บมจ.ที คิว อาร์ (TQR) ไม่มีแผ่ว! โชว์ผลงานไตรมาส 1/67 กำไรสุทธิ 30.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.22% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ อานิสงส์รายได้ธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อ Alternative-Traditional โตแรง ฟากบิ๊กบอส "ชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์" มั่นใจผลงานปี 67 ออลไทม์ไฮต่อเนื่อง จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยต่อรูปแบบใหม่ ร่วมกับ TQM ALPHA ทั้ง ประกันภัยต่อสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล-Cyber-EV-D&O ขณะที่ บ.ร่วมทุน อัลฟ่าเซคฯ-อาร์สแควร์ฯ มีรายได้สม่ำเสมอ เตรียมพร้อมเข้าศึกษาลงทุน M&A ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก คาดชัดเจนปีนี้ หนุนผลงานโตแกร่ง
นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) (TQR) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 1/2567 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567) มีกำไรสุทธิ 30.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.22% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 26.72 ล้านบาท และมีรายได้รวม 80.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.55% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 66.38 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่
สำหรับปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้รายได้และกำไรเพิ่มขึ้น มาจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบพัฒนาช่องทางและผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกัน (Alternative Business) และธุรกิจนายหน้าประภัยต่อแบบทั่วไป (Traditional Business)
"ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทฯ ยังคงทำผลงานเติบโตได้ตามเป้าหมาย จากการคิดค้นพัฒนา ผลิตภัณฑ์ประกันภัยต่อรูปแบบใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประกันภัยต่อสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล จากการที่ภาครัฐส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศต่อเนื่อง ประกอบกับผู้บริโภคมีความต้องการทำประกันภัยเพิ่มมากขึ้น ส่วนประกันภัยต่อการก่อการร้ายและภัยทางการเมือง (Political Violence) รวมถึงประกันภัยไซเบอร์ ของ บริษัท อัลฟ่าเซค จำกัด เป็นบริษัทร่วมทุน มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน" นายชนะพันธุ์กล่าว
นางยุพเรศ พิริยะพันธุ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) (TQR) กล่าวว่า บริษัทฯ ประเมินว่า ในปีนี้ น่าจะเป็นปีที่สามารถสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ จากการมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยต่อรูปแบบใหม่ๆ ร่วมกับ บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) (TQM) ทั้งประกันภัยต่อสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล, ประกันภัยไซเบอร์, ประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV), ประกันภัยความรับผิดของกรรมการและเจ้าหน้าที่บริหาร (Directors and Officers)
ขณะที่ ธุรกิจประกันภัยไซเบอร์ ที่ทำร่วมกับ บริษัท อัลฟ่าเซค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน โดย TQR ถือหุ้นในสัดส่วน 30% เริ่มทยอยรับรู้รายได้อย่างสม่ำเสมอ จากฐานลูกค้าในกลุ่ม Software provider ,Manufacturing, Financial และ กลุ่มโรงพยาบาล เป็นต้น และมีการขยายไปยังกลุ่มลูกค้ารายใหม่เพิ่มเติม ในอนาคตยังสามารถขยายไปในประกันภัยด้าน Digital Asset ได้อีกด้วย ในส่วนของธุรกิจให้บริการ (Service) ของบริษัท อาร์สแควร์ จำกัด ปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการแล้วจำนวน 4 ราย และอยู่ระหว่างการเจรจาเพิ่มเติมอีกประมาณ 3 ราย คาดว่า จะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้
ทั้งนี้ TQR กำลังอยู่ระหว่างการเข้าศึกษาความเป็นไปได้ทางธุรกิจ เพื่อเข้าลงทุน ในรูปแบบ M&A กับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก เพื่อเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ คาดว่า จะเห็นความชัดเจน 1-2 ราย ภายในปีนี้
"เรามีการประเมินความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งภัยธรรมชาติ สภาพเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และ TQR ไม่เคยหยุดคิดค้น พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยต่อรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์ และความต้องการของลูกค้าและคู่ค้าในปัจจุบัน พร้อมทั้งมองหาโอกาสการเข้าลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก เพื่อสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ และมั่นใจว่า ปัจจัยเหล่านี้ จะเป็นส่วนช่วยผลักดันให้รายได้เติบโตที่ระดับ 10% จากปีก่อน" นางยุพเรศกล่าวในที่สุด