หน่วยธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค บริษัท DKSH เดินหน้าส่งเสริมความยั่งยืนด้วยการนำระบบโซลาร์เซลล์และรถบรรทุกไฟฟ้า (electric truck) มาใช้งาน เพื่อลดการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ พร้อมมุ่งขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้เกิดขึ้นในชุมชนและสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย
กรุงเทพมหานคร 30 เมษายน 2567 - หน่วยธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด คู่ค้าชั้นนำสำหรับบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคในภูมิภาคเอเชีย ประกาศจุดยืนในการส่งเสริมด้านความยั่งยืน ด้วยการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ และนำรถบรรทุกไฟฟ้ามาใช้งานที่ศูนย์กระจายสินค้าบางนา กม.20 จังหวัดสมุทรปราการ
แนวทางด้านการพัฒนาความยั่งยืนในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้แก่ชุมชนและสิ่งแวดล้อม โดยสามารถลดปริมาณการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 325 ตันต่อปี เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้จำนวน 450 ต้นต่อปี และลดปริมาณการใช้ถ่านหินจำนวน 250 ตันต่อปี ทั้งนี้ หน่วยธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคมีความมุ่งมั่นที่จะสานต่อการพัฒนาด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ผ่านการใช้โซลูชันพลังงานทดแทนและระบบขนส่งที่ใช้พลังงานสะอาดมากยิ่งขึ้น
สอดคล้องกับความมุ่งมั่นขององค์กรในด้านความยั่งยืน DKSH มุ่งสู่เป้าหมายการเป็นพันธมิตรด้านการขนส่งที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมทั้งสร้างระบบงานในคลังสินค้าและการขนส่งที่ยั่งยืน นอกจากนี้ DKSH ยังมีเป้าหมายในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2573 โดยเป้าหมายดังกล่าวสอดคล้องกับกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของ DKSH ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ เสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้แก่บุคลากร สร้างระบบขนส่งที่มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2573 และสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับชุมชนท้องถิ่น
"ความยั่งยืนเป็นส่วนสำคัญในค่านิยมองค์กรของ DKSH และเรามุ่งมั่นในด้านความรับผิดชอบต่อความเปลี่ยนแปลงด้านสภาพแวดล้อมที่โลกของเรากำลังเผชิญอยู่อย่างยิ่ง" Neil McCann, Vice President, Supply Chain Management, Thailand & Malaysia บริษัท DKSH กล่าว "การติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์และการใช้งานรถบรรทุกไฟฟ้าช่วยให้เราสามารถลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนและสร้างผลลัพธ์เชิงบวกให้เกิดขึ้นแก่ชุมชนที่เราดำเนินงานอยู่"
Damien Morot, Vice President, FMCG, Thailand & Laos and Head Country Management บริษัท DKSH ประเทศไทย กล่าวว่า "ความมุ่งมั่นในด้านความยั่งยืนไม่เพียงสอดรับกับค่านิยมองค์กรที่มุ่งเน้นความรับผิดชอบต่อบุคลากร พันธมิตร และโลกของเราเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างผลประโยชน์ให้กับพันธมิตรทางธุรกิจ ลูกค้า และสังคมในภาพรวม ทั้งนี้ ด้วยการผลักดันแนวทางการดำเนินงานที่ส่งเสริมด้านความยั่งยืน โดยการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ และการใช้งานรถบรรทุกไฟฟ้า เราไม่เพียงลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังสามารถลดค่าใช้จ่ายให้กับคู่ค้าของเรา พร้อมทั้งพัฒนาระบบงานและการขนส่งให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การใช้พลังงานทดแทน และการขนส่งที่ใช้พลังงานสะอาดยิ่งขึ้น ยังช่วยส่งเสริมสุขภาพและอนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นให้แก่ประชาชนชาวไทยทุกคน"