กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ศูนย?ข?อมูลอสังหาริมทรัพย? ธนาคารอาคารสงเคราะห? เปิดเผยข้อมูลที่อยู?อาศัยสร?างเสร็จจดทะเบียนใหม่ ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 5 จังหวัด ในสองเดือนแรกของปี 2551 มีจํานวนรวม 9,399 หน่วย ลดลงจากช?วงเดียวกันของป?ก?อนร?อยละ 7 โดยในจำนวนนี้เป?นที่อยู?อาศัยสร?างเสร็จจดทะเบียนใหม่ในเขตกรุงเทพฯ จํานวน 5,505 หน?วย เพิ่มขึ้นจากช?วงเดียวกันของป?ก?อนร?อยละ 1 ส?วนในเขตปริมณฑลมีจํานวน 3,894 หน?วย ลดลงจากช?วงเดียวกันของป?ก?อนร?อยละ 17
นายสัมมา คีตสิน ผู?อํานวยการศูนย?ข?อมูลฯ ชี้แจงเพิ่มเติมว?า ในสองเดือนแรกของป? 2551 ที่อยู?อาศัยสร?างเสร็จจดทะเบียนใหม่ในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีจํานวนบ?านเดี่ยวสร?างเสร็จจดทะเบียน 5,834 หน?วย มีห?องชุดจํานวน 1,861 หน?วย มีจํานวนทาวน?เฮาส?และอาคารพาณิชย? 1,631 หน?วย และมีบ?านแฝดเพียง 73 หน?วย
ในเขตปริมณฑล มีเพียงปทุมธานีจังหวัดเดียวเท่านั้น ที่มีที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 36 ซึ่งประเภทที่อยู่อาศัยที่มีการจดทะเบียนเพิ่มสูงสุด ได้แก่ ทาวน์เฮาส์และอาคารพาณิชย์ มีจำนวน 266 หน่วย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ102 ขณะที่บ้านเดี่ยว มีจำนวน 642 หน่วย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 20
เมื่อรวมจํานวนที่อยู?อาศัยแนวราบทุกประเภทในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล คือบ?านเดี่ยว บ?านแฝด ทาวน?เฮาส?และอาคารพาณิชย? มีจํานวนรวมทั้งสิ้น 7,538 หน?วย ลดลงจากช?วงสองเดือนแรกของป?ก?อน ร้อยละ 14 โดยโครงการบ้านจัดสรรแนวราบ ที่มีหน่วยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ มากที่สุด อยู่ในเขตลาดกระบัง เขตประเวศ เขตหนองแขม อำเภอบางใหญ่ เทศบาลนครนนทบุรี และอำเภอลาดหลุมแก้ว
สำหรับที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ประเภทอาคารชุด ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลรวมกัน ในสองเดือนแรกของปี มี 1,861 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 จากจำนวน 1,375 หน่วยในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยพื้นที่ที่มีจำนวนหน่วยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ มากที่สุด คือ เขตพระโขนง เขตห้วยขวาง เขตราชเทวี และเขตลาดพร้าว
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ประเมินว่า เนื่องจากมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอน การจดจำนอง และภาษีธุรกิจเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ เพิ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนเมษายนและมีกำหนดสิ้นสุดในปลายเดือนมีนาคม 2552 น่าจะเป็นปัจจัยให้ผู้ประกอบการพยายามเร่งงานพัฒนาโครงการที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างให้แล้วเสร็จจนสามารถขายและพร้อมโอนได้ภายในเงื่อนเวลาสิ้นปีนี้ต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกปี 2552 แทนที่จะพัฒนาโครงการใหม่ซึ่งต้นทุนในการก่อสร้างกำลังปรับตัวสูงขึ้นมากจากราคาวัสดุก่อสร้างและราคาน้ำมัน โดยในปัจจุบันมีโครงการบ้านจัดสรรที่อยู่ในระหว่างก่อสร้างในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลประมาณ 28,000 หน่วย และมีโครงการอาคารชุดที่ในระหว่างก่อสร้างในช่วงเวลาแล้วเสร็จต่างๆกันรวมประมาณ 36,000 หน่วย คาดการณ์ว่าที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ในปี 2551 จะมีจำนวนประมาณ 75,000-78,000 หน่วย