ปตท.สผ. เผยความก้าวหน้าการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2567 ประสบความสำเร็จในการเพิ่มอัตราการผลิตก๊าซฯ จากโครงการ G1/61 ช่วยลดผลกระทบด้านพลังงานให้กับประชาชน รวมทั้ง สามารถนำส่งรายได้จากการดำเนินธุรกิจให้กับรัฐกว่า 7,000 ล้านบาท เพื่อการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ
นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. กล่าวว่า ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ปตท.สผ. มีความคืบหน้าการดำเนินงานที่สำคัญตามแผนกลยุทธ์ โดยได้เพิ่มอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติในโครงการ G1/61 (แหล่งเอราวัณ ปลาทอง สตูล และฟูนาน) ขึ้นเป็น 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อช่วยลดผลกระทบด้านพลังงานให้กับประชาชน โดยบริษัทมีแผนที่จะติดตั้งแท่นหลุมผลิตและเจาะหลุมผลิตเพิ่มเติม เพื่อรักษากำลังการผลิตของโครงการอย่างต่อเนื่องและสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ
ปตท.สผ. ยังได้ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำต่าง ๆ ของไทยในโครงการ PTTEP Subsurface University Energy Connect เพื่อพัฒนางานวิจัยทางวิชาการด้านธรณีศาสตร์ วิศวกรรมปิโตรเลียม สร้างบุคลากรด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม รวมถึง การหาแหล่งกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเทคโนโลยีการดักจับและกักเก็บคาร์บอน หรือ CCS (Carbon Capture and Storage) เพื่อช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายสังคมคาร์บอนต่ำ โดยที่ผ่านมาได้ลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ปตท.สผ. ได้รับรางวัลต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ได้แก่ รางวัลสุดยอดองค์กรด้านนวัตกรรมและองค์ความรู้ ประจำปี 2566 The Global Most Innovative Knowledge Enterprise (MIKE) Award จัดขึ้นที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยสถาบันที่ปรึกษาด้านการจัดการความรู้และนวัตกรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (IKI-SEA) มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จากการส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมและองค์ความรู้อย่างเป็นระบบ รางวัล Green World Awards 2024 ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ประเภท Wildlife and Conservation โดย The Green Organization จัดขึ้นที่ประเทศบราซิล จากการดำเนินโครงการ ปตท.สผ. ปลูกป่าลดภาวะโลกร้อน และรางวัล Thailand Top Company Awards 2024 ประเภท "อุตสาหกรรมสำรวจและผลิตทรัพยากรธรรมชาติ และสาธารณูปโภค" จากนิตยสาร Business+
สำหรับด้านผลประกอบการในไตรมาส 1 ปี 2567 ปตท.สผ. มีรายได้รวม 78,812 ล้านบาท (เทียบเท่า 2,209 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลงประมาณร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2566 โดยปริมาณการขายเฉลี่ยลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 473,048 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณการขายของโครงการในต่างประเทศลดลง ขณะที่ราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยอยู่ที่ 47.24 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ปรับตัวลดลงเล็กน้อยตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก จึงส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิที่18,683 ล้านบาท (เทียบเท่า 524 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยยังคงรักษาต้นทุนต่อหน่วย (Unit cost) ไว้ที่ 28.96 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ และมีอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคาที่ร้อยละ 74
จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ปตท.สผ. ได้นำส่งรายได้ให้กับรัฐในรูปของภาษีเงินได้ ค่าภาคหลวง และส่วนแบ่งผลประโยชน์อื่น ๆ ในไตรมาส 1 ปี 2567 จำนวนกว่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ เช่น การพัฒนาชุมชน การศึกษา และการวิจัยและพัฒนา เป็นต้น นอกจากนี้ ส่วนแบ่งของผลผลิตปิโตรเลียมจากโครงการ G1/61 และ G2/61 ภายใต้สัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) ยังเป็นรายได้อีกส่วนหนึ่งที่รัฐได้รับโดยตรงจากการผลิตปิโตรเลียม เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศอีกด้วย