สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) หรือ Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN (THAILAND) เผยผลสำรวจเรื่องการคาดการณ์พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศไทยประจำเดือนเมษายน พ.ศ.2567 ว่า เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ที่คะแนนความต้องการการใช้จ่ายของคนไทยลดลงมาต่ำสุดของช่วงเวลาสงกรานต์ เมื่อเทียบกับผลสำรวจในช่วงเวลาเดียวกันย้อนหลัง 3 ปี จากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและสังคม ทำให้คนไทยส่วนใหญ่เลือกอยู่บ้านฮีลใจในวันหยุดยาวนี้
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ใครหลายๆ คน ได้หยุดยาวเพื่อพักผ่อนและเดินทางกลับบ้านเพื่อไปพบปะครอบครัวและใช้เวลาอยู่ด้วยกัน เพื่อหลีกเลี่ยงความพลุกพล่านของผู้คนพร้อมประหยัดค่าใช้จ่ายไปในเวลาเดียวกัน คุณศิรัญญา สวัสดิ์ชัยพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ จึงมองเห็นช่องว่างสำคัญนี้ ให้คำแนะนำกับแบรนด์ต่างๆ ได้ปรับตัวให้เติมเต็มกับสถานการณ์นี้ไว้ ดังนี้
1. ของมัน (จำเป็น) ต้องมี!
ในช่วงเงินทองขัดสน คนมักจะซื้อของเท่าที่จำเป็น แบรนด์สามารถกระตุ้นความต้องการในการใช้จ่ายได้ โดยเน้นที่ความจำเป็นและความคุ้มค่าของสินค้า ชูจุดแข็งและจุดต่าง พร้อมกับโอกาสในการใช้ที่ชัดเจน เพื่อให้คนรู้สึกอยากได้อยากมีสินค้าตัวนั้น เช่น การทำ Digital Content Campaign 50 เหตุผล ทำไมต้องมีพัดลมพกพาติดตัว เป็นต้น
2. Joy ให้สุด แม้จะหยุดอยู่บ้าน!
จากแนวโน้มที่คนเน้นการอยู่บ้าน หลบร้อน หลบค่าใช้จ่าย แบรนด์สามารถนำเสนอกิจกรรมหรือโปรโมชั่นเพื่อทำให้การพักผ่อนอยู่บ้านจอยมากขึ้น เช่น DIY Home Spa Retreat Kits พักกาย ผ่อนคลาย ด้วยชุดสปาทำเองง่ายๆ หรือ Lazy Day Deals โปรโมชั่นสินค้าอุปโภคบริโภค พร้อมบริการจัดส่งฟรีถึงบ้าน
สถาบันวิจัยฮาคูโฮโด อาเซียน ประเทศไทย ได้เผยอินไซต์และตัวเลขที่น่าสนใจที่ได้จากผลสำรวจในครั้งนี้ไว้ 2 หัวข้อใหญ่ คือ
1. ภาพรวมคะแนนแนวโน้มความต้องการใช้จ่ายของคนไทยลดลง 1% และต่ำสุดในช่วงสงกราต์เมื่อเทียบกับผลสำรวจช่วงเดียวกันในรอบ 3 ปี
ถึงแม้ปีนี้เทศกาลสงกรานต์ปีนี้น่าจะกลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิม แต่แนวโน้มการใช้จ่ายของคนไทยกลับสวนทาง ผลการศึกษาแสดงถึงแนวโน้มการใช้จ่ายในภาพรวมที่ลดลง โดยเฉพาะสิ่งจำเป็นอย่าง อาหาร และการอุปโภคบริโภคในบ้าน ด้วยเหตุผลทางสภาพเศรษฐกิจที่ยังคงฝืดเคือง ข่าวการเมือง และความรุนแรงของสังคมที่ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ อาจทำให้คนไทยอยากพักกายพักใจในช่วงวันหยุดยาวในครั้งนี้มากกว่าการไปเที่ยวหรือจับจ่ายใช้สอย
2. คะแนนความสุขลดลง 1% ผลกระทบหลักจากสภาพอากาศและเศรษฐกิจของประเทศไทย
จากผลสำรวจที่ผ่านมา ค่าความสุขของคนไทยคงเส้นคงวามาโดยตลอด จนมาถึงในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนพีคสุดของไทยในช่วงเดือนเมษายนนี้บวกกับสภาพเศรษฐกิจไทยที่เริ่มฝืดเคือง ส่งผลให้ค่าความสุขของคนไทยลดลง ถึงแม้คนไทยหลายคนจะยังมีหวังตั้งตารอคอยเงินดิจิทัลให้เป็นจริงเพื่อมาเติมพลังกายพลังใจให้ความสุขได้เพิ่มขึ้นในผลสำรวจครั้งต่อไป
เมื่ออ้างอิงจากผลสำรวจฉบับนี้ที่มีคำถามเรื่องกิจกรรมที่คนไทยอยากทำช่วงสงกรานต์ปี 2567 นั้น พบว่า กว่า 57% ของคนไทยเลือกพักผ่อนอยู่บ้าน ใช้เวลากับตัวเอง ฮีลใจฮีลกาย อยู่กับตัวเองมากกว่าอยู่กับครอบครัวและมากกว่าการเลือกออกไปเที่ยวข้างนอก เพราะต้องการหลบร้อน หลบค่าใช้จ่าย โดยจากผลสำรวจคนต่างจังหวัดเน้นการกลับมาอยุ่บ้านพร้อมหน้าตากับคนในครอบครัว ขณะที่คนกรุงเทพฯ ยังคงเป็นช่วงเวลาแห่งการได้ท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลหยุดยาว
สุดท้ายนี้ สถาบันวิจัยฮาคูโฮโด อาเซียน ประเทศไทย ได้เผยถึงความสนใจของคนไทยในการติดตามข่าวสารบ้านเมืองว่า ในประเทศไทย ข่าวสารเกี่ยวกับการเมืองกลับมาร้อนระอุอีกทั้งยังมีข่าวด้านอาชญกรรมเกิดขึ้นมากมาย คนไทยหันมาสนใจข่าวสารบ้านเมืองรอบตัวมากยิ่งขึ้น สภาพเศรษฐกิจเป็นที่จับตามองมากยิ่งขึ้นด้วยประเด็นเรื่องเงินดิจิตอลส่งผลทำให้เกิดความไม่มั่นใจในสภาพบ้านเมือง ในขณะที่ประเด็นข่าวเกี่ยวกับอาญชกรรมกลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจและถกเถียงในสังคมมากยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้ส่งผลต่อคะแนนความสุขที่ลดลงในผลการสำรวจฉบับนี้อีกด้วย