บมจ. นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น หรือ NAM มั่นใจเป้าหมายรายได้ปี 67 เติบโตไม่ต่ำกว่า 13-15% จากแผนกลยุทธ์ขยายธุรกิจต่อยอดกรอบการทำงาน อีกทั้งรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมทางการแพทย์ ล่าสุดอนุมัติงบประมาณปี 67 เรียบร้อย ด้านบอสใหญ่ "วิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ" แจงถึงผลงานไตรมาสแรกลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน เหตุตั้งสำรองค่าใช้จ่ายพิเศษ แต่มั่นใจรับรู้รายได้และผลงานกลับเข้าสู่โหมดปกติภายในไตรมาส 2/67 หลังรัฐฯย้ำหน่วยงานเดินแผนเร่งรัดการเบิกจ่าย สนับสนุนฐานลูกค้าใช้งบฯตามปกติ หนุนผลงานบริษัทฯ เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ สร้างสถิติสูงสุดใหม่
นายวิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) (NAM) ดำเนินธุรกิจ ผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงผลิตภัณฑ์สิ้นเปลืองทางการแพทย์ และให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ มั่นใจรายได้ปี 2567 เติบโตแบบ Organic growth จากธุรกิจหลักประมาณ 13-15% จากปีก่อน โดยคาดการณ์ความต้องการใช้เครื่องมือเพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์เพิ่มขึ้นตามนโยบายภาครัฐที่ต้องการให้คนไทยเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่มีมาตรฐานอย่างทั่วถึง ประกอบกับนโยบาย Medical Hub และ Medical tourism ศูนย์กลางอุตสาหกรรมทางการแพทย์ครบวงจรและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
อีกทั้งบริษัทฯ วางแผนกลยุทธ์ ขยายฐานรายได้กลุ่มงานบริการจากการร่วมมือกับพันธมิตร มองหาการลงทุนในต่างประเทศเพื่อต่อยอดธุรกิจ ขยายการขายในต่างประเทศ และขยายกลุ่มตัวแทนจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเป็นฐานในการกระจายสินค้า อีกทั้งมีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Healthcare รวมถึงมุ่งเน้นงานนวัตกรรม วิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่ให้ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่ม B2C ประกอบกับขยายโรงงานเพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิต ทำให้เชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 205.95 ล้านบาท ลดลง 26.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งรายได้ของบริษัทฯ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ กลุ่มผลิตภัณฑ์สิ้นเปลืองทางการแพทย์ และกลุ่มการให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร โดยรายได้ที่ลดลงมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์สิ้นเปลืองทางการแพทย์ และ กลุ่มการให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 8-9%
ทั้งนี้ บริษัทฯมีรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 200.45 ล้านบาท ลดลง 78.35 ล้านบาท หรือคิดเป็น 28.10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 278.80 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 13.27 ล้านบาท ลดลง 44.35 ล้านบาท หรือคิดเป็น 76.97% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 57.62 ล้านบาท เนื่องจากมียอดค้างรับจากโรงพยาบาลรัฐบาล 3 แห่ง จึงมีการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับมีแผนเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณฯ ส่งผลทำให้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะรับรู้รายได้กลับเข้ามาในไตรมาส 2/2567 และสามารถสร้างผลการดำเนินงานทั้งปีเติบโตตามเป้าหมาย
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 5/2567 มีมติจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ในนาม "บริษัท ไอแนป (ประเทศไทย) จำกัด" ร่วมกับ Somnics, Inc. ประเทศไต้หวัน โดยมีสัดส่วนโครงสร้างการถือหุ้น 80:20 ตามลำดับ เพื่อประกอบกิจการผลิตและขายเครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์ลดอาการการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ ซึ่งเป็นไปตามแผนการขยายธุรกิจเพื่อมุ่งสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว