ธนาคารทหารไทย-ไอเอ็นจี มั่นใจพันธมิตรใหม่พร้อมรุกธุรกิจต่อเนื่อง หลังจากประสบความสำเร็จในงานมันนี่เอ็กซ์โปพร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต 15 พ.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 12, 2008 10:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--ธนาคารทหารไทย
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารและบริษัทในเครือร่วมกับกลุ่มไอเอ็นจี ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ในการแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินแก่ลูกค้าในงานมันนี่เอ็กซ์โปครั้งที่ 8 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า ประสบความสำเร็จและได้รับความสนใจเป็นอย่างดี โดยคาดว่ามีปริมาณธุรกรรมรวมทั้งเงินฝากและสินเชื่อ รวมประมาณ 1,800 ล้านบาท ใน 4 วันของการจัดงาน ซึ่งสูงกว่าปีก่อนหน้าประมาณ 15%
ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจอย่างสูงได้แก่ เงินฝากประจำแบบลอยตัว (TMB Floating Term Deposit) สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน สินเชื่อบุคคลและบัตรเครดิต อนุมัติภายใน 1 วัน และสินเชื่อเอสเอ็มอี ตลอดจนการนำเสนอบริการเสริมไฮเทค เช่น เปิดรับสมัครลูกค้าใช้บริการเอสเอ็มเอสแบงกิ้ง และ อินเตอร์เน็ตแบงกิ้ง รวมทั้งกองทุนรวมของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทหารไทย จำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ลักซัวรี่ ซึ่งอยู่ในระหว่าง IPO ก็ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างสูง ส่วนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทไอเอ็นจีประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด ก็มาร่วมแนะนำบริษัทและผลิตภัณฑ์ในบูธเดียวกัน
“ขณะนี้ ทั้งไอเอ็นจีประกันชีวิต และ บลจ. ไอเอ็นจี และธนาคารทหารไทย มีความพร้อมอย่างยิ่งที่จะรุกธุรกิจร่วมกัน โดยช่วงที่ผ่านมา เราได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด และทางไอเอ็นจี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาเป็นเวลานาน ก็ได้จัดฝึกอบรมพนักงานสาขาทั่วประเทศของธนาคารรวมทั้งเตรียมเครื่องมือในการสนับสนุนการขายเพื่อการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและกองทุนรวมของไอเอ็นจีตามที่กำหนด โดยในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ก็จะมีการเปิดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตไอเอ็นจี รวม 4 ผลิตภัณฑ์เป็นวันแรก” นายสถิตย์กล่าว
ทั้งนี้ ธนาคารทหารไทยและไอเอ็นจี ได้เข้าร่วมกันเป็นพันธมิตรนับตั้งแต่ธนาคารทหารไทยประสบความสำเร็จในการเพิ่มทุนเมื่อเดือนธันวาคม 2550 ทำให้ธนาคารมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งเพื่อการเดินหน้าขยายธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการทางการเงินของลูกค้าครบทุกด้านอย่างต่อเนื่อง โดยภายหลังจากการเพิ่มทุนธนาคารมีกระทรวงการคลังและกลุ่มไอเอ็นจี เป็นผู้ถือหุ้นหลักของธนาคารที่มีสัดส่วนการถือหุ้น 26.1% และ 31.1% ตามลำดับ โดยธนาคารมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (CAR) 14.4% ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกันกับธนาคารชั้นนำอื่นๆ ของประเทศ และในไตรมาสที่ 1 ของปี 2551 ธนาคารมีผลประกอบการและบริษัทย่อยมีผลกำไรก่อนการสอบทานกว่า 1,500 ล้านบาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
สำนักสื่อสารภาพลักษณ์องค์กร
โทร.02 242-3255 , 02 242-3260

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ