เปิดอินไซด์วาเลนไทน์คู่รักปี 2024 การแสดงความรักในยุคดิจิทัลที่ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญในเรื่องชีวิตคู่ อยากมีแฟน - ติดแฟน และนิยมบอกรักผ่านโซเชียล
"วันวาเลนไทน์" เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งวันที่พิเศษสำหรับใครหลายคน โดยเฉพาะคนที่มีคู่รัก คู่ครอง เนื่องจากวันนี้ถูกยกให้เป็นตัวแทน "วันแห่งความรัก" โดยเหล่าคู่รักมักให้ความสำคัญกับวันพิเศษนี้ และเฉลิมฉลองในแบบฉบับของตัวเอง
"Brand Communication Agency" เอเยนซี่ด้านการสร้างแบรนด์ การตลาด การสื่อสารในไทยได้ทำการสำรวจความคิดเห็น Valentine's Online Survey ทั้งหมด 409 คน แบ่งเป็นเพศหญิง 67.20% เพศชาย 29.80% และไม่ระบุเพศ 2.90% เกี่ยวกับเทรนด์คนไทยฉลองเทศกาลวาเลนไทน์ 2024 โดยพบอินไซด์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนไทยที่น่าสนใจ
โดยผู้ที่ตอบแบบสอบถามอยู่ในสถานะภาพโสดมากถึง 39%, แต่งงานแล้ว 31.9%, In A Relationship 24.3%, Complicated หรือ สถานะไม่ชัดเจน 3.2% และ FWB (Friend with benefit) 1.7% ข้อนี้ที่น่าสนใจคือ สถานะ FWB (Friend with benefit) เริ่มเกิดขึ้นในความสัมพันธ์ รวมถึงคนไทยบางส่วนยังมีสถานะโสดเป็นส่วนใหญ่
มาถึงจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ นั่นก็คือการเริ่มมีแฟน โดยผลสำรวจระบุว่า คนไทยจะเริ่มมีแฟนคนแรกในช่วงอายุ 13-18 ปี (วัยมัธยม) มากถึง 35.5%, รองลงมาอายุ 18-23 ปี 33.5%, อายุ 23-28 ปี 14.9%, คนที่ไม่เคยมีแฟนเลยสักคน มีสัดส่วน 9% หรือประมาณ 37คน จากกลุ่มตัวอย่าง และเริ่มมีแฟนคนแรกในช่วงอายุ 29-33ปี 3.9%, 33ปีขึ้นไป 3.2% จากผลสำรวจนี้จะเห็นได้ชัดว่า "ความรัก" มักจะเกิดขึ้นในวัยรุ่น ช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย และใกล้ชิดกันในสถานศึกษา
ส่วนรักแรกนั้น คนส่วนใหญ่ชอบนัดออกเดทกันที่ห้างสรรพสินค้า/โรงหนัง มากถึง 50.5%, ร้านอาหาร/คาเฟ่ 29.2%, สวนสาธารณะ 11.5%, นัดเดทที่บ้าน 7.4% และลำดับสุดท้ายนัดเดทกันที่ Museums / Art gallery 1.5%
ด้านระยะเวลาที่คู่รักเริ่มต้นความสัมพันธ์และใช้เวลาคบหากันนั้น โดยคนที่มีแฟนใช้ระยะเวลาคบกันนานมากกว่า 5 ปี สูงถึง 48.5%, คบกันนาน 1-3 ปี 19.9%, คบกันไม่ถึง 1 ปี 16.4% และคบกันนาน 3-5 ปี 15.2% จากข้อนี้บ่งบอกได้ว่า คู่รักชาวไทยมีระยะเวลาความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างยาวนาน คบหากันมานานเกินกว่า 5 ปี ซึ่งในที่นี่จะมีการแสดงออกถึงความรัก ด้วยวิธีการให้ความรัก ดูแลเอาใจใส่กันและกันมากที่สุด 51.6%, รองลงมาต้องการไปหากิจกรรมทำร่วมกัน เช่น ดูหนัง ฟังเพลง 32.5%, ต้องการให้หลีกเลี่ยงการพูดคุยเรื่องที่ทำให้เครียด 7.8%, ต้องการให้คนรักมีเวลาให้มากขึ้น 7.1% และต้องการให้บอกรักผ่านสื่อออนไลน์ 1%
ซึ่งประเด็นความสัมพันธ์ ยังมีการพูดถึงเรื่องของ "ความซื่อสัตย์" ต่อคนรัก โดยกว่า 90.7% ยืนยันว่ารักเดียวใจเดียว ไม่เคยนอกใจ ส่วน 9.3% ระบุว่าเคยนอกใจ สับรางเก่ง ทั้งนี้ในปัจจุบันถ้าให้เลือกได้ คนไทยอยากโสดหรืออยากมีแฟน และผลจากการสำรวจนั้น คนยังอยากมีแฟนมากถึง 72.1%, อยากครองโสด 23.2% และถ้ามีเงินก็จะไปซื้อความสุขให้ตัวเอง อยู่ที่ 4.6% จากผลสำรวจนี้จะเห็นได้ว่า ตัวเลือก "ถ้ามีเงินก็จะไปซื้อความสุขให้ตัวเอง" เป็นการเปิดเผยว่า คนไทยยุคใหม่บางส่วน ต้องการใช้ชีวิตโสดแต่ก็ยังอยากหาความสุขให้ตัวเองโดยที่ไม่ได้ระบุสถานะแต่ใช้เงินในการซื้อความสุขให้กับตัวเอง
และจากผลสำรวจเรื่องความสำคัญกับเทศกาลวันวาเลนไทน์ พบว่า 56.7% รู้สึกเฉยๆกับเทศกาลวาเลนไทน์, ให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์ อยู่ที่ 36.4% และอีก 6.8% รู้สึกว่าวันวาเลนไทน์ไม่ได้สำคัญอะไรเลย สอดคล้องกับคำถามเรื่องความรู้สึกในวันวาเลนไทน์ เมื่อเห็นคนถือดอกไม้ หรือลงคอนเทนต์วาเลนไทน์ใน Social media 56.7% รู้สึกดีใจด้วย เพราะเคยผ่านจุดนั้นมาเหมือนกัน, 31.3% ไม่รู้สึกอะไร, 4.4% เบ้ปากแรง และรู้สึกรำคาญ 3.2% ซึ่งช่องทางที่คนยังชอบแสดงความรักในวันวาเลนไทน์ยังคงเป็น "โซเชียลมีเดีย" โดยผ่านช่องทาง Facebook มากที่สุดถึง 56.5%, โพสต์ลงในทุกช่องทาง 22%, Instagram 16.9%, TikTok 4.4% และ X (Twitter) น้อยที่สุด
ด้านคู่รักที่มักจะมีของสำคัญให้กันในวันวาเลนไทน์ จากการสำรวจกลับพบว่า ของขวัญที่อยากได้จากคนรักในเทศกลวาเลนไทน์กว่า 50.9% ไม่ต้องการของขวัญอะไรเลย เพียงแค่ได้ใช้เวลามีความสุขอยู่ด้วยกัน, 13.7% บอกรักด้วยคำพูด, 13.2% อยากได้สิ่งของแทนใจ, 12% ดินเนอร์ ดินใจ สองต่อสอง, ช่อดอกไม้บอกรัก 7.3% และบอกรักให้โลกรู้ผ่าน Social media 2.9%
ปิดท้ายที่คำถามว่าในเทศกาลวาเลนไทน์คนส่วนใหญ่อยากมอบความรัก ส่งความรู้สึกดีดีให้กับใคร โดยสูงที่สุดถึง 40.1% คืออยากมอบความรักให้คนรักหรือแฟน , รองลงมาเป็นมอบความรัก ส่งความรู้สึกดีดีให้กับพ่อ-แม่ 35.7%, มอบความรัก ส่งความรู้สึกดีดีให้กับตัวเอง 18.1%, พี่จองคัลแลน/ดาราศิลปินในดวงใจ 3.9% และมอบความรัก ส่งความรู้สึกดีดีให้กับเพื่อน 2.2%