LPP เดินหน้ากิจกรรม 60+ Earth Hour เตรียมผนึกกำลัง 261 โครงการ ปิดไฟ 1 ชั่วโมง "ลดโลกร้อน" วางเป้าลดพลังงานหลังกิจกรรมปีนี้เพิ่มขึ้น 30% หรือลดการใช้ไฟฟ้าได้กว่า 3,500 kWh ดีเดย์ คาดช่วยลดค่าไฟส่วนกลางได้กว่า 14,700 บาท/ชม. ร่วมใจพร้อมกันทั่วโลก 23 มี.ค. นี้
นางสาวสมศรี เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) ผู้นำในธุรกิจบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า LPP ร่วมสนับสนุนกรุงเทพมหานคร และ องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ WWF ขอเชิญชวนคนไทย และลูกบ้านที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการดูแลของ LPP กว่า 261 โครงการ หรือนับเป็นจำนวนผู้อยู่อาศัยกว่า 400,000 ราย ร่วมโครงการ 60+ Earth Hour โดยผนึกกำลังเพื่อร่วมใจกันปิดไฟและงดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น เป็นเวลา 1 ชั่วโมงพร้อมกันทั่วโลก เพื่อลดภาวะโลกร้อน ในวันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2567 เวลา 20.30-21.30 น. ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่ LPP ได้ให้ความสำคัญและรณรงค์อย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 17 เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาภาวะโลกร้อนและหันมาใส่ใจถึงวิธีในการแก้ไขและบรรเทาปัญหาสิ่งแวดล้อมกันได้มากขึ้น
"สำหรับปี 2567 นี้ LPP ได้วางเป้าหมายหลังการรวมพลังช่วยกันปิดไฟ 1 ชั่วโมง ใน 261 โครงการที่ดูแลว่าจะสามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 30% หรือลดการใช้ไฟฟ้าได้กว่า 3,500 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่ธรรมชาติไม่น้อยกว่า 2,037.35 กิโลคาร์บอน (kgCO2e) หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 255 ต้น และยังสามารถช่วยลดค่าไฟส่วนกลางไปได้กว่า 14,700 บาท/ชั่วโมง โดยเรามีการวางแผนในการดูแลรักษาความปลอดภัยของพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการกว่า 11 ล้านตารางเมตร เพื่อให้ลูกบ้านได้เข้าร่วมกิจกรรมได้อย่างอุ่นใจ ปลอดภัย และไม่กระทบต่อการอยู่อาศัย อีกทั้งยังร่วมรณรงค์ให้พนักงานในองค์กรของ LPP ที่มีจำนวนรวมกว่า 3,000 คน รวมพลังและเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อผลักดันเป้าหมายการลดใช้ไฟฟ้าในครั้งนี้อีกด้วย"
นอกจากโครงการ ปิดไฟ 1 ชั่วโมง ในกิจกรรมดังกล่าวแล้วนั้น LPP ยังดำเนินการต่อเนื่องในแต่ละโครงการ เช่น เสนอให้กรรมการพิจารณาปิดไฟจุดในที่ไม่มีความเสี่ยงเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ทุกสัปดาห์ และเชิญชวนให้แต่ละห้องชุดเข้าร่วมกิจกรรมลดการใช้พลังงานในห้องส่วนตัวอีกด้วย เพื่อช่วยกันลดโลกร้อน อีกทั้ง LPP ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนแนวทางปฏิบัติ และพัฒนาระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนผ่านการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่จะช่วยรณรงค์และผลักดันให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการตระหนักและเห็นถึงความสำคัญของการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในโครงการ การจัดการขยะมูลฝอย ลดการใช้กระดาษ แก้วน้ำพลาสติก ตลอดจนการอนุรักษ์พลังงาน ในรูปแบบทางเลือกของพลังงานทดแทน พลังงานสะอาดในโครงการที่อยู่อาศัย อาทิ การสนับสนุนให้ติดตั้ง Solar Roof และสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV Charger ในโครงการที่อยู่อาศัย รวมถึงทางเลือกในการใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อประหยัดพลังงานไฟฟ้าสำหรับเครื่องปรับอากาศ (Aircon Saver) ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งวิธีในการรับมือกับวิกฤตภูมิทางอากาศที่มีแนวโน้มสูงขึ้นได้
"ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจบริหารจัดการโครงการที่อยู่อาศัย ที่มีจุดยืนและความมุ่งมั่นในการส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ลูกบ้าน พนักงานในองค์กร ชุมชน และสังคมรอบข้าง LPP จึงมีความมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมเป็นพลังสำคัญในการดูแลและเปลี่ยนแปลงโลกของเราให้น่าอยู่มากขึ้น โดยการผลักดันและส่งเสริมให้ทุกคนเกิดจิตสำนึกรักษ์พลังงานและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า และสามารถเข้าถึงการใช้พลังงานสะอาดได้ง่ายมากขึ้น เพื่อนำการไปสู่การใช้ชีวิตประจำวัน ต่อยอดไปสู่อนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน" นางสาวสมศรี กล่าวในที่สุด