ผู้ถือหุ้น TSE อนุมัติจ่ายปันผลงวดปี 66 หุ้นละ 0.14 บาท ให้ยิลด์สูงถึง 11% โดยได้จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วหุ้นละ 0.09 บาท และจะจ่ายอีกในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท วันที่ 28 พ.ค.นี้ พร้อมเดินหน้าไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด 1,175 ล้านบาท ในวันที่ 29 เม.ย. นี้ ฟากซีอีโอ "ดร.แคทลีน มาลีนนท์" เผยปี 67 มุ่งประมูลงานโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั้งรอบที่ 2 และรอบที่ 3 และจับมือพันธมิตรรุกธุรกิจ Health Care เพื่อสร้าง New S-Curve และเสริมความแข็งแกร่ง คาดได้ข้อสรุปในครึ่งแรกปี 67
ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSE เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ที่ประชุมมีมติสำคัญ คือ อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดกว่า 100 ล้านบาท ส่งผลให้การจ่ายเงินปันผลสำหรับการดำเนินงานงวดปี 2566 อยู่ที่อัตราหุ้นละ 0.14 บาทคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) สูงถึง 11% และเนื่องจากบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวดวันที่ 1 มกราคม - 31 มีนาคม 2566 ไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.09 บาท ดังนั้นจึงมีเงินปันผลที่จะจ่ายอีกในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท รวมเป็นหุ้นละ 0.14 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) เป็นวันที่ 13 มีนาคม 2567 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 28 พฤษภาคม 2567
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในปี 2566 ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 1,898 ล้านบาท มีผลขาดทุนรวม 2,981 ล้านบาท เนื่องจากมีการจำหน่ายเงินลงทุนในโครงการโอนิโกเบ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2566 จึงต้องแยกแสดงผลประกอบการของโครงการดังกล่าวออกจากส่วนการดำเนินงานปกติ โดยแสดงเป็นรายการขาดทุนจากการดำเนินงานที่ยกเลิกจำนวน 1,946 ล้านบาท และผลขาดทุนจากการดำเนินงานต่อเนื่องจำนวน 1,035 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการบันทึกรายการพิเศษ (one time transaction) ได้แก่ ขาดทุนทางเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (หนี้สงสัยจะสูญ) จำนวน 1,036 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายการทางบัญชีที่ไม่กระทบต่อกระแสเงินสดและอัตราส่วนทางการเงินตามเงื่อนไขสัญญาเงินกู้ (non-cash item) ซึ่งหากพิจารณากำไรสำหรับปี โดยไม่รวมรายการพิเศษข้างต้น กลุ่มบริษัทฯ จะมีผลกำไรจากการดำเนินงานปกติจำนวน 401 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2567 กลุ่มบริษัทฯ เตรียมเข้าประมูลงานโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั้งรอบที่ 2 และรอบที่ 3 โดยตั้งเป้าหมายที่ 100 - 150 เมกะวัตต์ รวมทั้งเดินหน้ารุกธุรกิจ Private PPA (Private Power Purchase Agreement) หรือข้อตกลงการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งแบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) และแบบติดตั้งบนผืนน้ำ (Solar Floating) ของผู้ประกอบการธุรกิจแบบครบวงจร และมีแผนจะทำ M&A (Mergers and Acquisitions) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งกำลังการผลิต พร้อมทั้งจับมือกับพันธมิตรในรูปแบบกิจการร่วมค้า (Joint Venture) โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนในประเทศไทย และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในต่างประเทศอีกด้วย
รวมทั้งศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในโครงการใหม่ สายธุรกิจ Health Care กับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำธุรกิจ Wellness ซึ่งจัดอยู่ในเมกะเทรนด์และมีแนวโน้มการเติบโตสูง สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่คนในสังคมส่วนใหญ่ให้ความสนใจดูแลสุขภาพมากขึ้น เพื่อสร้าง New S-Curve และเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ เริ่มตั้งแต่การให้กำเนิดบุตร การรักษา และการป้องกัน เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ของการมีสุขภาพดีแบบองค์รวม โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นความคืบหน้าในช่วงครึ่งปีแรกนี้ ขณะที่งบลงทุนในปี 2567 จะมาจากการจำหน่ายโครงการโอนิโกเบ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินในประเทศญี่ปุ่น มูลค่า 3,357 ล้านบาท
ล่าสุด TSE ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับ นายแพทย์วิวรรธน์ ชินพิลาศ แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ซึ่งมีประสบการณ์กว่า 30 ปี และผู้ก่อตั้ง บริษัท บางกอก อินเฟอร์ทิลิตี้ เซ็นเตอร์ จำกัด ("BIC") ผู้ให้บริการคลินิก "Bangkok IVF Clinic" สำหรับคู่สมรสที่มีบุตรยาก โดยการใช้เทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ชั้นสูงอย่างครบวงจร ทั้งนี้ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพแบบครบวงจร โดยเริ่มตั้งแต่การให้บริการด้านการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ (IVF) ตลอดจนการรักษา การเสริมความงาม และการป้องกันเพื่อสุขภาพที่ดีและยืนยาว ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการรุกเข้าสู่ธุรกิจ Healthcare ซึ่งจัดอยู่ในเมกะเทรนด์และมีแนวโน้มการเติบโตสูง ตอบรับสังคมส่วนใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น เพื่อสร้าง New-S-Curve และเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ
ขณะเดียวกัน TSE ได้แจ้งใช้สิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2565 (TSE24OA) บางส่วนมูลค่า 1,175,000,000 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 50 ของเงินต้นหุ้นกู้คงค้างทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยเพื่อบรรเทาภาระดอกเบี้ยจ่าย ทั้งยังส่งผลให้สัดส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทลดลง โดยจะชำระค่าธรรมเนียมในการไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ ในอัตราร้อยละ 0.02 (หน่วยละ 1 บาท) กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนกรรมสิทธิ์หุ้นกู้ในวันที่ 17 เมษายน 2567 และจะชำระคืนเงินต้นบางส่วนและดอกเบี้ยในวันที่ 29 เมษายน 2567 ของหุ้นกู้ TSE24OA ก่อนครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 27 ตุลาคม 2567 ในอัตราดอกเบี้ย 5.10% ต่อปี