"บมจ.โรแยล พลัส" หรือ PLUS ประกาศงบโค้งแรกปี 67 กำไรสุทธิอยู่ที่ 12.8 ลบ. โต 56% รายได้รวม 314.9 ลบ. โต 29% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ผลจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของยอดขายในทุกภูมิภาคของโลก และออเดอร์ทวีปอเมริกากลับมาเป็นปกติ รวมทั้งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เครื่องดื่มน้ำมะพร้าว 100% ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ "COCO ROYAL" รองรับตลาดที่เติบโต คาดเห็นยอดขายที่ชัดเจนตั้งแต่ Q2/67 นี้เป็นต้นไป ด้าน "พลแสง แซ่เบ๊" แม่ทัพใหญ่ เชื่อมั่นปี 67 ผลงานเติบโตอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 40-50% หลังไลน์การผลิตใหม่ PET Aseptic สามารถเดินเครื่องผลิตและส่งออกได้แล้วตั้งแต่ Q1/67 ที่ผ่านมา
นายพลแสง แซ่เบ๊ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ PLUS เปิดเผยว่า ผลประกอบการในงวดไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 12.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 56.1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 8.2 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิ 4.1% ของรายได้รวม เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 3.4%
โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 313.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของยอดขายในทุกภูมิภาค ได้แก่ ทวีปอเมริกาเหนือโต 52.5% ทวีปตะวันออกกลางโต 35.1% และทวีปเอเชีย เติบโต 18.2% ประกอบกับไตรมาสแรกของปีนี้ สถานการณ์การสั่งซื้อสินค้าของทวีปอเมริกากลับมาเป็นปกติไม่มีผลกระทบเรื่องการกระจายสินค้าและฤดูหนาวที่ยาวนานเหมือนปีก่อน นอกจากนี้ ในไตรมาส 1/2567 บริษัทฯได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เครื่องดื่มน้ำมะพร้าว 100% ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ "COCO ROYAL" รองรับตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเห็นยอดขายที่ชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 2/2567 เป็นต้นไป "บริษัทมีต้นทุนการขายรวมสำหรับ Q1/67 อยู่ที่ 244.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.7% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสอดคล้องกับยอดขายที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นตามอัตรากำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงให้ความสำคัญในการบริหารและควบคุมต้นทุนการผลิตและต้นทุนการขายให้ได้ประสิทธิภาพตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ บริษัทได้มีการติดตั้งสายการผลิตใหม่ ตลอดจนเพิ่มกำลังคน เพื่อรองรับแผนการผลิตสินค้าที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นในช่วงไฮซีซั่น ในไตรมาสที่ 2 อีกด้วย"
สำหรับกลยุทธ์การเติบโตและแผนธุรกิจของบริษัทในปี 2567 จะมาจากการขยายช่องทางการขาย ควบคู่ไปกับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และไลน์การผลิตใหม่อย่าง PET Aseptic ที่ผลิตและส่งออก พร้อมสร้างยอดขายแล้วในไตรมาส 1/2567 ที่ผ่านมา ซึ่งเครื่องจักร PET Aseptic มีความสามารถในการผลิตสูงระดับ 48,000 ขวดต่อชั่วโมง เสริมกำลังการผลิตเริ่มต้นได้ 150 ล้านขวดต่อปี ซึ่งสามารถรองรับดีมานด์ของลูกค้าได้มาก จะทำให้ PLUS สามารถดันรายได้นิวไฮเติบโตได้มากกว่า 40-50% ในปี 2567 นี้
ส่วนแผนการขยายสาขาที่ขายในห้าง Walmart สหรัฐอเมริกา ให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยเพิ่มจาก 3,000 สาขาในปัจจุบัน เป็น 4,000 สาขาภายในปี 2567 ขณะที่ความคืบหน้าของการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย (Distributor) ในอนาคต ซึ่งจากการทำการตลาดและการขายเชิงรุกในปีที่ผ่านมา บริษัทได้ ดิสทริบิวเตอร์ รายใหม่มากกว่า 30 ราย ในปี 2567 บริษัทมีแผนเพิ่มดิสทริบิวเตอร์มากขึ้นด้วย