ปัจจุบัน องค์กรธุรกิจทั่วโลกให้ความสำคัญกับ Sustainability (ความยั่งยืน) และพยายามผลักดัน ให้ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ด้วยตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว วิทยาลัยนวัตกรรมบริหารธุรกิจและการบัญชี (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ได้จัดการประกวดโครงงานธุรกิจ ภายใต้ชื่อ "CIBA Mini Capstone 2023 (Series 2) ภายใต้แนวคิด "Business Innovation for Sustainability" หรือ แนวคิดธุรกิจเพื่อความยั่งยืน มีนักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิทยาลัย CIBA เข้าร่วมแข่งขันกว่า 30 ทีม โดยได้รับเกียรติจาก ดร. รชฏ ขำบุญ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมบริหารธุรกิจและการบัญชี (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ณ ห้องประชุม ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
ดร. รชฏ ขำบุญ คณบดี วิทยาลัยนวัตกรรมบริหารธุรกิจและการบัญชี (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เปิดเผยว่า เนื่องจากในปัจจุบันประเด็นเรื่องความยั่งยืนได้รับความสนใจจากทั่วโลก ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1 CIBA จึงจัดโครงการ CIBA Mini Capstone 2023 (Series 2) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาคิดค้นนวัตกรรมและพัฒนาธุรกิจรูปแบบใหม่ให้สอดคล้องกับบริบทการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจในอนาคต โดยหัวข้อของการประกวดจะเกี่ยวข้องกับการนำเทคโนโลยีมาสร้างนวัตกรรมทางธุรกิจให้เกิดความยั่งยืน เป็นการปลูกฝังให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ ใส่ใจ สิ่งแวดล้อมและสังคมมากขึ้น
นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างรากฐานให้สอดคล้องกับการประกอบธุรกิจในอนาคตที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง Carbon Footprint และ Carbon Tax ซึ่งมีบางประเทศนำมาใช้เป็นเงื่อนไขในการนำเข้า-ส่งออกสินค้า อย่างไรก็ตาม การจัดงานประกวดครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการเตรียมความพร้อมและปลูกฝังแนวคิดด้านความยั่งยืนให้กับนักศึกษารุ่นใหม่ เพื่อให้พร้อมสำหรับการประกอบธุรกิจในอนาคต สำหรับทีมที่ได้รับรางวัลรวมถึงทีมที่เป็นดาวเด่น จะได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมแข่งขันในระดับประเทศต่อไป
อาจารย์สิรภพ รุตรัตนพล หัวหน้าโครงการฯ อาจารย์ประจำหลักสูตรการตลาดยุคดิจิทัล และ อาจารย์เกื้อจิตร ชีระกาญจน์ อาจารย์ประจำหลักสูตรบริหารธุรกิจ วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี DPU ร่วมให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า โครงการฯนี้ เป็นการบูรณาการการเรียนการสอนของนักศึกษาปี 1 ในกลุ่มวิชาบริหารธุรกิจ 3 วิชา ได้แก่ การตลาด การบัญชี และกฎหมายธุรกิจ โดยนักศึกษาต้องใช้ความรู้ที่เรียนมาจำลองให้เกิดเป็นธุรกิจ ซึ่งก่อนแข่งขัน อาจารย์ประจำหลักสูตรต่าง ๆ จะคอยให้คำปรึกษาและแนะแนวทาง เพื่อให้นักศึกษาได้มองเห็นภาพรวมของการทำธุรกิจในปัจจุบัน นอกจากนี้ นักศึกษาต้องลงพื้นที่ทำวิจัยกับกลุ่มลูกค้าจริง (Customer Research) และทดสอบกับลูกค้าจริงด้วย เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบให้สมบูรณ์ที่สุดก่อนเข้าประกวด เมื่อขึ้นปี 3 โครงการฯดังกล่าวจะถูกต่อยอด ในระดับ Capstone Project ซึ่งเป็นการบูรณาการการเรียนรู้ข้ามศาสตร์และข้ามคณะ หรือเป็นการสร้างโครงงานร่วมกันระหว่างนักศึกษาแต่ละหลักสูตรเพื่อให้สินค้าและบริการเกิดเป็นรูปธรรมมากขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วนของภาพรวมของทั้ง 10 ทีมที่เข้ารอบ ทุกทีมนำเสนอผลงานได้อย่างดีเยี่ยม และมีคะแนนไม่ต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่ทำให้ทีม Sir Stephen ที่นำเสนอไอเดียการทำธุรกิจ WRAP TATO หรือ แรปใสถนอมอาหารผลิตจากเปลือกมันฝรั่ง โดดเด่นและคว้าแชมป์ไปครอง คือ การนำเสนอที่โดนใจคณะกรรมการทั้งในเรื่องของ การออกแบบ Presentation และการ Pitching นอกจากนี้ ไอเดียธุรกิจนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่จะก่อตั้งเป็นธุรกิจขึ้นจริงในอนาคตได้
นายรินทา อัศวปรีชา (วิน) นักศึกษาชั้นปี 1 สาขาการเงินและเทคโนโลยีการลงทุน CIBA DPUตัวแทนของทีม Sir Stephen กล่าวว่า ไอเดียการทำ ธุรกิจ WRAP TATO หรือ แรปใสถนอมอาหารผลิตจากเปลือกมันฝรั่ง มาจากการได้รับคำแนะนำจากรุ่นพี่ท่านหนึ่งว่ามีธุรกิจในลักษณะนี้ในประเทศออสเตรเลีย แต่ยังอยู่ในระดับครัวเรือน ทีมจึงศึกษาแนวคิดเพื่อนำมาทำให้เกิดขึ้นจริงในระดับอุตสาหกรรม ส่วนสิ่งที่ทำให้ทีมชนะใจคณะกรรมการน่าจะมาจากการ Pitching ที่ดี นอกจากนี้โมเดลธุรกิจยังมีความเป็นไปได้และตรงกับแนวคิดการสร้างสินค้าที่ยั่งยืน โดยนำขยะเปลือกมันฝรั่งมาแปรรูปเป็นสินค้าทดแทน ซึ่งจะช่วยลดมลพิษและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
"การเลือกเรียนที่ CIBA นอกจากได้เรียนรู้เรื่องทฤษฎีแล้ว ยังได้ทดลองปฏิบัติจริงด้วย นอกจากนี้ยังมีโอกาสและช่องทางในการทำธุรกิจใหม่ๆจาก Connection ขององค์กรที่เป็น Partner กับทางมหาวิทยาลัย รวมถึงโอกาสในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ที่สำคัญการได้รับการปลูกฝัง 6 ทักษะ สำคัญ ผ่าน DPU CORE อาทิ การเป็นผู้ประกอบการ, การสื่อสาร, การคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา, ความคิดสร้างสรรค์, การทำงานเป็นทีม และความรู้ด้านเทคโนโลยี นับเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนออกสู่การทำงานจริงได้เป็นอย่างดีครับ" นายรินทา กล่าวในตอนท้าย