมชัก" ในวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2567 ณ ห้องประชุมแอนโดรมีดา อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยโรคลมชัก ทั้งผู้ป่วยโรคลมชักวัยเด็กและวัยผู้ใหญ่เข้าร่วมกิจกรรม ไม่ว่าจะมีการรักษาจากต้นสังกัดในจังหวัดใด รวมทั้งสามารถให้ผู้ปกครอง หรือผู้เกี่ยวข้องในการดูแลผู้ป่วย เช่น ครูพยาบาลของในโรงเรียน เข้าร่วมกิจกรรม โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
โรคลมชักเป็นโรคทางสมองที่สามารถเกิดขึ้นกับคนได้ทุกวัยตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงผู้สูงอายุ สาเหตุของโรคลมชักมีหลายประการซึ่งสามารถควบคุมและรักษาให้หายขาดได้ แต่เนื่องจากความไม่เข้าใจของสังคมทำให้ผู้ป่วยโรคลมชักส่วนหนึ่งต้องพบกับปัญหาในการดำรงชีวิตและเกิดความท้อแท้สิ้นหวังจากอคติและการไม่ยอมรับจากสังคม ทำให้ผู้ป่วยไม่ได้รับการศึกษาตามระบบหรือไม่สามารถหางานได้ ทั้งที่จริงแล้ว ผู้ป่วยโรคลมชักส่วนใหญ่สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้เป็นปกติไม่แตกต่างจากคนทั่วไป
อาการแสดงของโรคลมชักมีได้หลายแบบ ทั้งเกร็งกระตุก เหม่อ สะดุ้งผวา ทำอะไรซ้ำ ๆ ไม่มีจุดหมาย ในบางรายอาจมีน้ำลายยืดหรือปัสสาวะราดขณะมีอาการชัก โดยผู้ป่วยบางรายมีโอกาสเสียชีวิตจากอุบัติเหตุขณะมีอาการชัก ในกรณีที่ชักต่อเนื่องไม่หยุดและร่างกายมีอาการแข็งเกร็ง สมองอาจจะขาดออกซิเจน เกิดความพิการตามมาได้ อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างจริงจังและต่อเนื่องและพยายามหาสาเหตุของโรคลมชักนั้น ๆ จะมีโอกาสหายขาดจากโรคลมชักได้ ซึ่งการรักษาโรคลมชักที่สำคัญคือการรับประทานยากันชักเพื่อควบคุมอาการชัก
พญ.กมรวรรณ กตัญญูวงศ์ กุมารแพทย์สาขาประสาทวิทยา กรรมการบริหารศูนย์โรคสมองภาคเหนือ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ศูนย์โรคสมองภาคเหนือได้จัดกิจกรรมค่ายผู้ป่วยโรคลมชักต่อเนื่องทุกปี โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคลมชักให้มากขึ้นและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของผู้ป่วยและครอบครัวของผู้ป่วย เพื่อสร้างกำลังใจและความมั่นใจให้แก่ผู้ป่วยโรคลมชัก
"เราต้องการเผยแพร่ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับโรคลมชักไปสู่ชุมชนให้ได้มากขึ้น การร่วมกิจกรรมเปิดโอกาสให้ผู้ดูแลสามารถสอบถามปัญหาที่สงสัย หรือวิธีการดูแลเบื้องต้นเมื่อลูกมีอาการชัก อะไรที่กระตุ้นทำให้เกิดโรคลมชัก เราอยากให้ผู้ป่วยโรคลมชักและผู้ดูแล เข้าใจว่าโรคลมชักมีอาการอย่างไร ไม่ต้องกลัวเกินไป เพราะผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมจะสามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ " พญ.กมรวรรณ กล่าว
กิจกรรมค่ายผู้ป่วยโรคลมชัก ประกอบด้วย การเสวนาทางวิชาการ เช่น แนะนำอาการของโรคลมชัก อธิบายขั้นตอนการวินิจฉัยและรักษา ไม่ว่าจะเป็นการรักษาโดยยากันชัก การผ่าตัด วิธีการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยที่ถูกต้อง รวมถึงเทคนิคในการรับประทานยากันชักอย่างสม่ำเสมอ และเทคนิคในการปฐมพยาบาลผู้ป่วยขณะมีอาการชักอย่างถูกต้อง ฯลฯ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ดูแลได้ซักถามข้อข้องใจเกี่ยวกับโรคลมชัก
นอกจากนั้นในค่ายผู้ป่วยโรคลมชักยังมีช่วงเวลากิจกรรมที่จัดพิเศษที่เป็นการแสดงความสามารถของผู้ป่วย เช่น การเล่นเครื่องดนตรีประเภทต่าง ๆ การร้องเพลง และปีนี้ยังได้รับเกียรติจากวิทยากรภายนอก อาจารย์ บฤงคพ วรอุไร จากมหาวิทยาลัยพายัพ จ. เชียงใหม่ ซึ่งเป็นอาจารย์และนักดนตรีที่มีความสามารถ จะมาให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยและผู้เข้าร่วมกิจกรรมในการนำดนตรีมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะดนตรีนั้นมีผลต่อการพัฒนาสมอง
ผู้ที่สนใจร่วมกิจกรรมค่ายผู้ป่วยโรคลมชัก สามารถติดต่อมาที่ศูนย์โรคสมองภาคเหนือ โทรศัพท์ 053-935899 ในเวลาราชการ หรือ สแกน QR code เพื่อลงทะเบียน